บล.กรุงศรีฯ:

BANKING SECTOR – โอกาสให้ทยอยสะสม (POSITIVE)

พอร์ตสินเชื่อของธนาคารในเดือนสิงหาคม 2022 รายงานออกมาผสมผสานโดยเห็นภาพตัวเลขที่มีทั้งเพิ่มและลด โดยบางธนาคารลุยปล่อยกู้เพิ่ม แต่บางธนาคารมีแตะเบรกก่อนการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย เราประเมินกำไรรวมของกลุ่มธนาคารใน 3Q22 จะดีขึ้นทั้ง qoq และ yoy จากพอร์ตสินเชื่อขยายตัวขึ้น และ การตั้งสำรองที่ปรับลดลง

พอร์ตสินเชื่อเดือนสิงหาคมมีทั้งเพิ่มและลด

ตัวเลขสินเชื่อของธนาคารใหญ่ปรับเพิ่มขึ้น 0.3% mom ในเดือนสิงหาคม 2022 และมีการขยายตัวได้แล้ว 2.9% ytd โดยบางธนาคารลุยขยายพอร์ตสินเชื่อเพิ่ม ในขณะที่บางธนาคารมีการแตะเบรก ก่อนที่ธปท.จะเริ่มขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ทั้งนี้ สินเชื่อของ BBL มีการขยายตัวมากที่สุดในรอบเดือนที่ 4.1% mom ในขณะที่ยอดปล่อยกู้สะสมในปีนี้ของ KKP โตแรงที่สุดที่ 14.8% ytd จากการขยายสินเชื่อรายย่อย โดยเฉพาะในกลุ่มสินเชื่อ HP และสินเชื่อจดจำนอง ในทางกลับกัน สินเชื่อของ KTB หดตัวมากที่สุดทั้งในเดือนสิงหาคม (-1.3% mom) และยอดสะสมมาตั้งแต่ต้นปีนี้ (-1.2% ytd) หลักๆมาจากการรับคืนชำระจากสินเชื่อภาครัฐที่เติบโตสูงในปีก่อน

คาดว่ากำไรจะดีขึ้นทั้ง qoq และ yoy ใน 3Q22

เราคาดว่ากำไรรวมของกลุ่มธนาคารใน 3Q22 จะอยู่ที่ 4.3 หมื่นล้านบาท (+4% qoq และ +29% yoy) โดยกำไรที่เพิ่มขึ้น qoq จะได้แรงหนุนมาจากพอร์ตสินเชื่อที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น และการทยอยปรับตัวลงของ ECL ที่ค่อยๆกลับไปอยู่ระดับปกติ ในขณะเดียวกัน กำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง yoy จะเป็นเพราะผลจากฐานกำไรที่ต่ำ ปีที่แล้วเพราะมีการตั้งสำรองสูงในช่วงที่มีการใช้มาตรการ lockdown เมืองหลังจากที่ COVID-19 กลับมาระบาดในช่วงกลางปี 2021 ทั้งนี้เราคาดว่าผลประกอบการของ BBL จะโตแรงสุด qoq ที่ +25% จากการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่ออย่างแข็งแกร่งใน 3Q22 ในขณะเดียวกัน เราคาดว่ากำไรของ KTB จะโตแรงที่สุด yoy ที่ +49% ใน 3Q22 แต่อาจจะลดลง 10% qoq เนื่องจากพอร์ตสินเชื่อหดตัว และ non-NII ลดลง

โอกาสในช่วงที่ตลาดผันผวน

เรายังคงมองว่าหุ้นกลุ่มธนาคารจะแกว่งตัวผันผวนในช่วง 4Q22 จากความกลัวว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก และ NIM ที่อาจได้รับแรงกดดันจากการทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย M-rate และการกลับไปจ่ายค่าธรรมเนียม FIDF ในอัตราปกติ อย่างไรก็ตาม เรามองว่าเป็นโอกาสดีสำหรับนักลงทุนระยะยาว ที่จะทยอยเพิ่มการลงทุน โดยแนะนำค่อยๆเพิ่มนำหนักการลงทุน เพราะมองไปปีหน้ากลุ่มธนาคารจะได้อานิสงส์จากภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มจะฟื้นตัวได้อย่างชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะทำให้มีอุปสงค์สินเชื่อแข็งแกร่ง, NIM ฟื้นตัว และ คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น เราคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มธนาคารที่ OVERWEIGHT โดยเลือก SCB (ราคาเป้าหมาย 155 บาท) และ KTB (ราคาเป้าหมาย 21 บาท) เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มนี้ของเรา

- Advertisement -