บล.บัวหลวง:

Thai Union Group (TU TB/TU.BK)

TU – เงินบาทที่อ่อนค่าอย่างมากหนุนยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นในช่วงครึ่งหลังปี 2565

TU จะได้รับประโยชน์จากเงินบาทที่อ่อนค่าลงอย่างมากเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงครึ่งหลังปี 2565 เนื่องจากจะหนุนยอดขายในรูปของราคาขายที่เพิ่มขึ้น รวมถึงหนุนอัตรากำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิ นอกจากนี้ ปัญหาเงินเฟ้อในส่วนของต้นทุนที่ปรับขึ้นแรงก็เริ่มที่จะคลี่คลายลง เช่น ต้นทุนบรรจุภัณฑ์และค่าระวางเรือ ซึ่งจะหนุนการขยายตัวของกำไรในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 เช่นกัน เรายังคงคําแนะนํา “ซื้อเก็งกำไร” จากเหตุผลของกําไรที่จะปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 และมูลค่าหุ้นที่ยังคงถูก โดย PER อยู่ที่ 12.7 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ย PER ระยะยาวที่ 13.7 เท่า

คาดยอดขายในทุกธุรกิจเติบโตแข็งแกร่งในไตรมาส 3/65

เราคาดยอดขายรวมที่ 3.98 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 3/65 เติบโตแข็งแกร่ง 12% YoY และ 2% QoQ โดยมีปัจจัยหนุนจากเงินบาทที่อ่อนค่าอย่างมาก ราคาขายและวอลุ่มขายที่เพิ่มสูงขึ้น ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยน เราคาดค่าเงินบาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ เฉลี่ยที่ 36.35 บาท/ดอลลาร์ ในไตรมาส 3/65 หรือคิดเป็นอ่อนค่าลง 10% YoY และ 6% QoQ และอัตราแลกเปลี่ยนที่ 38 บาท/ดอลลาร์ ณ สิ้นไตรมาส 3/65 เทียบกับ 35.3 บาท/ดอลลาร์ ณ สิ้นไตรมาส 2/65 โดยจะเป็นปัจจัยบวกหนุนราคาขายในรูปของสกุลเงินบาทให้เพิ่มขึ้นในไตรมาส 3/65

โดยภาพรวม ยอดขายในไตรมาส 3/65 จะไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในสหรัฐฯ เลยแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้าม ยอดขายอาหารทะเลแปรรูปของ TU มีแนวโน้มที่จะยังคงเติบโตแข็งแกร่ง และต้านทานกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวหรือถดถอย ถ้าดูจากในช่วงวิกฤตหลายครั้งที่ผ่านมา สําหรับในไตรมาสนี้ เราคาดยอดขายอาหารทะเลแปรรูปเติบโต 12% YoY (แต่ลดลง 1% QoQ) โดยมีปัจจัยหนุนมาจากราคาขายที่ปรับตัวสูงขึ้น สําหรับยอดขายอาหารทะเลแช่แข็ง เราคาดว่ามีแนวโน้มกลับมาเติบโตในระดับปกติที่ 2% YoY และ 9% QoQ โดยมีปัจจัยหนุนจากราคาขายที่ปรับตัวสูงขึ้น สําหรับยอดขายธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง บรรจุภัณฑ์และสินค้ามูลค่าเพิ่ม เราคาดว่าจะเห็นยอดขายที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งมากถึง 38% YoY (แต่ลดลง 3% QoQ) โดยมีปัจจัยหนุนจากทั้งวอลุ่มขายและราคาขายที่ปรับตัวสูงขึ้น

อัตรากำไรขั้นต้นคาดจะปรับตัวดีขึ้น QoQ ไปอยู่ที่ 18%; ส่วนแบ่งขาดทุนจากเรด ล็อบสเตอร์ที่ทรงตัว QoQ

