บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action TRADING (Maintain)
TP upside (downside) +4.8%
Close Oct 5, 2022 Price (THB) 168.00
12M Target (THB) 176.00
Previous Target (THB) 176.00
What’s new?
- คาดกำไรสุทธิ 3Q65 ทำได้ 2.0 หมื่นล้านบาท เติบโตสูง YoY จากปริมาณและราคาขาย ขณะที่เทียบกับ 2Q65 คาดท่าไร -4% QoQ ถือว่าประคองตัวได้ดีจาก All-time high ในไตรมาสก่อน หนุนจากยอดขายและกําไร Hedging
- อย่างไรก็ตาม เรามองว่าผลการดำเนินงานหลักถือว่าทำได้น้อยกว่าที่ประเมินไว้ก่อนหน้าเล็กน้อย กดดันจากการรั่วไหลของท่อ Zawtika, การเลื่อนส่งมอบของ Algerial HBR, ค่าใช้จ่ายของเอราวัณ และการ Write-off หลุมสำรวจ
Our view
- 4Q65 มีความเสี่ยงจากการเข้าพื้นที่โครงการโมซัมบิก กรณีเลวร้ายอาจมีค่าใช้จ่ายด้อยค่าสินทรัพย์ ทั้งนี้ แนวโน้มกำไรปกติยังแข็งแกร่ง และคาดการณ์ 9M65 เป็น 70% ของทั้งปี คงประมาณการปี 2565 – 2566
- คงมุมมองเป็นกลาง เชื่อว่าโมเมนตัมกำไรผ่านจุดที่ดีสุดไปแล้ว แต่ผลประกอบการ และราคาน้ำมันช่วง 4Q65 – 2565 ยังสามารถประคองตัวระดับสูง จึงสามารถ TRADING รอบสั้นตามราคาน้ำมัน ราคาเหมาะสม 176.00 บาท
PTT EXPLORATION & PRODUCTION ประคองตัวระดับสูงได้อีกไตรมาส
คาดผลประกอบการ 3Q65 ประคองตัวในระดับสูง
คาด 3Q65 จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2.0 หมื่นล้านบาท เติบโตสูง +108% YoY จากปริมาณขาย และราคาขายที่สูงขึ้นมากจากการเริ่มสัมปทานฉบับใหม่ และทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับ 2Q65 คาดผลประกอบการจะลดลงเล็กน้อย 4% QoQ แต่ยังถือว่าประคองตัวในระดับสูง ใกล้เคียง All-time high ในไตรมาสก่อน หนุนจากปริมาณขายและกำไร Hedging ทั้งนี้ เรามองว่าผลการดำเนินงานหลักถือว่าทำได้น้อยกว่าที่ประเมินไว้ก่อนหน้าเล็กน้อย เพราะคาด 1) ยอดขายทําได้ 476 KBOED เพิ่มขึ้น +2% QoQ จากการรับรู้สัมปทานใหม่ของโครงการเอราวัณ (G1) เต็มไตรมาส (เริ่มเดือนเม.ย.) และโครงการในมาเลเซียผ่านการปิดซ่อมบำรุงมาแล้ว แต่ถือว่าต่ำกว่า Guidance ก่อนหน้า เพราะผลกระทบจากเหตุการณ์รั่วไหลของท่อก๊าซโครงการ Zawtika ทำให้ต้องหยุดผลิต 2 อาทิตย์ และการเลื่อนส่งมอบน้ำมันของโครงการ Algeria HBR 2) ราคาขายเฉลี่ยทำได้ US$53.7/boe (3% QoQ) เพราะ Premium ของราคาขาย Liquid ที่ดีขึ้นถูกชดเชยด้วย Shortfall ก๊าซโครงการ Zawtika ที่ราคาสูง 3) ต้นทุนการผลิตอยู่ ที่ US$30.8/boe (+7% QoQ) จากค่าใช้จ่ายการเร่งเพิ่มกำลังผลิตโครงการเอราวัณ และการ Write-off หลุมสำรวจที่ไม่มีศักยภาพ 4) ค่าใช้จ่ายรายการไม่เกิดขึ้นประจำราว 1 พันล้านบาทจากผลสุทธิของกำไรอนุพันธ์ป้องกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน และขาดทุนการจำหน่ายเงินลงทุนในแหล่งปิโตรเลียมที่บราซิล
