บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
Hana Microelectronics PCL (HANA.BK/HANA TB)*
ประมาณการ 3Q65F : กำไรจากธุรกิจหลักจะลดลง YoY และ QoQ
Event
เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ HANA ใน 3Q65F จะอยู่ที่ 586 ล้านบาท (-17% YoY, -3% QoQ) ทำให้กำไรจากธุรกิจหลักในงวด 9M65 อยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท (-16% YoY) คิดเป็น 75% ของประมาณการกําไรเต็มปีของเรา
Impact
ยอดขายซบเซาในไตรมาสที่สาม
จากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ (ทำให้ลูกค้าเน้นที่การบริหารสต็อกสินค้าคงคลัง) และการสิ้นสุดการทำงานจากที่บ้าน (WFH) (ตามรายละเอียดในบทวิเคราะห์ของ KGI ไต้หวันเรื่อง IT Hardware: server demand & inventory adjustment healthy, NB deteriorating ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2565) ทีมวิจัย KGI ไต้หวันประเมินว่าอุปสงค์ NB โลกจะหดตัวลง 18-20% และ 5% HoH ใน 2H65F ดังนั้น เราจึงคาดว่ายอขายของ HANA ใน 3Q65F จะอยู่ที่ 6.5 พันล้านบาท (+5% YoY, +3% QoQ) แต่หากไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ยอดขายใน 3Q65F จะอยู่ที่ประมาณ 181 ล้านดอลลาร์ฯ (-5% YoY, -3% QoQ) ทำให้ยอดขายในงวด 9M65F อยู่ที่ 552 ล้านดอลลาร์ฯ (1% YoY) คิด เป็น 73% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา ดังนั้น เราจึงคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นใน 3Q65F จะอยู่ที่ 13.8% (-1.8ppts YoY, +0.1ppta QoQ) เนื่องจากเงินบาทอ่อนค่าลง เพราะอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยใน 3Q65 อยู่ที่ 36.30 บาท/ดอลลาร์ฯ (จาก 32.9 บาท/ดอลลาร์ฯ ใน 3Q64 และ 34.40 บาท/ดอลลาร์ฯ ใน 2Q65) ซึ่งหมายความว่าอัตรากำไรขั้นต้นในงวด 9M65F จะอยู่ที่ 12.8% (-2.1ppts YoY) ต่ำกว่าสมมติฐานในปัจจุบันของเราที่ 13.1% เล็กน้อย
ภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวยทำให้เราปรับประมาณการเล็กน้อย
เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวลง ในขณะที่เงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ และยังมีปัญหาความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงความท้าทายทางเศรษฐกิจอื่นๆ อีก ดังนั้น IDC จึงคาดว่ายอดจัดส่ง smartphone ทั่วโลกจะหดตัวลง 6.5% YoY ในปี 2565F ก่อนที่จะดีดตัวขึ้น 5.2% YoY ในปี 2566F สอดคล้องกับมุมมองของทีมวิจัย KGI ในไต้หวัน ที่คาดว่ายอดจัดส่ง smartphone ทั่วโลกจะหดตัวลง 8% YoY ในปี 2565F และยอดจัดส่ง NB ทั่วโลกจะหดตัวลง 18% YoY ทั้งนี้ จากการศึกษาของเรา พบว่ายอดขายของ HANA มีสหสัมพันธ์กับยอดขาย semiconductor โลกอยู่ที่ประมาณ 0.8 ดังนั้น ขาขึ้นของอุตสาหกรรมที่อาจจะจบรอบแล้ว (จากการที่ยอดขาย semiconductor โลกชะลอตัวลง MoM ในช่วง เดือนพฤษภาคม 2565 – กรกฎาคม 2565) อาจจะทำให้ยอดขายของ HANA ลดลง ดังนั้น เราจึงปรับสมมติฐานใหม่ และปรับลดประมาณการกำไรปี 2566F ลง 17% ทำให้ประมาณการกำไรจากธุรกิจหลัก ของ HANA หดตัวลง 6% YoY ในปี 2565F และ 2% YoY ในปี 2566F
Valuation & action
เราปรับลดราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ลงจาก 47.00 บาท เหลือ 38.00 บาท อิงจาก PER ที่ 15.0x (ค่าเฉลี่ย ในอดีต -0.25S.D.) และยังคงคำแนะนำ “ถือ” HANA
Risks
ภัยธรรมชาติ, มีการปิดโรงงานนอกแผน, ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier รายอื่น, ขาดแคลนวัตถุดิบ, เงินบาทแข็งค่าขึ้น (เราใช้สมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยนปี 2565-66 ที่ 34.50 บาท/ดอลลาร์ฯ)