สรุปภาวะตลาด

วันพุธที่ผ่านมา ดัชนีแกว่งตัวในแดนบวกสอดคล้องกับตลาดในภูมิภาค หลังตัวเลขความต้องแรงงานของสหรัฐเริ่มหดตัวลง ส่งผลให้ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดอาจชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งหน้า ขณะที่แรงซื้อหนุนตลาด ได้แก่ กลุ่มพลังงาน ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,580.27 จุด +2.27 จุด +0.14% มูลค่าการซื้อขาย 59,395 ลบ. ต่างชาติ +226.36 ลบ. TFEX +22,855 สัญญา ตราสารหน้ี +3,476.68 ลบ.

ปัจจัยบวก+

– สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.24 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 87.76 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย. 2565 หลังจากกลุ่มประเทศโอเปกพลัสมีมติปรับลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรล/วัน ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 2 ปี

+ ทีมนักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์ระบุว่า ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียและกลุ่มตลาดเกิดใหม่ใกล้ยุติวงจรตลาดหมีแล้ว หลังจากที่ร่วงลงติดต่อกันเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณถึงโอกาสในการเข้าซื้อหุ้นในตลาดเหล่านี้

+ SWIFT ซึ่งเป็นระบบโอนเงินระหว่างประเทศ ได้เปิดเผยแนวทางสำหรับเครือข่ายสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) ระดับโลก หลังจากที่ทำการทดสอบเทคโนโลยีและสกุลเงินต่างๆ เป็นเวลานานถึง 8 เดือน

+ กกร. ปรับประมาณการอัตราการ จีดีพี ปี 2565 อยู่ในกรอบ 3-3.5% เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 2.75-3.5% มูลค่าการส่งออกคาดจะขยายตัวได้ในกรอบ 7-8% เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 6-8% และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาดอยู่ในกรอบ 6-6.5% เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 5.5-7%

+ ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือนก.ย.2565 เท่ากับ 107.70 เทียบกับส.ค.2565 เพิ่มขึ้น 0.22% เทียบกับเดือนก.ย. 2564 เพิ่มขึ้น 6.41% ลดลงจากเดือน ส.ค. 2565 ที่สูงขึ้นถึง 7.86% ตามการชะลอตัวของราคาสินค้าในกลุ่มพลังงาน เคหสถาน ซึ่งถือว่าเงินเฟ้อชะลอตัวลงตามที่คาดการณ์เอาไว้

ปัจจัยลบ –

– ดัชนีดาวโจนส์ปิด ลดลง 42.45 จุด หรือ -0.14% หลังมีรายงานว่าตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้นมากกว่าคาดในเดือนก.ย. ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน อาจส่งผลให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

– ADP เปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 208,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 200,000 ตำแหน่ง จากระดับ 185,000 ตำแหน่งในเดือน ส.ค.

– ISM เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการเดือนก.ย.ของสหรัฐอยู่ที่ระดับ 56.7 ซึ่งแม้ว่าชะลอตัวลงจากระดับ 57.9 ในเดือนส.ค. แต่ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 56 และสูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการ

– องค์การสหประชาชาติ (UN) เตือนว่า เศรษฐกิจโลกใกล้เข้าสู่ภาวะถดถอยในขณะนี้ และคาดว่าประเทศกำลังพัฒนาเช่นในเอเชียอาจจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสไต่ระดับขึ้นในลักษณะ Sideway Up โดยมีแรงหนุนจากกลุ่มประเทศโอเปกพลัส มีมีมติ ปรับลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรล/วัน ประกอบกับเงินบาทที่เริ่มแข็งค่าส่งผลให้ Fund Flow เริ่มชะลอการไหล ออก คาดกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,570-1590 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้นซ่อมแซมหลังน้ำท่วม : GLOBAL DOHOME HMPRO TOA COTTO DCC TASCO
  • ศบค. มีมติยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน : ERW CENTEL VRANDA ASAP SPA
  • ตัวเลขส่งออกเดือน ส.ค. เติบโต : BRR KSL TFG GFPT ASIAN JUBILE
  • หุ้นเด่น IAA : ADVANC AOT BBL KBANK

