KS Daily View 03.10.2022 > คาดหุ้นไทยแกว่งตัว 1,550 – 1,625 จุด รอประชุม Closed Board Meeting ของ Fed SET คาดแกว่งตัว 1,550 – 1,625 จุด หุ้นแนะนำวันนี้ GULF

ประเด็นที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์

ต่างประเทศ : ฝั่งสหรัฐรายงานตัวเลข Core PCE เดือน ส.ค. ออกมาอยู่ที่ 4.9% มากกว่าคาดที่ 4.7%, ตัวเลข Personal spending และ Personal income เดือน ส.ค. ยังคงขยายตัวดีกว่าคาดที่ 0.4% MoM และ 0.3% MoM ตามลำดับ ทำให้ตลาดยังอยู่ในโหมด risk-off ต่อเห็นได้จาก ดัชนี Dow Jones -1.7%DoD, NASDAQ -1.5% Sector ในดัชนี S&P500 ปรับลงแรง หลักๆคือ Utilities -1.97%, IT -1.94%, ส่วนกลุ่มที่ outperform คือ Real estate 0.99% ฯลฯ

ในประเทศ : SET Index เมื่อวันศุกร์ปิด 1589.51 จุด(-0.18%DoD) Sector ที่ปรับลงหลักๆ คือกลุ่มส่งออกอาหาร TFG -2.5% GFPT-2%,กลุ่มประกันชีวิต BLA -2.2%, TLI -1.3% ส่วนกลุ่มที่ปรับขึ้น อาทิ สื่อ MAJOR +3.5%  โดยประเด็นสำคัญๆ อื่นๆมี 2 ประเด็นคือ

1.) ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยให้นับวาระจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 6 เม.ย.2560  ทำให้ พลเอก ประยุทธ์ กลับมาดำรงตำแหน่งนายกต่อจนกว่าสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 25 จะครบวาระในเดือน มี.ค.2566    KS ประเมินระยะสั้นประเมินจะปลดล็อกหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน หรือสัมปทานรัฐ เช่น กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง, ขนส่งทางราง, โรงไฟฟ้า, และ สื่อสารที่ถูก Over Hang

2.) กลุ่ม Finance สคบ. ได้ข้อสรุป 3 ประเด็น คือ 1.คืนรถจบหนี้ถูกยกออกไปก่อน 2.การปิดบัญชีแบ่งเป็น 3 กรณีคือ กรณีชำระค่างวดมาแล้ว 1 ใน 3 ของค่างวดเช่าซื้อได้รับส่วนลดอัตราอยู่ที่ 70% ของดอกเบี้ยเช่าซื้อที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ กรณีชำระค่างวดไม่เกิน 2 ใน 3 ให้ส่วนลดไม่น้อยกว่า 60% และกรณีชำระค่างวดเกิน 2 ใน 3 ขึ้นไปไม่คิดอัตราดอกเบี้ย และ 3. เพดานดอกเบี้ย แบ่งเป็น อัตราดอกเบี้ยสำหรับรถยนต์ใหม่เพดานไม่เกิน 10% ต่อปี รถใช้แล้ว ไม่เกิน 15% ต่อปี และรถจักรยานยนต์ ไม่เกิน 23% ต่อปี โดยจะส่งเรื่องเสนอต่อสำนักนายกรัฐมตรี เพื่อประกาศลงราชกิจจานุเบกษาต่อไป และจะมีผลบังคับใช้ภายใน 90 วัน ทั้งนี้ยังมีความไม่ชัดเจนในเรื่องดังกล่าวเนื่องจาก ธปท. กำลังยกร่างพระราชบัญญัติกำกับดูแลธุรกิจให้เช่าซื้อและให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์ฯ โดยผ่านการรับฟังความเห็นจากประชาชนแล้ว เตรียมดำเนินการตามขั้นตอนในการตราเป็นพระราชกฤษฎีกา และ ธปท. จะได้ร่วมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดทำร่างประกาศ ธปท. เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้หากเดินตามแนวทางของ สคบ. ผลกระทบที่เกิดขึ้นได้แก่ การปล่อยกู้จะเข้มขึ้น รวมถึงมีการเพิ่มเงินดาวน์ ทำให้กู้ยากขึ้น (rejection rate สูงขึ้น) และหากผู้กู้จำเป็นต้องใช้รถจริงอาจหันไปกู้เงินในแหล่งเงินที่สูงขึ้น เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล เพื่อมาเป็นเงินดาวน์ โดยปัจจุบันสัดส่วนซื้อรถประมาณ 80% จะเป็นการผ่อนชำระ และอีก 20% จะซื้อเงินสด ทำให้สัดส่วนคนซื้อเงินผ่อนจะน้อยลง โดยหุ้นที่ได้รับผลกระทบได้แก่ TK, S11, NCAP, SAWAD, MICRO เป็นต้น

