บล.บัวหลวง:

Siam Makro (MAKRO TB /MAKRO.BK)

MAKRO – ภาพไตรมาส 3/65: การดำเนินงานของ MAKRO เป็นปัจจัยขับเคลื่อนกำไร

ยอดขายที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของกลุ่ม HoReCa และลูกค้า ร้านค้าปลีก น่าจะส่งผลบวกต่อผลประกอบการของ MAKRO ในไตรมาส 3/65 แม้ผลประกอบการของ Lotus’s จะยังคงอ่อนแอ แต่เมื่อมองไปยังไตรมาส 4/65 เราคาดว่าปัจจัยฤดูกาล และการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้กำไรของ MAKRO ยังเติบโตได้ YoY และ QoQ

ธุรกิจค้าส่งหนุนกําไรไตรมาส 3/65

เราคาดกำไรหลักไตรมาส 3/65 ของ MAKRO จะอยู่ที่ 1,564 ล้านบาท ทรงตัว YoY และ QoQ แม้ว่าต้นทุนทางการเงินของ Lotus’s จะเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ แต่เรามองว่าการดำเนินงานของธุรกิจค้าส่งของ MAKRO จะ เป็นไปตามคาด การฟื้นตัวของยอดขายกลุ่ม HoReCa และลูกค้าร้านค้าปลีก (ยอดขายรวมกันคิดเป็น 54% ของยอดขายทั้งหมด) จะส่งผลให้ MAKRO รายงานการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมอย่างเดียวที่ 11% และยอดขายรวมเติบโต 13% YoY ในไตรมาส 3/65  ดังนั้น เราคาดกำไรหลัก ของ MARKO เพียงอย่างเดียว อยู่ที่ 1,744 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% YoY และ 29% QoQ จากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมที่แข็งแกร่งของ MAKRO อัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย YoY และ QoQ

ปัจจัยกดดันด้านต้นทุนของ Lotus’s ที่ยังคงมีอยู่ในไตรมาส 3/65

ต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ผลประกอบการไตรมาส 3/65 ของ Lotus’s ปรับตัวลดลง ยอดขายสาขาเดิมในไตรมาส 3/65 มีแนวโน้มทรงตัว นอกจากฐานที่สูงจากยอดขายอาหารสดในไตรมาส 3/64 แล้ว ฝนตกอย่างหนักและน้ำท่วมในช่วงไตรมาส 3/65 ส่งผลให้จํานวนผู้เข้าร้านค้าลดลง ในแง่ต้นทุนด้านการเงิน Lotus’s ได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ย Libor สามเดือนที่เพิ่มขึ้นจาก 2.3% ณ สิ้นเดือนมิ.ย. 2565 เป็น 3.8% ณ สิ้นเดือนก.ย.และค่าเงินบาทอ่อนค่าลงจากค่าเฉลี่ย 34.50 บาท/ ดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาส 2/65 ไปเป็น 36.60 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาส 3/65 ดังนั้น ต้นทุนทางการเงินจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ปัจจัยกดดันด้านต้นทุนน่าจะคลี่คลายในปี 2566 เป็นต้นไป

เราคาดว่ารายได้และค่าใช้จ่ายที่กลับมาเติบโตในอัตราปกติ และผลกระทบเชิงบวกจากการรีไฟแนนซ์จะหนุนการฟื้นตัวของกำไรของ MAKRO ใน ปี 2566 เป็นต้นไป ในปี 2565 บริษัทรับรู้ค่าใช้จ่ายสูงเป็นครั้งแรกในการรีแบรนด์ (จาก Tesco เป็น Lotus’s) ค่าเสื่อมราคาของการลงทุนด้านไอที และดอกเบี้ยจ่ายรวมกันเกือบ 8 พันล้านบาทในปีนี้ แต่เมื่อมองไปยังปี 2566 เราคาดว่ายอดขายจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเร็วกว่าต้นทุนอย่างมาก ดังนั้น ประมาณการของเราบ่งชี้ไปที่ MAKRO รายงานกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งถึง 54% ในปี 2566 และ 27% ในปี 2567 ราคาหุ้นแตะจุดต่ำสุด; ความเสี่ยง/ผลตอบแทนน่าสนใจ ราคาหุ้น MAKRO ปรับตัวลง 21% ในปีนี้ (เทียบกับ SET ที่ลดลง 5%) ปัจจุบันซื้อขายที่ PER ปี 2566 ที่ 30.5 เท่า ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย 10 ปี เรามองว่าราคาหุ้นได้สะท้อนถึงคาดการณ์กำไรปี 2565 ที่อ่อนแอ และข่าวเกี่ยวกับ Metro India ไปแล้ว เนื่องจากข่าวของ Metro India เงียบลงหลังจาก non-binding bid ครั้งแรกในกลางปี 2565 เรามองว่ามีโอกาสดีที่ CP Group จะไม่เข้าซื้อ Metro India ดังนั้น ข่าวที่ชัดเจนในประเด็น Metro จะช่วยคลายความกังวลของตลาดเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเข้าซื้อกิจการใหม่ เราจึงคาดว่าการฟื้นตัวของกำไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการดำเนินงานของ Lotus’s จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนราคาหุ้น ของ MAKRO ได้

- Advertisement -