บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action BUY

TP upside (downside) +31.0%

Close Sep 30, 2022 Price (THB) 12.60

12M Target (THB) 16.50

What’s new?

  • บริษัทมีการ Re-branding กลุ่ม รพ. แยกกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจนมากขึ้น
  • บริษัทให้มุมมองเชิงบวกต่อการที่ สปสช. มีการปรับรูปแบบการจ่ายเงินของบัตรทอง
  • เราคาดการกำไร 3Q65 ที่ 51 ล้านบาท -30% QoQ -75% YoY เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ที่บรรเทาความรุนแรงลง มี upside ที่เรายังไม่รวมในประมาณการ จากแผน M&A และสร้าง รพ.ใหม่

Our view

  • เราแนะนำ “ซื้อ” เรามองว่าราคาหุ้นปรับลดลงสะท้อนปัจจัยลบแนวโน้มกำไรที่ชะลอตัวไปมากแล้ว และประมาณการของเราค่อนข้างอนุรักษ์นิยม ต่ำกว่าเป้าหมายของบริษัท ซึ่งยังมี Upside ในการปรับประมาณการ ราคาหุ้นซื้อขายที่ PER ปี 2566 เพียง 12.9x เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่ม รพ.ที่ 25.2x

INTERMEDICAL CARE AND LAB ปรับกลยุทธ์รับมือหลังจบ COVID..ราคา Undervalue

สรุปประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์ 30 ก.ย.65

  • บริษัทมีการปรับบริษัทมีการ Re-branding กลุ่ม รพ. แยกกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจนมากขึ้น

1.รพ.อินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์แลป เชี่ยวชาญด้านตรวจสุขภาพ ในและนอกสถานที่

2. รพ.ประชาพัฒน์ มีการเปลี่ยนชื่อ เป็น รพ. ไอเอ็มเอช ธนบุรี ให้บริการในระบบเบิกจ่ายภาครัฐครบทุกสิทธิการรักษา

3.รพ. ไอเอ็มเอช แบริ่ง เน้นให้บริการลูกค้าไทย สิทธิชำระเงินเอง ระดับพรีเมี่ยม และต่างชาติ

4.IMH Clinic เครือข่าย คลินิกเวชกรรม ไอเอ็มเอช เป็นคลินิกเอกชนทั่วไป ให้บริการในระบบเบิกจ่ายภาครัฐ ครบทุกสิทธิการรักษา และส่งต่อมาที่ รพ.ไอเอ็มเอช ธนบุรี

  • บริษัทให้มุมมองเชิงบวกต่อการที่ สปสช. มีการปรับรูปแบบการจ่ายเงินของบัตรทองจากเดิมโมเดล 2 ซึ่งเป็นอัตราคงที่ เป็นจ่ายตามจริง หรือโมเดล 5 ซึ่งมองว่าจะส่งผลบวกต่อการรับรู้รายได้ที่ดีขึ้น โดยมีผลตั้งแต่ 1 ต.ค.
  • สำหรับแผน M&A บริษัทรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจ เนื่องจากมองตอนนี้ราคาตลาด รพ.ที่ขายยังสูงเกิน แต่น่าจะเห็นภายใน 2 ปีนี้ ก่อนสร้าง รพ. ใหม่ ไอเอ็มเอช แบริ่ง ส่วนแผนการระดมทุนหรือ IPO อยู่ระหว่างการเตรียมตัว มีการตั้งที่ปรึกษาแล้ว น่าจะมีความชัดเจนในสิ้นปีนี้
  • บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2565 ที่ 801 ล้านบาท -14%YoY ขณะที่ปี 2566 ที่ 915 ล้านบาท +14%YoY ซึ่งบริษัทมองว่าการกลับมาของคนไข้ปกติ การกลับมารักษาโรคอื่นที่ไม่ใช่ COVID การปรับรูปแบบการจ่ายเงินของบัตรทอง และการเปิดคลินิกเพิ่ม 10 แห่ง เป็นตัวหนุนให้รายได้ยังเติบโต

คาดกําไร 3Q65 ลดลง QoQ YoY จากฐานสูง

เราคาดกำไรใน 3Q65 ที่ 51 ล้านบาท -30%QoQ -75%YoY ผลประกอบการชะลอตัวตามสถานการณ์ COVID-19 ซึ่งคลี่คลายในทางที่ดีขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันเฉลี่ยในช่วง ก.ค.-ก.ย. อยู่ที่ 1,952 ราย ลดลงกว่า 80%QoQ และ 93%YoY ส่งผลให้รายได้เกี่ยวกับการให้บริการ COVID-19 ปรับลดลง และเทียบกับฐานที่สูง 3Q64 ซึ่งการระบาดรุนแรงและรายได้ทุบสถิติสูงเป็นประวัติการณ์ โดยรายได้ใน 3Q65 อยู่ที่ 147 ล้านบาท -21%QoQ, -62%YoY ด้านประสิทธิภาพในการทำกำไรปรับลดลง ตามสัดส่วนรายได้ COVID-19 ที่มีอัตรากำไรสูงมีสัดส่วนลดลง รวมถึงการที่รัฐบาลปรับลดเพดานค่าห้องรายวัน และลดเงินสนับสนุนแก่ รพ. ส่งผลให้มาร์จิ้นต่ำกว่าเดิม โดย EBITDA Margin ลดลงจาก 2Q65 และ 3Q64 ที่ 51.9% 70.0% เหลือ 49.2% ภาพรวมปี 2565 เราคาดกำไรที่ 297 ล้านบาท -31%YoY

Upside Potential ที่ยังไม่รวมในประมาณการ

เรามองว่าหุ้น IMH มี Upside ที่เรายังไม่ได้รวมในประมาณการ เนื่องจากเราประมาณแบบอนุรักษ์นิยมตามหลักความระมัดระวัง 1) เป้ารายได้ในปี 2566 ของบริษัทสูงกว่าประมาณการของเรา 60% 2) แผน M&A ที่คาดจะเห็นในช่วง 2 ปีข้างหน้า และแผนในการสร้าง รพ. ไอเอ็มเอช แบริ่ง ขนาด 600 เตียง

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาสะท้อนปัจจัยลบไปแล้ว ราคาหุ้นยังถูก

แม้ว่าเราประมาณการผลประกอบการจะตั้งแต่ใน 2H65 จะเริ่มชะลอตัวจากฐานที่สูง แต่ราคาหุ้นได้ปรับลดลงสะท้อนไปมากแล้ว และประมาณการของเราค่อนข้างอนุรักษ์นิยม ต่ำกว่าเป้าของบริษัท และเรายังไม่ได้รวมทั้งแผน M&A และดีลในการสร้างโรงพยาบาลใหม่ในประมาณการ ยังซื้อขายที่ PER ปี 2566 เพียง 12.9% เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 25.2x เราประเมินมูลค่าพื้นฐานปี 2566 ที่ 16.50 บาท อิงวิธี DCF ที่ WACC 9.1% และราคาปัจจุบันคาดผลตอบแทนจากปันผลงวดปี 2565 ที่ 5.0% ปี 2566 ที่ 3.5% เราทำา Scenario Analysis (ยังไม่รวม รพ.IMH แบริ่ง และ M&A) หากกรณีกำไรปี 2566 ทรงตัว ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 20.40 บาท และ Best Case หากอิงตามเป้าหมายบริษัทที่รายได้ยังเติบโต 14%YoY คาดกำไรเติบโต 29%YoY ราคาเป้าหมายจะปรับเพิ่มเป็น 26.10 บาท

- Advertisement -