บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action BUY (Maintain)

TP upside (downside) +20.0%

Close Oct 10, 2022 Price (THB) 25.00

12M Target (THB) 30.00

Previous Target (THB) 28.50

What’s new?

  • คาดกำไรปกติ 3Q65 ที่ 105 ลบ. (-3.7%QoQ, +91.0%YoY) แม้ว่ามีผลลบจากฤดูกาล และรายได้ OEM ลดลง QoQ แต่ยังรักษาระดับกําไรมากกว่า 100 ลบ. ไว้ได้ เพราะ GPM ฟื้น
  • แนวโน้ม 4Q65 คาดกำไรปกติเติบโตทั้ง QoQ และ YoY เพราะผลของฤดูกาล และ OEM เลื่อนส่งมอบมาจาก 3Q65
  •  ปรับประมาณการกำไรขึ้น 5-7% เพื่อสะท้อนรายได้ที่แข็งแกร่ง และการควบคุม SG&A ได้ดีกว่าคาด

Our view

  • คงมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของ SABINA
  • ผลของการปรับประมาณการกำไรขึ้น และปรับไปใช้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ทําให้ได้ราคาเป้าหมายใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 30.00 บาท คงคําแนะนํา ซื้อ
  • ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER66 เพียง 18.6 เท่า และมี Upside risk จากการ M&A คาดว่าจะมีความชัดเจนภายใน 1H66

SABINA ชุดชั้นในไม่กลัวฝน

คาดกำไรปกติ 3Q65 ทรงตัว QoQ โดสูง YoY

คาดรายได้ 3Q65 ที่ 791 ลบ. (5.5%QoQ, +46.2%YoY) ได้แรงหนุนจากบริโภคในประเทศฟื้นตัวต่อเนื่อง  ทำให้รายได้ในประเทศยังทรงตัวสูงได้ แม้ว่าจะเป็น Low season จากฝนตก และรายได้สินค้า OEM ไปยุโรปชะลอตัวจากการผลิตไม่ทัน ทำให้มีการส่งมอบลดลง ส่วน YoY ฟื้นตัวแรงเพราะมีการ Lockdown ในประเทศในช่วง 3Q64 ส่วน GPM คาดว่าดีขึ้นจาก 45.7% ใน 2Q65 เป็น 47.5% เนื่องจาก 2Q65 มีผลกระทบจากพนักงานโรงงานติด COVID-19 แต่ยังต่ำกว่า 50.4% ใน 3Q64 เพราะต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ค่าใช้จ่ายส่วนอื่นยังอยู่ในระดับปกติและควบคุมได้ดี เราคาดกำไรปกติ 3Q65 ที่ 105 ลบ. (-3.7%QoQ, +91.0%YoY) ทรงตัวเหนือ 100 ลบ. ขึ้นไปได้ แม้ได้รับผลกระทบจากฤดูฝนและรายได้ OEM ชะลอตัว

4Q65 โมเมนตัมยังบวกต่อ … OEM แน่นถึง 1Q66

เราคาดว่ากำไรปกติ 4Q65 จะเป็นโทรมาสที่ดีที่สุดรองจากผลของฤดูกาล ตลาด NSR ทั้งในไทยและ ASEAN กลับมาคึกคักจากช่วง 10.10, 11.11 และ 12.12 ขณะที่รายได้จาก OEM ให้แบรนด์ยุโรปคาดว่าจะมียอดส่งมอบที่เลื่อนมาจาก 3Q65 มาส่งมอบใน 4Q65 ทำให้รายได้ในส่วนนี้ดีที่สุดของปีใน 4Q65 เช่นกัน และแม้ว่ามีความเสี่ยงเรื่องเศรษฐกิจในยุโรป แต่คาดว่า SABINA จะได้รับผลกระทบจํากัด เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีลักษณะเฉพาะ (เน้นสินค้าเต้าทรงใหญ่พิเศษ) และคำสั่งซื้อยังมีส่วนแบ่งน้อยเมื่อเทียบกับตลาดโดยรวมในยุโรป ทำให้ยังมีโอกาสเติบโตได้ แม้ว่าการบริโภคโดยรวมจะชะลอตัว เนื่องจากมีจุดแข็งเรื่องต้นทุนการผลิตที่ต่ำ สะท้อนได้จากคำสั่งซื้อล่วงหน้าปัจจุบันยาวถึงเดือน ก.พ. 2566 แล้ว ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อที่เห็นการเติบโต YoY ต่อเนื่อง เราคาดกำไรปกติ 4Q65 เบื้องต้นที่ 110 – 120 ลบ. หากสามารถทำกำไรที่ระดับเกินกว่า 120 ลบ. ขึ้นไปได้จะเป็นระดับกำไรสูงสุดใหม่

ปรับกำไรและราคาเป้าหมายขึ้นเล็กน้อย… คงคำแนะนำ ซื้อ

หากประมาณการกำไรปกติ 3Q65 ใกล้เคียงคาดจะทำให้กำไรปกติ 9M65 คิดเป็นสัดส่วน 81% ของประมาณการกำไรทั้งปี 2565 เติมของเรา ขณะที่ 4Q65 คาดว่าจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุด เราจึงปรับประมาณรายได้ขึ้น 4.4% ปรับลด GPM ลงจาก 51.6% เป็น 48.4% และปรับลด SG&A ลง 5.8% สุทธิแล้วทำให้ประมาณการกำไรปกติปี 2565 เพิ่มขึ้น 6.6% และส่งผลให้กำไรปี 2566 เพิ่มขึ้น 5.1% เป็น 417 ลบ. (+42.0%YoY) และ 468 ลบ. (+12.2%YoY) ตามลำดับ และปรับไปใช้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ได้ราคาเป้าหมายใหม่เพิ่มขึ้นจาก 28.50 บาท เป็น 30.00 บาท คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาปัจจุบัน ซื้อขายที่ PER66 เพียง 18.6 เท่า นอกจากนี้ยังมี Upside จากการ M&A คาดว่าจะมีความชัดเจนภายใน 1H66

- Advertisement -