เราคาดอัตรากำไรขั้นต้นที่ 18% ในไตรมาส 3/65 ทรงตัว YoY แต่เพิ่มขึ้น จาก 17.4% ในไตรมาส 2/65 โดยอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจาก 20.7% ในไตรมาส 3/64 และ 20.5% ในไตรมาส 2/65 ไปอยู่ที่ 22% ในไตรมาส 3/65 โดยหลักได้รับปัจจัยหนุนจากราคาขายที่เพิ่มขึ้นจากเงินบาทที่อ่อนค่าลง ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งมีแนวโน้มลดลงจาก 13.1% ในไตรมาส 3/64 เหลือ 8.3% ในไตรมาส 3/65 (เนื่องจากราคาขายผลิตภัณฑ์ปูและล็อบสเตอร์ที่กลับไปสู่ระดับปกติในประเทศสหรัฐฯ บวกกับต้นทุนแซลมอนในสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น) แต่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นจากฐานที่ต่ำมากที่ 6.6% ในไตรมาส 2/65 (เนื่องจากการทยอยปรับราคาขายเพิ่มขึ้น)

เราคาดอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและอื่นๆ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก 23.6% ในไตรมาส 3/64 ไปอยู่ที่ 28% ในไตรมาส 3/65 (โดยมีปัจจัยหนุนจากราคาขายที่เพิ่มขึ้นจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เอื้ออย่างมาก และการเน้นสินค้าที่ให้มาร์จิ้นสูงเพิ่มขึ้น) แต่มีแนวโน้มลดลงจากฐานที่สูงมากถึง 29.5% ในไตรมาส 2/65 โดยภาพรวม เราคาดอัตรากําไรขั้นต้นมีแนวโน้มทรงตัว YoY เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป และธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้น กลบอัตรากําไรขั้นต้นของธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งที่ลดลง สําหรับธุรกิจเรด ล็อบสเตอร์ (RL) เราคาดส่วนแบ่งขาดทุนที่ 280 ล้านบาท (ไม่รวมการปรับมาตรฐานทางบัญชีสําหรับสัญญาเช่า) ในไตรมาส 3/65 หรือขาดทุนเพิ่มขึ้น 344% YoY (เนื่องจากต้นทุนที่พุ่งขึ้นแรง) และทรงตัว QoQ ถึงแม้ว่าอาจจะมีผลกระทบบ้างต่อจำนวนผู้เข้าร้านให้ลดลง แต่เรามองว่าการปรับราคาขายเพิ่มขึ้นอีก 10% ซึ่งมีผลตั้งแต่เดือนส.ค. เป็นต้นไปจะส่งผลกระทบในทางบวกสุทธิต่อเรด ล็อบสเตอร์ ซึ่งจะหนุนผลการดำเนินงานของเรดล็อบสเตอร์ในปี 2566 ให้ปรับตัวดีขึ้น สำหรับอวานติ ฟีดส์ เราคาดว่าจะเห็นส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 3/65 จากการปรับราคาขายเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยคลี่คลายปัญหาด้านต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้นแรง

ส่องกล้องไตรมาส 3/65 — กำไรหลักปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ

เราคาดกําไรสุทธิไตรมาส 3/65 ที่ 2.3 พันล้านบาท เติบโต 19% YoY และ 42% QoQ หากไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน กำไรหลักมีแนวโน้มอยู่ที่ 1.9 พันล้านบาท เติบโต 23% YoY และ 8% QoQ ซึ่งสูงกว่าที่เราประมาณการก่อนหน้า ซึ่งเป็นกำไรสุทธิ 1.9 พันล้านบาท และกำไรหลัก 1.8 พันล้านบาท โดยกำไรหลักที่เติบโต YoY มีปัจจัยหนุนมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น และอัตรากําไรขั้นต้นที่ทรงตัว กลบค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น และส่วนแบ่งขาดทุนจากธุรกิจเรด ล็อบสเตอร์ที่มากขึ้น

- Advertisement -