บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action BUY (Maintain)

TP upside (downside) +26.3%

Close Oct 10, 2022 Price (THB) 9.50

12M Target (THB) 12.00

Previous Target (THB) 10.70

What’s new?

  • คาดกำไรปกติ 3Q65 ที่ 153 ลบ. ทรงตัว QoQ ได้ แม้จะผ่านพ้นช่วง High Season จากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้น และต้นทุนที่ชะลอตัวหนุน GPM และเติบโตเด่น YoY จากฐานต่ำในปีก่อน
  • เราคาดแนวโน้มกำไรปกติ 4Q65 เบื้องต้นทรงตัว QoQ และเติบโต YoY จากการรับรู้รายได้ของสินค้าใหม่ อาทิ  น้ำด่าง pH 8.5+CBD และ Tansansu เครื่องดื่มอัดลมสไตล์เกาหลี คาดได้รับผลตอบรับดีหนุนรายได้ และอัตราการใช้กำลังการผลิต

Our view

  • เรามีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการใน 2H65 และปี 2566 จากผลกระทบของต้นทุนที่คลี่คลายมากขึ้น และการรับรู้รายได้จากกลุ่มสินค้าใหม่ รวมถึงสัดส่วนรายได้ธุรกิจ OEM ที่สูงขึ้นหนุนอัตราการใช้กำลังการผลิต
  • ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PER55 เพียง 21 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มเครื่องดื่มที่ 28-30 เท่า เราปรับไปใช้ราคาเหมาะสมสิ้นปี 2565 ได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 12.00 บาท คงคําแนะนำ ซื้อ

ICHITAN GROUP คาดเป็นไตรมาส 3 ที่แข็งแกร่งกว่าทุกปี

คาดกำไร 3Q65 ทรงตัว QoQ ได้ แม้ผ่านพ้น High Season ไปแล้ว

เราคาดกำไรปกติใน 3Q65 ที่ 153 ลบ. ทรงตัว QoQ ได้ แม้ปกติที่จะชะลอตัวจากปัจจัยฤดูกาล โดยสาเหตุหลักจากตลาดส่งออกฟื้นตัวได้ดี โดยเฉพาะในกัมพูชาที่กิจกรรมเศรษฐกิจฟื้นตัว และราคาต้นทุนเม็ดพลาสติกที่ลดลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก ขณะที่เทียบกับปีก่อนมีการเติบโต 19.1%YoY จากฐานที่ต่ำในปีก่อน และตลาดชาเขียวที่เติบโต 16%YoY หนุนกลุ่มสินค้าหลัก นอกจากนี้บริษัทเริ่มรับรู้รายได้จากลูกค้า OEM รายใหม่ อาทิ Predator, Thaitanium power shot เป็นไตรมาสแรก หนุนรายได้และอัตราการใช้กำลังการผลิต (U-rate) โดยปัจจุบัน U-rate อยู่ที่ราว 66% เพิ่มขึ้นจาก 1H65 ที่ราว 56% เราคาด GPM ฟื้นตัวเป็น 19.6% จาก 18.0% ใน 2Q65 จากต้นทุนบรรจุภัณฑ์และค่าพลังงานที่ลดลง แต่ยังต่ำกว่า 20.1% ใน 3Q64 ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรธุรกิจร่วมค้าในอินโดนีเซียคาดเติบโตยังอยู่ในทิศทางเติบโตต่อเนื่อง และมีโอกาสทำระดับสูงสุดใหม่จากการรับรู้ผลของต้นทุนที่ชะลอลงเช่นกัน และเริ่มมีการส่งออกไปยังประเทศฟิลิปปินส์ผ่านร้านค้า Alphamart แล้วในเดือน ส.ค. เราคาดส่วนแบ่งกำไรที่ 30 ลบ.

เตรียมรับรู้รายได้จากสินค้าใหม่ราว 2 ตัวใน 4Q65

บริษัทเตรียมวางจำหน่ายสินค้าใหม่อย่างน้อย 2 ตัวภายในเดือน ต.ค. นี้ ได้แก่ 1) น้ำด่าง pH 8.5+CBD และ 2) Tansansu เครื่องดื่มอัดลมสไตล์เกาหลี สินค้าเครื่องดื่มผสมก๊าซตัวแรกของบริษัท คาดจะได้รับผลตอบรับที่ดี โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ของสินค้าใหม่ 2 ตัวนี้รวมกันที่ราว 200 ลบ. ในปีนี้ และจะรับรู้รายได้ของลูกค้า OEM รายใหม่อย่าง PTT ที่เป็นสินค้าเครื่องดื่มผสม CBD โดยสินค้าใหม่และสัดส่วนรายได้ OEM ที่สูงขึ้น คาดจะช่วยหนุน U-rate ให้ทรงตัวหรือสูงขึ้นจาก 1H65 ได้จากปกติที่จะลดลง เนื่องจากเป็นช่วง Low season ลดต้นทุนคงที่ต่อหน่วย อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก หากกลับมาที่ระดับใกล้เคียง 100 USD/Barrel อาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนบรรจุให้กลับมาสูงขึ้น เบื้องต้นบนสมมติฐานราคาน้ำมันไม่สูงขึ้นไปมากกว่านี้ เราคาดแนวโน้มกำไรใน 4Q65 จะทรงตัว QoQ ได้ และมีโอกาสที่กำไรทั้งปีจะสูงกว่าประมาณการของเราราว 5-6%

ปรับไปใช้ราคาเหมาะสมปี 2566 ราคาหุ้นถูกกว่ากลุ่ม คงคำแนะนำ “ซื้อ”

เรามีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการในปี 2566 ของ ICHI ที่คาดจะกลับมาเติบโต YoY ได้ จากสัดส่วนรายได้ธุรกิจ OEM ที่จะชัดเจนมากขึ้น, สินค้าใหม่กลุ่มเครื่องดื่มอัดก๊าซและเครื่องดื่มผสมสาร CBD รับรู้รายได้ได้เต็มปี และคาดหวังปัจจัยกดดันด้านต้นทุนคลี่คลายมากขึ้น เราปรับไปใช้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 12.00 บาท (อิงวิธี DCF, wacc 9.0%, t.g. 2.5%) ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER66 เพียง 21.0 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มเครื่องดื่มในปัจจุบันที่ 28 – 30 เท่า คงคำแนะนำ “ชื้อ”

- Advertisement -