KS Daily View 30.09.2022 > คาดแกว่งตัว 1585 –1600 จุด ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ และชะลอการลงทุนรอการตัดสินปมนายก 8 ปี SET วันนี้คาดแกว่งตัว 1585 –1600 จุด หุ้นแนะนำ GULF, TU

ประเด็นที่เกิดขึ้นเมื่อวาน

ต่างประเทศ : เป็นอีก 1 ที่สินทรัพย์ต่างๆผันผวนสูง โดยเมื่อคืนตลาดหุ้นทั่วโลกกลับพักฐานอีกครั้งหลังจาก Rebound ในวันก่อนหน้า  เริ่มจากฝั่งสหรัฐ :  ดัชนี Dow Jones -1.5%DoD, NASDAQ -2.8% (Apple-4.9%, Google -2.6% ฯลฯ)  โดยทุก  Sector ในดัชนี S&P500 พลิกกลับมาปรับลง หลักๆคือ Utilities -4.1%,Consumer Discretionary -3.4%, Real estate-2.9%  ส่วนกลุ่มที่ลงน้อยสุดคือ Energy -0.13% ฯลฯ แรงกดดันมาจากเรื่องเดิม คือ Fed เร่งใช้นโยบายการเงินตึงตัว  เนื่องจากเมื่อคืน

1.) รายงานตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสหรัฐลดลง 1.6 หมื่นราย อยู่ที่  1.93 แสนราย ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังแข็งแกร่ง สนับสนุน Fed ขึ้นดอกเบี้ย

2.) ประธาน Fed Jame Bullard และ  Mester แสดงความเห็น Fed เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย    โดย Fed Fund Futrues คาดการประชุม Fed ที่เหลือในปีนี้อีก 2 ครั้ง คือ รอบ พ.ย. และ ธ.ค. คาด Fed จะขึ้นดอกเบี้ย 75 : 50 bps เช่นเดียวกับฝั่งยุโรป : ดัชนี DAX -1.7%, CAC -1.5% ผลจากตลาดกังวลว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยังต้องเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ หลังจากเยอรมันรายงานเงินเฟ้อ เดือนก.ย. ที่ 10.9%YoY สูงสุดในรอบ  25 ปี

โดยรวมตลาดหุ้นกลับมากังวลเรื่องเดิม คือ เงินเฟ้อยังทรงตัวสูง ทำให้ธนาคารกลางจำเป็นต้นขึ้นดอกเบี้ย และทำให้สินทรัพย์เสี่ยงพักฐาน , Bond Yields ทั่วโลกกลับมาเป็นขาขึ้น เห็นได้จาก Bond Yields สหรัฐ อายุ  2 ปี และ 10 ปี อยู่ที่ 4.2% และ 3.78% แต่สกุล Dollar ระยะสั้นกลับแกว่งตัวอ่อนค่าลง อยู่ที่ 111.8 จุด คาดจะทำให้ค่าเงินสกุลอื่นแข็งๆค่า เป็นปัจจัยบวกต่อ Fund Flow

ในประเทศ :  SET Index เมื่อวานปิด 1592.37 จุด (-0.43%DoD) Sector ที่ปรับลงหลักๆ คือ กลุ่มพลังงาน GPSC -4.1%, PTT -2.1%, กลุ่มประกันชีวิต BLA -2.8%, TLI -3%  ส่วน Sector ที่ขึ้นเด่นคือกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์  DELTA +5.4%  กลุ่มธนาคาร BBL+1.5%, SCB +1%  ความผันผวนของตลาดหุ้นช่วงบ่าย เกิดจาก Rollover สัญญา Futures จากสัญญา U22 ไปสู่ Z22

ประเด็นที่ต้องติดตาม

ต่างประเทศ :  สัปดาห์หน้า ตลาดหุ้นจีนปิดทั้งสัปดาห์ 1-7 ต.ค. เนื่องจากเป็นวันชาติจีน Golden week   หลักๆ ให้น้ำหนักไปที่ฝั่งสหรัฐ

1.) ติดตาม  7 ต.ค. ตัวเลขแรงงานสหรัฐคือ Nonfarm payrolls ของเดือน ก.ย. ตลาดคาด  2.5 แสนราย  VS. 3.15 แสนรายของเดือน ส.ค.

2.) ประชุม OPEC+ วันที่ 5 ต.ค.  และกลางเดือนติดตาม13 ต.ค. ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อสหรัฐ  เดือน ก.ย. และฝั่งจีน ติดตามการประชุมสมัชชาใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน วันที่ 16 ต.ค.

ในประเทศ : Key สำคัญคือ วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะนัดชี้ปมวาระ 8 ปีนายกฯ โดย  9 โมงคณะตุลาการจะมีการประชุมแถลงด้วยวาจาปรึกษาหารือ และลงมติ และบ่าย 3 อ่านคำวินิจฉัย   โดยคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญมี KS ประเมินโอกาสออก

1.) ศาลตัดสินว่านายกมีวาระครบ 8 ปี แล้วเลือกนายกคนใหม่มาทำหน้าที่ก่อนที่รัฐบาลจะมีวาระครบ 4 ปีในเดือน มี.ค. 2566

2.) ศาลตัดสินว่านายกมีวาระดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี แล้วนายกรักษาการตัดสินใจยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่  กรณียุบสภาต้องกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ภายใน 45วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน

