ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

ฟื้นตัวต่อ คลายกังวลแนวนโยบายการเงินสหรัฐฯ

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันพุธ ฟื้นตัวต่อ…. หลังจากเมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยรีบาวด์แรงกว่าที่เราคาด  หลังเม็ดเงินหมุนกลับเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก (ค่าเงินดอลล่าร์ฯ พลิกกลับมาอ่อนค่า + บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ และยุโรปปรับฐานลงแรง) ผนวกกับหุ้น DELTA (+7.74%) ยังคงแรลลี่ต่อหนุนดัชนีฯ…. ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยโดยรวมต่อตลาดหุ้นยังคงเป็นบวก กล่าวคือ 1) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัวแรงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ตอบรับการอ่อนค่าต่อเนื่องของดัชนีเงินดอลล่าร์ฯ รวมทั้งบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ หลังจากตัวเลขตำแหน่งงานเปิดใหม่ (JOLTS job opening) เดือน ส.ค. อยู่ที่ 10.05 ล้านคน ต่ำกว่าที่ consensus คาดไว้ที่ 10.78 ล้านคนค่อนข้างมาก และชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐฯ เริ่มชะลอตัว และตลาดมองว่าเฟดมีโอกาสชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ i) ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ หลังจากมีกระแสข่าวว่ากลุ่ม OPEC+ อาจปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1-2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในการประชุมวันนี้ ทั้งนี้นักลงทุนควรติดตามตัวเลขสำรวจการจ้างงานเอกชน (ADP private payrolls) ของสหรัฐฯ ที่จะออกมาในคืนวันนี้ ซึ่งน่าจะมีนัยสำคัญต่อจิตวิทยาตลาดหุ้น ส่วนปัจจัยภายในประเทศวันนี้ ก.พาณิชย์จะรายงานตัวเลขเงินเฟ้อไทย เดือน ก.ย. ซึ่งฝ่ายวิจัยฯ ประเมินว่าเงินเฟ้อจะชะลอลงสู่ 6.53% เทียบกับระดับ 7.86% ในเดือน ส.ค.

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร NEX, GULF*, AMA

  • NEX (เป้า Consensus 23.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 17.3 บาท / แนวต้าน 17.9 – 18.3 บาท กรณี ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 19.5 บาท (Stop loss 17.0 บาท) 2) ประเมินผลการดำเนินงาน 3Q65 พลิกเป็นกำไรจากการเริ่มทยอยส่งมอบรถเมล์ EV ตั้งแต่เดือน ส.ค. ที่ผ่านมา โดย Consensus คาดปีนี้พลิก Turnaround กำไร 788 ล้านบาท และคาดปีหน้าโต +100% YoY เป็น 1.6 พันล้านบาท และคาด ROE ปี 2565 – 66 เพิ่มขึ้นเป็น +22.8% และ +41.5% ตามลำดับ 3) Forward PE ปีนี้ยังสูงราว 40.5 เท่า และปีหน้าจะลดลงเหลือเพียง 17.5 เท่า
  • GULF* (เป้าพื้นฐาน 60 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 50.5 บาท / แนวต้าน 52.5 – 54.0 บาท (Stop loss 49 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้นปรับลงแรงตามภาวะตลาดฯ ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานยังแข็งแกร่ง มีโอกาส Rebound โดยฝ่ายวิจัยฯ ประเมินกำไรปกติปี 2565 – 66 โต 56% YoY และ 38% YoY ตามลำดับ จากการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าใหม่ๆ ต่อเนื่อง 3) Bond yield สหรัฐฯ เริ่มพักฐาน คาดเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า 4) Upside ที่ยังไม่รวมในประมาณการฯ อาทิ การลงทุนธุรกิจดิจิทัล และการขยายธุรกิจอินเตอร์เนต บรอดแบรนด์ของ ADVANC*
  • AMA (เป้าพื้นฐาน 7.6 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 5.25 บาท / แนวต้าน 5.5 – 5.75 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 6.5 บาท (Stop loss 5.0 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 3Q65 ทำจุดสูงสุดใหม่รายไตรมาสที่ 129 ล้านบาท (+ 163% YoY, +83% QoQ) และคาดกำไรปีนี้ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ +300 ล้านบาท (โต +100% YoY) โดยเป็นผลจากธุรกิจขนส่งน้ำมันปาล์มทางเรือที่ฟื้นตัวขึ้นมากทั้งจากด้านอุปสงค์ในภูมิภาค และอุปทานเรือขนส่งน้ำมันปาล์มในภูมิภาคที่ลดลง เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนไปขนส่งน้ำมันดอกทานตะวันไปยุโรปแทน 3) Valuation ไม่แพง Forward PE +8.7 เท่า (-2 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต) / PBV 1.09 เท่า (-1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต)

