บล.บัวหลวง: 

Beverage – ยังไม่มีปัจจัยหนุน (NEUTRAL)

เราปรับคําแนะนําสําหรับกลุ่มเครื่องดื่มลงมาเป็นให้น้ำหนักการลงทุนเท่ากับตลาด เนื่องจากไม่มีปัจจัยหนุนกำไรในครึ่งหลังของปี 2565 โดยเราคาดกำไรรวมของกลุ่มในปี 2565 จะลดลง 13% เนื่องจากอัตรากําไรที่หดตัวลงและ การส่งออกที่อ่อนแอ ทั้งนี้เรายังคงคําแนะนํา “ชื้อ” สําหรับ CBG แต่เราปรับลดคําแนะนําสําหรับ OSP ลงมาเป็น “ถือ”

การปรับลดประมาณการของตลาดจะกดดันราคาหุ้นอย่างต่อเนื่อง

ภาพแนวโน้มกำไรของกลุ่มไม่น่าตื่นเต้น โดยเราปรับลดประมาณการกำไรรวมกลุ่มลง 9% สําหรับปี 2565 และ 14% ในปี 2566 การแข่งขันที่สูงของกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศ ทำให้มีการแข่งขันด้านราคาผ่านการให้โปรโมชั่น กดดันต่ออัตรากําไรและยอดขายการส่งออกที่อ่อนแอ (และแย่ลงจากสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีในประเทศพม่า) ดังนั้นภาพกำไรในไตรมาส 3/65 จึงดูอ่อนแอ เราเชื่อว่าความกังวลของตลาดเป็นตัวกดดันให้ราคาหุ้น CBG และ OSP ปรับตัวลงไปอยู่ในระดับต่ำสุดของปีนี้ ทําให้ค่าเฉลี่ย PER กลุ่มเครื่องดื่มในปี 2566 อยู่ที่ 28 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปี 2561-64 ที่ 31 เท่า ดังนั้น ความเสี่ยงที่ราคาหุ้นจะปรับตัวลงต่อจึงจํากัด เราคาดกําไรไตรมาส 4/65 ของ CBG จะฟื้นตัวหลังจากที่ชะลอในไตรมาส 3/65 แต่ภาพการฟื้นตัวของ OSP ยังคงไม่ชัดเจน

การแข่งขันสูงจะยังคงกดดันกำไรอย่างต่อเนื่อง

OSP ปรับเพิ่มราคาขายเครื่องดื่มชูกําลัง M-150 ในเดือน มี.ค. 2565 เป็นครั้งแรกในรอบ 37 ปี (จาก 10 บาทไปเป็น 12 บาท) ซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการแข่งขัน ส่วนแบ่งการตลาดของ M-150 ลดลงจาก 54% ในช่วงปลายไตรมาส 4/64 มาเหลือ 49% ในไตรมาส 2/65 ขณะที่คาราบาวแดงของ CBG ได้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่ม 1% (ที่เหลือส่วนใหญ่ไหลไปทาง Red Bull) ซึ่ง OSP ใช้งบการตลาดมากขึ้น ขณะที่ CBG ลดราคาโปรโมชั่นคาราบาวแดงและปรับเปลี่ยนสูตร (เพิ่มวิตามินบีและน้ำตาล) เราไม่คาดว่าการแข่งขันนี้จะจบลงในเร็วๆ นี้ และเราไม่คาดว่า OSP จะสามารถดึงส่วนแบ่งการตลาดคืนมาทั้งหมดได้ เนื่องจากตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศไทยมีความอ่อนไหวต่อราคา

CBG – อ่อนแอในไตรมาส 3/65 แต่จะดีขึ้นในไตรมาส 4/65

เราคาดกําไรไตรมาส 3/65 ของ CBG ที่ไม่น่าตื่นเต้นที่ 683 ล้านบาท ลดลง 8% QoQ (แต่เพิ่มขึ้น 14% YoY จากฐานที่ต่ำในไตรมาส 3/64) เราคาดทั้งธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศและธุรกิจจัดจําหน่ายของ CBG จะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ แต่การส่งออกจะลดลง ต้นทุนบรรจุภัณฑ์ของ CBG ยังคงสูงในไตรมาส 3/65 แต่จะลดลงในไตรมาส 4/65 โดยเราประมาณการเบื้องต้นว่ากําไรไตรมาส 4/65 จะเติบโต 14% YoY และ 3% QoQ

OSP – ไตรมาส 3/65 จะเป็นไตรมาสที่แย่ที่สุดของปี 2565

เราคาดกําไรไตรมาส 3/65 ของ OSP จะอยู่ที่ 458 ล้านบาท ลดลง 21% YoY และ 24% QoQ ซึ่งบริษัทจะได้รับผลกระทบอย่างมากจากยอดขายเครื่องดื่มชูกำลังที่ลดลงทั้งในประเทศและต่างประเทศ ต้นทุนการผลิตต่อขวดจึงสูงขึ้น และค่าใช้จ่ายด้านการตลาดและโปรโมชั่นที่สูง เราคาดอัตรากำไรขั้นต้นที่ 28.5% สําหรับไตรมาส 3/65 ลดลงจาก 31.2% ในไตรมาส 2/65 และ 33.5% ในไตรมาส 3/64 ดังนั้นเราจึงปรับประมาณการกำไรของ OSP ลง 13% สําหรับปี 2565 มาอยู่ที่ 2.4 พันล้านบาท (ลดลง 27% YoY) และ 19% สําหรับปี 2566 มาเหลือ 2.7 พันล้านบาท (เติบโต 15% YoY) ซึ่งบริษัทจําเป็นต้องใช้เวลาและจบด้านการตลาดอีก เพื่อเรียกส่วนแบ่งการตลาดให้กลับมา

- Advertisement -