3.) ศาลตัดสินว่านายกยังมีวาระดำรงตำแหน่งไม่ครบ 8 ปี โดยเริ่มนับจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ วันที่ 6 เม.ย. 2560  เป็นประเด็นที่ต้องติดตาม โดยตลาดเริ่มมองข้ามไปที่การจัดการเลือกตั้ง เนื่องจากเริ่มมีกระแสความชัดเจนการเลือกตั้ง ล่าสุดสัปดาห์ที่แล้ว กกต. ประกาศ Timeline  แผนเลือกตั้ง ส.ส. เปิดรับสมัคร 3-7 เม.ย.66 และหย่อนบัตร 7 พ.ค.66   จากสถิติหลังการเลือกตั้ง 1 เดือนตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้นประมาณ 4% เพราะมีความชัดเจนเรื่องรัฐบาลใหม่  โดยหุ้นธีมเลือกตั้ง KS แนะนำกลุ่มที่เน้นบริโภคในประเทศ เช่น ค้าปลีก อาท ร้านอาหาร Media การเงิน เป็นต้น

กลยุทธ์การลงทุน : KS ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้จะแกว่งตัวออกข้าง จาก Sentiment ลบในต่างประเทศ และรอการตัดสินปมนายก 8 ปี  และนักลงอาจจะชะลอการลงทุนเพื่อรอดูกระแสการเมืองนอกสภาจะร้อนแรง ?  หากร้อนแรงคาดจะกระทบภาคท่องเที่ยวซึ่งเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสำคัญของไทย      แต่อย่างไรก็ตาม โดยรวม KS ยังคงมุมมองภาพตลาดหุ้นไทยช่วง  4Q22 ตามเดิมคือลงมาทยอยสะสม แนวรับ 1,585 -1,600 จุด จากเงินเฟ้อไทยผ่านจุดสูงสุดไปแล้วตามราคาน้ำมันที่ลดลง ขณะที่ GDP ไทยอยู่ในขาฟื้นตัว

Theme การลงทุนยังเน้น  :

1.) ธีมเปิดเมืองในไทย แนะนำ BA, BJC, BEM

2.) ธีมจีนเตรียมเปิดประเทศ ติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหลัง ปธน.สิจิ้นผิงต่อเทอมที่ 3 ช่วงกลางเดือน ต.ค.  คาดจะบวกต่อหุ้นที่ได้ประโยชน์จีนฟื้น อาทิ PSL, SCGP,  AOT, SPA, EKH

3.)  หุ้น Defensive  อาทิ GULF

4.) กลุ่มกำไรไตรมาส 3  แข็งแกร่ง อาทิ TU

ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้คาด 1585 -1600 จุด หุ้นแนะนำ GULF, TU

Top pick :

GULF (ราคาทางพื้นฐาน  49.5 บาท)

1.) เป็นหุ้น Defensive ในช่วงที่ตลาดหุ้นภาพรวมผันผวน

2.) KS ประเมินทิศทางกำไรโรงไฟฟ้า IPP อาทิ GULF ผลประกอบการครึ่งหลังจะฟื้นตัวชัด

3.) GULF กำลังพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าอีกหลายแห่งซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตในระยะยาวอีกทั้งยังกำลังศึกษาความเป็นไปได้ที่จะดำเนินธุรกิจนอกกลุ่มโรงไฟฟ้า เช่น โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ซึ่งคาดจะเป็นแหล่งสร้างกำไรสุทธิใหม่และเพิ่มการเติบโตในระยะยาว

TU (ราคาทางพื้นฐาน  22.5 บาท)

1.) คาดกำไรไตรมาส 3/65 จะโต 12.5% YoY และ 34% QoQ เป็น 2.2 พันลบ. จากยอดขายที่เติบโตขึ้นแข็งแกร่ง GPM ที่เพิ่มขึ้น และไม่มีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว

2.) ขณะนี้หุ้น TU ซื้อขายอิงตาม PER ปี 2566 ที่ 11.3 เท่า หรือประมาณ 1.5SD ต่ำกว่าระดับ PER ล่วงหน้าในอดีต เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” จากมูลค่าหุ้นที่ไม่แพง โดย TU มีกำหนดที่จะรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2565 ในวันที่ 2 พ.ย.

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

วันศุกร์ ติดตามศาลรัฐธรรมนูญจะนัด 30 ก.ย. บ่ายสามโมง ชี้ปมวาระ 8 ปีของนายกฯ ตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน ส.ค. ของไทย คาด -4.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ตัวเลข NBS Manufacturing PMI ของจีนเดือน ก.ย. คาด 49.8 จุด (+0.8% MoM) ตัวเลข Caixin Manufacturing PMI ของจีนเดือน ก.ย. คาด 49.8 จุด (+0.6% MoM) ตัวเลข NBS Non manufacturing PMI ของจีนเดือน ก.ย. คาด 52.8 จุด (ทรงตัว MoM) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของญี่ปุ่นเดือน ก.ย. คาด 34 จุด (+4.6% MoM) ตัวเลข Retail Sales เดือน ส.ค. ของเยอรมัน คาด -1% MoM และ -5.1% YoY ตัวเลขเงินเฟ้อของยูโรโซน เดือน ก.ย. คาด +1% MoM และ +9.6% YoY ตัวเลขอัตราการว่างงานของยูโรโซน เดือน ส.ค. คาด 6.6% ตัวเลข Personal income ของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด +0.3% MoM ตัวเลข Personal spending ของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด +0.2% MoM ตัวเลข PCE Price index เดือน ส.ค. คาด +0.1% MoM และ +6.2% YoY ตัวเลข Core PCE Price index เดือน ส.ค. คาด +0.4% MoM และ +4.7% YoY ตัวเลข Michigan Consumer Sentiment Index เดือน ก.ย. คาด 59.5 จุด (+2.2% MoM)

- Advertisement -