OPEC+ พร้อมลดการผลิตสร้างเสถียรภาพราคาน้ำมันช่วงที่เหลือของปี 4Q65
แม้ช่วงเดือนก.ย. ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวต่ำกว่า US$80/bbl จากความกังวลด้านเศรษฐกิจชะลอตัว และดอลลาร์แข็งค่า อย่างไรก็ตาม เรามองว่าราคาน้ำมันดิบในช่วงที่เหลือของปีจะสามารถประคองตัวสูงเฉลี่ย US$90/bbl ได้ หนุนจากปริมาณน้ำมันของรัสเซียที่ลดลง และนโยบายการผลิตของ OPEC+ ที่พร้อมปรับลดอุปทานน้ำมันลงเพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมันให้อยู่ระดับสูง ส่งผลให้คาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานหลัก 4Q65 ยังประคองตัว QoQ ในระดับสูง และเติบโต YoY จากปริมาณผลิตของโครงการบงกช, การรับรู้ยอดขายของโครงการ Algeria HBR ที่เลื่อนส่งมอบจากไตรมาสก่อน และการปรับขึ้นสัญญาราคาขายก๊าซธรรมชาติให้สะท้อนทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก
คงประมาณการ….ติดตามการเข้าพื้นที่โครงการโมซัมบิก
ความคืบหน้าการเข้าพื้นที่ของโครงการโมซัมบิกยังมีความไม่แน่นอน ซึ่งกรณีไม่สามารถเข้าพื้นที่เพื่อก่อสร้างอาจทำให้โครงการล่าช้า และมีความเสี่ยงถูกด้อยค่าสินทรัพย์ใน 4Q65 อย่างไรก็ตาม หาก 3Q65 เป็นไปตามคาด กำไรสุทธิ 9M65 จะคิดเป็น 70% ของคาดการณ์ทั้งปี ดังนั้นเราคงกำไรสุทธิปี 2565 – 2566 ที่ 7.3 หมื่นล้านบาท (+87% YoY) และ 7.2 หมื่นล้านบาท (ทรงตัว YoY) ตามลำดับ บนสมมติฐานราคาน้ำมันปี 2566 เฉลี่ย US$85/bbl ทุก US$1/bbl กระทบกำไร 830 ล้านบาท ราคาเหมาะสม 2.2 บาท
TRADING รอบสั้นตามราคาน้ำมัน
คงมุมมองเป็นกลาง เชื่อว่าโมเมนตัมกำไรของ PTTEP ผ่านจุดที่ดีสุดไปแล้ว แต่คาดผลประกอบการและราคาน้ำมันช่วง 4Q65 – 2566 ยังสามารถประคองตัวระดับสูง จึงคงคำแนะนำ TRADING ราคาเหมาะสม 176.00 บาท สำหรับเก็งกำไรรอบสั้นตามราคาน้ำมัน เชิงกลยุทธ์นักลงทุนอาจรอจังหวะเข้าซื้อช่วงหุ้นอ่อนตัวเพราะระยะสั้นมีโอกาสพักฐานตามราคาน้ำมันหลัง OPEC ปรับลดปริมาณผลิตใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด รวมทั้งอาจถูกกดดันเชิง Sentiment จากมาตรการตอบโต้ของสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร เช่น การผ่อนปรนการคว่ำบาตรเวเนซุเอลา, การระบายสต็อกน้ำมัน SPR เพิ่มเติม และการจำกัดราคาน้ำมันของรัสเซีย