บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

PTT Exploration and Production (PTTEP.BK/PTTEP TB)*

ประมาณการ 3Q65F : อีกหนึ่งไตรมาสที่คาดผลการดำเนินงานดี

Event

ประมาณการ 3Q65F

Impact

คาดว่ากำไรใน 3Q65F จะเพิ่มขึ้นถึง 89% YoY แต่จะลดลง 12% QoQ

เราคาดว่ากำไรสุทธิของ PTTEP ใน 3Q65F จะอยู่ที่ 1.81 หมื่นล้านบาท (+89% YoY, -12% QoQ) โดย กำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก YoY จะเป็นเพราะราคาน้ำมันดิบดูไบเพิ่มขึ้นเป็น US$97/bbl ใน 3Q65 จาก US$72/bbl ใน 3Q64 เพราะสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ดำเนินมาตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ในขณะเดียวกันเราคาดว่ากำไรจะลดลง QoQ เนื่องจาก i) มีผลขาดทุนพิเศษประมาณ 90 ล้านดอลลาร์ฯ จากการขายการลงทุนทั้งหมดในบราซิล และ ii) ราคาน้ำมันดิบดูไบลดลง US$11/bbl QoQ จาก 2Q65 เพราะถูกกดดันจากความกังวลว่าเศรษฐกิจหลักของโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังจากที่ธนาคารกลางประเทศต่างๆ พากันขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเราคาดว่าราคาขายเฉลี่ย (ASP) ของ PTTEP จะลดลง 8% QoQ เหลือ US$53.7/BOE ตามราคาน้ำมันดิบที่ลดลง แม้ว่าราคาขายก๊าซน่าจะขยับขึ้น 3% QoQ เป็น US$6.3/mmbtu นอกจากนี้ เราคาดว่าต้นทุนต่อหน่วยจะเพิ่มขึ้น 8% QoQ เป็น US$31/BOE เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและสำรวจปิโตรเลียมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการเข้าพื้นที่ของโครงการเอราวัณ เพื่อติดตั้งแท่นหลุมผลิต (wellhead platform) และ facilities ใหม่ รวมถึงการขุดหลุมผลิต แต่อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าปริมาณยอดขายของบริษัทจะเพิ่มขึ้น 2% QoQ เป็น 476KBOED เนื่องจากเป็นไตรมาสแรกที่เริ่มรับรู้ยอดขายจากโครงการ G1/61 (เอราวัณ) และ G2/61 (บงกชเหนือ) เต็มไตรมาส

OPEC+ ลดการผลิต 2MBD มากกว่าความคาดหมาย

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา OPEC มีมติลดเป้าการผลิตน้ำมันดิบลง 2MBD ในเดือนพฤศจิกายน จากระดับที่กำหนดว่าจะผลิตในเดือนสิงหาคม เราเชื่อว่าการประกาศมติดังกล่าวจะหนุนให้ราคาน้ำมันดิบกลับขึ้นไป หลังจากที่อยู่ในขาลงติดต่อกันมาหลายสัปดาห์ แต่อย่างไรก็ตาม OPEC+ (ไม่รวมอิหร่าน, ลิเบีย, เวเนซูเอลา และเม็กซิโก) ผลิตน้ำมันดิบเพียง 38.7MBD ในเดือนสิงหาคม ต่ำกว่าเป้าการผลิตถึง 3.4MBD ดังนั้น OPEC+ ยังมีช่องให้เพิ่มการผลิตน้ำมันดิบได้อีกในช่วงที่เหลือของปีนี้ แม้ว่าจะรวมการลดเป้าการผลิตลง 2MBD ในเดือนพฤศจิกายนก็ตาม นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยในงวด 9M65 อยู่ที่ US$100/bbl ในขณะที่เรายังคงประมาณการใน 4Q65 เอาไว้ที่ US$90/bbl ดังนั้นเราจึงยังคงสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบปีนี้เอาไว้เท่าเดิมที่ US$100/bbl และปีหน้าที่ US$85/bbl

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำถือ โดยประเมินราคาเป้าหมาย DCF ปี 2566 ที่ 173.00 บาท (ใช้ WACC ที่ 8.7% และ terminal growth ที่ 1.0%) เราเชื่อว่าราคาหุ้นจะได้แรงหนุนจากคาดผลการดำเนินงานที่ดีใน 3Q65 และการที่ OPEC+ ลดเป้าการผลิตในเดือนพฤศจิกายน 2MBD ซึ่งมากกว่าความคาดหมาย

Risks

ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบและก๊าซ

- Advertisement -