หุ้นรายงานพิเศษ

Banking

  • Consensus คาดแนวโน้มกำไร 3Q65F ของ BBL, KBANK และ SCB มีแนวโน้มเติบโตทั้ง YoY และ QoQ ขณะที่กําไรของ KKP, KTB, TISCO และ TTB คาดเติบโต YoY แต่ลดลง QoQ
  • ฝ่ายวิจัยให้น้ำหนัก “Overweight” หุ้นกลุ่มธนาคารจากที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น ทั้งนี้ หุ้นธนาคารขนาดใหญ่ต่างประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ให้สอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับขึ้น เราชอบ BBL, KBANK, KTB, SCB และ TISCO

หุ้นมีข่าว

(+) WHA (Bloomberg Consensus 4.26 บาท) บิ๊ก WHA แย้มผลงานไตรมาส 4/2565 แรงสุดในรอบปี อานิสงส์ยอดโอนทะลัก ยิ้มรับบาทอ่อนค่าช่วยกระตุ้นต่างชาติซื้อที่ดิน เดินหน้าขายสินทรัพย์ เข้ากอง REIT 5.4 พันล้านบาท ไตรมาสนี้ปั๊มกำไรพิเศษ ปักธงทั้งปีรายได้ทะยาน 20% จากปีก่อน รับพอร์ตลูกค้าขยายตัว (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BM (Bloomberg Consensus – บาท) ตู้โลหะขายดี เต่าบินป้อนออเดอร์วันละ 20 ตู้ แถมดาต้าเซ็นเตอร์ขยายตัว ดีมานด์ล้น บิ๊กบอส “ธีรวัต อมรธาตรี” คาดรายได้ปี 2566 โต 10-20% จากปี 2565 คาดผลงานมาตามนัดทะลุ 1.4 พันล้านบาท ลุยผลิตสินค้าฟรีโซน กดต้นทุนหนุนมาร์จิ้น (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ORI (Bloomberg consensus 13.40 บาท) คาดรัฐเดินหน้าผลักดันอสังหาริมทรัพย์ เกษียณอายุจูงใจทุนนอกซื้อ เป็นตัวช่วยดันจีดีพี ปีหน้าบุกตลาดเต็มสูบกวาดตลาดรีไทเมนต์ ชูอสังหาริมทรัพย์กลับมาเด่น 9 เดือน พรีเชลสูง 2.9 หมื่นล้านบาท ไตรมาส 3 พรีเขต สถิติออลไทม์ไฮ ไตรมาส 4 โอซีซั่นสูงอีก ดันทั้งปีทะลุเป้า 3.5 ล้านบาท ไม่ห่วงดอกเบี้ยขาขึ้น (ที่มา ทันหุ้น)

(+) RPH (Bloomberg consensus 7.30 บาท) ส่งซิกไตรมาส 3/2565 พีค ไฮซีซันเฮลธ์แคร์หนุน ยอดรักษาผู้ป่วยทั่วไปทั้ง CPD-IPD เต็มอัตรา คาดอัตตราการใช้เตียงเฉลี่ยสูง 80% มองการเปิดประเทศหนุนนักท่องเที่ยวต่างชาติใหลกลับเข้าไทยเพิ่มขึ้น มั่นใจรายได้ปีนี้แตะ 1.5 พันล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 7 ต.ค. ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)
  • 12 ต.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยแพร่รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบาย การเงิน (กนง.) ฉบับย่อ
  • 19-21 ต.ค. รมว.คลัง เป็นประธานการประชุมและ เจ้าภาพจัดประชุมรมว.คลังเอเปค
  • 25 ต.ค. กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออก น่าเข้า
  • 26-29 ต.ค. ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมประจำปี รัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 30
  • 27-29 ต.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จัด งาน BOT Digital Finance Conference 2022
  • 28 ต.ค. ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย 30 พ.ย. กำาหนดประชุมกนง.รอบหน้า

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 6 ต.ค. อียู รายงานยอดค้าปลีกเดือนส.ค.
    • สหรัฐ รายงานจํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ 7 ด.ค.
    • ญี่ปุ่นรายงานการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเดือน ส.ค. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนส.ค.
    • จีน รายงานทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือน ก.ย.
    • สหรัฐรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ย. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนส.ค.
  • 8 ต.ค. จีนรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.ย.จากไฉซิน
  • 11 ต.ค. ญี่ปุ่นรายงานดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน ส.ค.
  • สหรัฐรายงานดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาด ย่อมเดือนก.ย.
  • 1-2 พ.ย. กําหนดประชุมธนาคารกลางสหรัฐรอบหน้า
- Advertisement -