ประเด็นที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้

ต่างประเทศ

1.) วันนี้ 3 ต.ค. การประชุมด่วนของ Fed (Emergency meeting) KS ประเมินหากเป็นการประชุมกรรมการ Fed เรามองเป็นกลาง  แต่หากปรับแผน QT  ดูดสภาพคล่องออกจากระบบมากขึ้น มองเป็นลบต่อตลาดหุ้นโลก

2.) ติดตาม  7 ต.ค. ตัวเลขแรงงานสหรัฐคือ Nonfarm payrolls ของเดือน ก.ย. ตลาดคาด  2.5 แสนราย

3.) ประชุม OPEC+ วันที่ 5 ต.ค. Bloomberg ออกข่าวว่ากลุ่ม OPEC+ อาจตัดสินใจลดกำลังการผลิตมากกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน หนุนราคาน้ำมันดิบเช้านี้ดีดตัวแรง 2.9% บวกกับกลุ่มพลังงาน

4.) สงครามรัสเซีย –ยูเครนมี หลังจากสหรัฐเดินหน้าออกมาตรการ Sanction รัสเซียเพิ่มหลังล่าสุด รัสเซียผนวก 4 แคว้นยูเครน

ในประเทศ :

Tourism sector:   ติดตามทิศทางการเปิดประเทศของจีน หลังนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ประเด็นการเปิดประเทศของจีนนั้นมองว่า หลังการประชุมเอเปค (APEC 2022) ที่จะจัดขึ้นในช่วงกลางเดือน พ.ย.นี้จะมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจากรายงานระบุว่า นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดี สาธารณรัฐประชาชนจีน จะเดินทางมาร่วมประชุมด้วย นอกจากนี้จีนได้ส่งสัญญาณมาตลอดว่าท่าทีของรัฐบาลจีนได้ทยอยผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น เพียงแต่ยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าจำนวนเที่ยวบินเข้า-ออกระหว่าง 2 ประเทศที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากไม่ถึง 10 เที่ยวต่อสัปดาห์ เมื่อ 3 เดือนก่อน มาอยู่ที่เกือบ 20 เที่ยวบินในขณะนี้ โดยเบื้องต้นประเมินว่านักท่องเที่ยวจีนจะเข้ามาไทย 4 ล้านคนในปีหน้า มองเป็นบวกกับกลุ่มท่องเที่ยว

Food sector:   ติดตามการเข้า list ของหุ้นอาหารสัตว์เลี้ยงคือ AAI และ ITL ใน 4Q22 ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจจากตลาดบนแนวโน้มการเติบโตของยอดขายที่ดี และค่าเงินบาทที่อ่อนค่า โดย ดร.ชนินทร์ ชลิศราพงศ์ นายกสมาคมการค้าอาหารสัตว์เลี้ยงไทย กล่าวว่า ไทยมีโอกาสจะสามารถเป็นผู้ผลิตและส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยง เบอร์ 1 หรือ 2 ของโลกได้ จากปัจจุบันเราอยู่อันดับ 3 ของโลก โดยในปี 2564 ประเทศไทยส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงไปทั่วโลก ปริมาณ 720,795 ตัน และมูลค่า 65,391 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% YoY และในช่วง 7 เดือนแรกของ ปี 2022 (ม.ค.-ก.ค.) มีปริมาณการส่งออก 494,418 ตัน และมูลค่า 50,086 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% YoY และไทยกำลังจะจัดงาน Pet Fair South East Asia เป็นงานแสดงสินค้าสำหรับธุรกิจแบบ B2B ระหว่างวันที่ 26-28 ตุลาคม 2565 ซึ่งจะมีผู้ประกอบการจาก 300 แบรนด์ชั้นนำจาก 30 ประเทศ

