รอบด้านตลาดหุ้น: วันนี้คาดดัชนีย่อเพื่อขึ้นต่อ

Market wrap & Outlook

  • วานนี้ดัชนี Sideways up ชนแนวต้าน ดันตลาดโดย DELTA SCGP PTTEP BDMS BH AOT KBANK SCB BBL และหุ้นบวกแรง เช่น RCL ANAN SVI CH DPAINT AMA ส่วนหุ้นปิดลบกดดันตลาดนำโดย ADVANC INTUCH TRUE CPALL CPN BGRIM
  • วันนี้คาดดัชนีย่อเพื่อขึ้นต่อ การรีบาวด์ของตลาดตลอดสัปดาห์นี้ พบแรงซื้อตามกลุ่มหุ้นเป็นตามที่เราคาด เริ่มจากการช้อนซื้อ และ Covered short เช่น พลังงาน โรงกลั่น ธนาคารและหุ้นบลูชิปต่างๆ ในช่วงพุธ-พฤหัส ตลาดเริ่มหันมาเล่น หุ้น Alpha ที่แนวโน้มกำไรดีขึ้น มี Catalyst บวก เช่น COM7 SNNP NSL NBC NEX BYD และ กลุ่ม Valuation ถูก ดังที่เห็นหุ้น PER (Trailing) ต่ำอย่าง SCGP RCL PSL STGT STA โดยเฉพาะ PE 1-5 เท่า เด้งแรงวานนี้ ดังนั้นวันนี้กลยุทธ์แนะนำ เลือกซื้อหุ้น Cheap valuation และ Alpha ต่อจากโมเมนตั้มเมื่อวาน

What to watch

  • ผู้นำสหรัฐฯ ส่งสัญญาณระบายสต็อคน้ำมันในคลังสำรอง สวนทางการลดกำลังการผลิตของ OPEC
  • รายงานตัวเลขการขอสวัสดิการครั้งแรกของสหรัฐ (Initial Jobless Claims) อยู่ที่ 2.19 แสนราย สูงกว่าตลาดดคาดที่ 2.03 แสนราย (แต่ยังเพิ่มขึ้นจาก 1.93 แสนราย ในเดือน ส.ค.)
  • วันนี้ ติดตามตัวเลขรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ และอัตราการว่างงานสหรัฐฯ ตลาดคาดที่ 3.7% เท่ากับเดือนที่แล้ว
  • สัปดาห์หน้าประเด็นสำคัญติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ก.ย. (13 ต.ค.) และถัดไปการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีน (16 ต.ค.)

หุ้นแนะนำวันนี้

  • TLI หลังราคาย่อลงมา แต่พื้นฐานไม่เปลี่ยนมำให้ Valuation ถูกลงเหลือ P/EV เพียง 1 เท่า (ถูกกว่า AIA HK ที่ 1.4 เท่า) และยังไม่รวม Upside จากการประเมินมูลค่าสินทรัพย์และที่ดินใหม่เพิ่มเข้าไปในปีนี้ด้วย
  • AAV หุ้น alpha จากปัจจัยบวกเฉพาะตัว การเปิดรับการท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะหลายประเทศในแถบเอเชีย

Technical Daily (T)

คัดหุ้นกราฟสวย….เก็บเพิ่มเข้าพอร์ต
แนะนำ ซื้อ
SAWAD  แนวรับ 41-42 แนวต้าน 47 และ 50 ( Stop loss < 40)
TOP  แนวรับ 51-52 แนวต้าน 56 และ 59 ( Stop loss < 50)
DITTO  แนวรับ 70-72 แนวต้าน 80 และ 83 ( Stop loss < 69)

Global Investing Brief: ประธาน Fed เซนต์หลุยส์ คาด Fed อาจขึ้นดอกเบี้ยอีก 1.25% ก่อนสิ้นปี