หุ้นมีข่าว

(-) สินเชื่อ รถจยย. จ่อวูบ 30% เซ่นเกณฑ์สคบ.คุมเพดานดอกเบี้ย (กรุงเทพธุรกิจ) สมาคมธุรกิจเช่าซื้อฯ เตรียมนัดสมาชิกหารือแนวทางรับมือ “สมาคมเช่าซื้อไทย” ชี้เกณฑ์ คุมดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์ไม่เกิน 10% รถจักรยานยนต์ไม่เกิน 23% ของสคบ. ประกาศสัปดาห์นี้ “นายกสมาคมธุรกิจเช่าซื้อ รถจักรยานยนต์ไทย” ชี้กระทบการปล่อยสินเชื่อ ยอดขายรถทั้งระบบวูบ 20-30% จากปัจจุบันปล่อยกู้ เฉลี่ยที่ 1 แสนล้าน ยอดขายรถ 1.6 ล้านคัน เตรียมเรียกทั้งอุตฯ ต้นน้ำ-ปลายน้ำ หากแนวทางรับมือ เหตุไฟแนนซ์จ่อปรับเกณฑ์กลุ่มเสี่ยงเข้มกลุ่มรากหญ้า-อาชีพอิสระ-เด็กจบใหม่

(+) JMART* ลุย M&A ดันกำไรโต (ไทยโพสต์) JMART* กางแผนลงทุนปี 2566 ทุ่มงบ 30,000 ล้านบาท ลุยจับมือ-ควบกิจการ เน้นกลุ่มคอมเมิร์ซ ไฟแนนซ์ เทคโนโลยี ตั้งเป้ากำไรโตปีละ 50% ลั่นปี 67 มาร์เก็ต แคปทั้งกลุ่มแตะ 5 แสนล้านบาท

(+) ‘ยู ซิตี้” ลุยลดทุนลดพาร์ ล้างขาดทุนจ่ายปันผล (ข่าวหุ้น) บมจ.ยู ซิตี้ (U) ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เป็น “แรบบิท โฮลดิ้งส์” สะท้อนการปรับทิศทางธุรกิจสู่กลุ่มบริการทางการเงิน พร้อมลดทุนลดพาร์ เดินหน้าล้างขาดทุนสะสมและส่วนต่ำมูลค่าหุ้นเพื่อเตรียมจ่ายปันผล

(+) STARK ขายพีพีต่ำกว่ากระดาน เคาะราคา 3.72 บาท ฉุดหุ้นร่วงแรง 5.5% (ข่าวหุ้น) วานนี้ STARK เคาะขายหุ้นเพิ่มทุน PP จำนวน 1,500 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 3.72 บาท ต่ำกว่าราคาในกระดาน ฉุดราคาหุ้นปิด 3.78 บาท ร่วงแรง 5.50% หวังระดมเงินทุนไปเป็นส่วนหนึ่งของการชำระค่าซื้อหุ้นใน LEONI Kabel GmbH และ LEONIsche Holding Inc

(+) MAJOR ลุ้นโค้งท้ายเด้ง หนังใหญ่จ่อคิวเข้าฉาย (ทันหุ้น) MAJOR ปลื้ม 9 เดือนแรกของปี 2565 รายได้โตตามเป้า หนังใหญ่จาก Hollywood จ่อคิวเข้าฉาย 3 เรื่อง และภาพยนตร์ไทยหลายเรื่อง ในไตรมาส 4/2565 หนุนผลงานดีกว่าเป้า ด้านธุรกิจ Out Cinema มีสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 30% ของรายได้รวม หลังประสบความสำเร็จจากการนำ “ป๊อปคอร์น” เข้าโมเดิร์นเทรด และเซเว่น ควบคู่การขาย “Bucket Set” ผ่านร้านค้าออนไลน์ชั้นนำ

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • BAFS (เป้าพื้นฐาน 36.5 บาท) แนวรับ 30.5 บาท / แนวต้าน 32.5 บาท ผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 30 บาท)
  • ERW* (เป้าพื้นฐาน 5 บาท) แนวรับ 4.44 บาท / แนวต้าน 4.6 บาท ผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 4.28 บาท)
  • BEC* (เป้าพื้นฐาน 15.3 บาท) แนวรับ 10.2 บาท / แนวต้าน 10.8-11.1 บาท (Stop loss 10 บาท)
  • PTG (เป้าพื้นฐาน 19.5 บาท) แนวรับ 15.7 บาท / แนวต้าน 16.1-16.4 บาท (Stop loss 15.4 บาท)
  • KSL (เป้า Consensus 5.07 บาท) แนวรับ 3.84 บาท / แนวต้าน 4.0-4.1 บาท (Stop loss 3.82 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

กลุ่มธนาคารพาณิชย์ น้ำหนักลงทุน “มากกว่าตลาดฯ” ฝ่ายวิจัยฯ คาดภาพรวมกำไร 3Q65 ของกลุ่ม ฯ จะทรงตัว QoQ แต่เติบโตเด่น YoY สำหรับการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ – เงินฝากของในรอบนี้ แตกต่างกันไปในแต่ละธนาคาร (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในลทวิเคราะห์วันนี้) ฝ่ายวิจัยฯ คงน้ำหนักลงทุน “มากกว่าตลาดฯ” จาก i) การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ii) คาดธนาคารสามารถบริหารจัดการต้นทุน และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยได้ในช่วงแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น

- Advertisement -