Theme การลงทุนสัปดาห์นี้  :

1.) ธีมได้ประโยชน์จาก Bond Yields ปรับลง, แผน PDP ชัดเจนบวกต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า  GULF, GUNKUL

2.) ธีมกำไรงวด 3Q65 แข็งแกร่ง อาทิ กลุ่มส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยง  TU, ASIAN

3.) ธีมได้ประโยชน์จากเลือกตั้ง บวกต่อกลุ่มค้าปลีก อาทิ CPALL, กลุ่มสื่อ PLANB

ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้คาด 1585 -1600 จุด หุ้นแนะนำ GULF

Top pick :

GULF (ราคาทางพื้นฐาน  49.5 บาท)

1.) เป็นหุ้น Defensive ในช่วงที่ตลาดหุ้นภาพรวมผันผวน

2.) KS ประเมินทิศทางกำไรโรงไฟฟ้า IPP อาทิ GULF ผลประกอบการครึ่งหลังจะฟื้นตัวชัด

3.) GULF กำลังพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าอีกหลายแห่งซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตในระยะยาวอีกทั้งยังกำลังศึกษาความเป็นไปได้ที่จะดำเนินธุรกิจนอกกลุ่มโรงไฟฟ้า เช่น โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ซึ่งคาดจะเป็นแหล่งสร้างกำไรสุทธิใหม่และเพิ่มการเติบโตในระยะยาว

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

วันจันทร์ ติดตาม ตัวเลข Jibun Bank Manufacturing PMI ของญี่ปุ่น เดือน ก.ย. คาด 51 จุด (-1% MoM) ตัวเลข S&P Global Manufacutring PMI ของเยอรมันเดือน ก.ย. คาด 48.3 จุด (-1.6% MoM) ตัวเลข ISM Manufacturing PMI ของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. คาด 52.2 จุด (-1.1% MoM) และถ้อยแถลงของ Fed Barkin, Fed George, และ Fed Bostic รวมถึงการประชุม Closed board meeting ของเฟด

วันอังคาร ติดตาม การประชุมธนาคารกลางออสเตรเลีย คาดปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 50bps. เป็น 2.85% ตัวเลข JOLTs Job Openings เดือน ส.ค. คาด 10.65mn (-5.2% MoM) และถ้อยแถลงของ Fed Williams, Fed Logan, Fed Mester, Fed Jefferson, และ Fed Daly

วันพุธ ติดตาม ตัวเลขเงินเฟ้อของไทยเดือน ก.ย. คาด +6.5% YoY (ลดลงจาก 7.86% YoY เดือนก่อนหน้า) ตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐานของไทยเดือน ก.ย. คาด +3.2% YoY (เทียบ 3.15% YoY เดือนก่อนหน้า) ตัวเลข Jibun Bank Service PMI ของญี่ปุ่น เดือน ก.ย. คาด 51.9 จุด (+4.8% MoM) ตัวเลข S&P Global Service PMI ของยูโรโซน เดือน ก.ย. คาด 48.9 จุด (-1.8% MoM) ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. คาด +205K (+55% MoM) ตัวเลขดุลการค้าของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด -US$68bn (จากเดือนก่อนหน้าที่ -US$70.7bn) ตัวเลข  ISM Non-Manufacturing PMI ของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. คาด 56 จุด (-1.6% MoM) ปริมาณสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ รายสัปดาห์ ถ้อยแถลงของ Fed Bostic และการประชุมของกลุ่ม OPEC+

วันพฤหัสฯ ติดตาม ตัวเลข Initial Jobless Claim ของสหรัฐฯ รายสัปดาห์คาด 200K (+3.6% WoW) และถ้อยแถลงของ Fed Evan รวมถึง Fed D. Cook และ Fed Waller

วันศุกร์ ติดตาม ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. คาด 250K (-20% MoM) ตัวเลขอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. คาด 3.7% (ทรงตัว MoM) ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. คาด +5.1% YoY (เทียบเดือนก่อนหน้าที่ +5.2% YoY) และถ้อยแถลงของ Fed Williams

- Advertisement -