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ

  • 3 ดัชนีหลักปิดลบเมื่อคืนนี้ โดยดัชนี DJIA -1.2%, S&P 500 -1%, Nasdaq -0.7% กดดันจาก Coca-Cola (KO) -2.2% Procter & Gamble (PG) -2.1% และ Johnson & Johnson (JNJ) -1.9% หลังนายนีล แคชแครี ประธาน Fed สาขามินเนอาโพลิสเผยว่า Fed ยังไม่มีแนวโน้มที่จะชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ จนกว่าจะมีหลักฐานบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อได้ชะลอตัวลง ขณะที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธาน Fed สาขาเซนต์หลุยส์คาดการณ์ว่า Fed อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 1.25% ก่อนสิ้นปี 65 ทั้งนี้ คาดการณ์จาก Bloomberg cons. เผยอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ก.ย. อาจเพิ่มขึ้น 8.1%YoY ชะลอลงจาก ส.ค. เล็กน้อยที่ 8.3%YoY
  • นอกจากนี้เราแนะติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร เพื่อเป็นตัวบ่งชี้ทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed โดยตลาดคาดอาจเพิ่มขึ้น 265,000 ตำแหน่งในเดือน ก.ย. จากที่พุ่งขึ้น 315,000 ตำแหน่งในเดือน ส.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานอาจทรงตัวที่ระดับ 3.7%
  • Costco (COST) เผยยอดขายเดือน ก.ย. 65 โต 10.1%YoY แตะ $21.5bn ส่งผลให้ยอดขายสาขาเดิมโต 8.5%YoY มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 6.3%YoY ทั้งนี้ เราคาดว่ายอดขายสินค้ายังมีแนวโน้มโตต่อในเดือน ต.ค. และ พ.ย. หนุนจาก “Kirkland Signature” แบรนด์สินค้าที่บริษัทเป็นเจ้าของเอง ที่มีจุดเด่นด้านความคุ้มค่า ซึ่งอาจทำให้ชาวสหรัฐฯ หันมาบริโภคมากขึ้นในช่วงที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง โดยสามารถศึกษาเพิ่มเติมในรายงาน “Costco ห้างโกดังแกร่ง เจ้าของแบรนด์ Kirkland เด่นเรื่องคุ้มค่า” เมื่อ 4 ต.ค. 65 ขณะที่ TP จาก Bloomberg cons. อยู่ที่ $556.46

ตลาดหุ้นฮ่องกง

  • วานนี้ดัชนีฮั่งเส็งพักฐาน 0.4% กดดันจาก JD.com (9618) -2.9% Alibaba (9988) -1.2% และ Baidu (9888) -0.8% หลัง Goldman Sachs คาดว่าราคาบ้านในฮ่องกงอาจปรับลงราว 15% ในปีนี้ และลงอีก 15% ในสิ้นปี 66 จากที่ปรับลงมาแล้วราว 8% จากต้นปี โดยคาดว่าอาจกดดันจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากธนาคารฮ่องกงได้มีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นในทิศทางเดียวกันกับธนาคารกลางสหรัฐฯ
  • รัฐบาลฮ่องกงประกาศผ่อนมาตรการเว้นระยะห่างเพิ่มเติม โดยเพิ่มจำนวนคนที่สามารถรับประทานอาหารร่วมโต๊ะจาก 8 คน เป็น 12 คน อีกทั้งยังผ่อนข้อจำกัดการทำกิจกรรมกลุ่มจากเดิมไม่เกิน 8 คน สู่ 12 คน เราจึงมองว่าอาจเป็นปัจจัยหนุนต่อหุ้นเปิดเมืองในฮ่องกงอย่าง MTR (66) โดยคาดการณ์จาก Bloomberg cons. เผยรายได้ใน 2H65 อาจโต 5.2%YoY สู่ HKD26.2bn และ TP อยู่ที่ HKD46.19

ตลาดหุ้นเวียดนาม

  • วานนี้ดัชนี VN ปรับลง 2.7% กดดันจาก MSN -5.1%, VCB -2%, MWG -6.8% ด้าน Apple เพิ่มบริษัทเวียดนาม 4 แห่ง เข้าเป็นซัพพลายเออร์ผลิตสินค้า อีกทั้งเวียดนามจะเป็นฐานการผลิต Apple Watch และ Macbook ด้วยเช่นกัน ขณะที่ JPMorgan คาดว่าเวียดนามอาจมีสัดส่วนการผลิตสินค้าของ Apple แตะ 65% ในปี 68
  • DGW อาจเผยงบ 3Q65 ในช่วงเดือน พ.ย. 65 โดยโบรกเวียดนามคาดรายได้โต 57%YoY สู่ VND6tn และ กำไรอาจโต 68%YoY แตะ VND180bn หนุนจากยอดขายสมาร์ทโฟนที่อาจโต 95%YoY และอุปกรณ์สำนักงานที่มีแนวโน้มโตถึง 109%YoY อีกทั้งคาดว่าสินค้า 2 ชนิดดังกล่าวจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของรายได้ในครึ่งปีหลังนี้เช่นกัน จากสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่อย่าง iPhone 14 และแนวโน้มการพัฒนาทางเทคโนโลยีของสำนักงานในเวียดนาม ขณะที่ TP อยู่ที่ VND74,300

Highlight

Alphabet (GOOGL) ได้เปิดตัว Google Pixel Watch นาฬิกาอัจฉริยะรุ่นแรกของบริษัท โดยได้ร่วมมือกับ FitBit ในการพัฒนาฟีเจอร์ด้านสุขภาพที่สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์จาก Google เช่น Google Maps และ Google Wallet อีกทั้งยังเปิดให้ใช้ YouTube Music Premium แบบไม่เสียค่าบริการเป็นเวลา 3 เดือนด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ตัวสินค้าจะออกวางขายในวันที่ 13 ต.ค. 65 นี้ ที่ราคา $349.99

- Advertisement -