บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง: 

TRUE Corp (TRUE TB) คาด 3Q65 ขาดทุนหนัก ควบรวมกิจการ แล้วเสร็จใน 1Q66

คงแนะนำ “ถือ” สำหรับ TRUE เราชอบ DTAC มากกว่า

เราคาดว่า TRUE จะรายงานผลขาดทุนสุทธิหลักสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใน 3Q65 ที่ 3.1 พันล้านบาท (จากขาดทุน 2.4 พันล้านบาทใน 2Q65) จากรายได้ที่ลดลง (เงินเฟ้อสูงและการแข่งขันที่รุนแรง) และค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ทั้งนี้ หาก TRUE และ DTAC ไม่สามารถควบรวมกิจการได้ภายใน 1Q65 หนี้ที่สูง และกระแสเงินสดอิสระติดลบอาจบีบให้ TRUE ต้องขายหุ้น DIF เพื่อเพิ่มกระแสเงินสดอีกครั้ง คงแนะนำ “ถือ” TRUE ราคาเป้าหมายหลังการควบรวมเท่าเดิมที่ 5.40 บาท เราชอบ DTAC มากกว่า TRUE เนื่องจากมีอัพไซด์ต่อราคาเป้าหมายสูงกว่า และกำไรสุทธิ 3Q65 ที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง (+3.0% YoY, +4.0% QoQ)

คาดขาดทุนหลัก 3.1 พันล้านบาทในไตรมาส 3/65

เราคาดการณ์ขาดทุนสุทธิหลักไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 3.1 พันล้านบาท (เทียบกับขาดทุน 821 ลบ. ใน 3Q64 และ 2.4 พันลบ.ใน 2Q65) เนื่องจากรายได้จากบริการหลักที่ลดลง (-1.4% YoY, -0.7% QoQ) และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่สูงขึ้น (+11.9% YoY, +2.9% QoQ) เราประเมินรายได้จากบริการมือถือ ซึ่งคิดเป็น 68% ของรายได้จากบริการหลัก 3Q65 (-0.2% YoY, -1.0% QoQ) จะถูกกดดันด้วยอัตราเงินเฟ้อที่สูงและการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง ทั้งนี้ TRUE มีกำหนดจะรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/65 ในวันที่ 15 พ.ย.นี้

การควบรวมกิจการเกิดได้ช้า อาจบีบให้ TRUE ขายหุ้น DIF อีก

TRUE ได้ระดมเงินสด 1.39 หมื่น ลบ. จากการขายหุ้น DIF สี่ครั้งนับตั้งแต่ไตรมาส 4/62 เราเชื่อว่า TRUE อาจจะตัดสินใจขายหุ้นบางส่วนใน DIF อีก (ปัจจุบัน TRUE ยังถืออยู่ 20.6%) หากการควบรวมกิจการระหว่าง TRUE-DTAC ล่าช้าเกิน 1Q66 เนื่องจากเรามองว่า 1) อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA สูงจะถึง 4.4 เท่า ณ สิ้นปี 65 และ 2) หาก TRUE ยังคงเป็นบริษัทเดี่ยว กระแสเงินสดอิสระต่อองค์กร (FCFF) จะติดลบ 3.5 พันลบ.ในปี 66 ที่ผ่านมา TRUE เคยขายหุ้น DIF ในราคาต่ำกว่าราคาตลาด ส่งผลให้เกิด sentiment ด้านลบต่อราคาหน่วยลงทุน DIF

คงแนะนำ “ถือ” ยังคงชอบ DTAC มากกว่า TRUE

เราชอบ DTAC (ซื้อ TP 55.20 บาท) มากกว่า TRUE (ถือ TP 5.40 บาท) เนื่องจาก 1) มีอัพไซด์ 22% จาก TP (เทียบกับอัพไซด์ 6% ของ TRUE) และ 2) อัพไซด์ 6% จากราคา VTO (เทียบกับ 0% ของ TRUE) ผลการศึกษาล่าสุดโดย SCF Associates พบว่าการควบรวม TRUE-DTAC จะทำให้ค่าบริการมีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งเรามองว่าเรื่องนี้จะส่งผลให้คณะกรรมการ กสทช. เสนอมาตรการที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้นต่อการควบรวมกิจการในวันที่ 20 ต.ค. จากนั้น TRUE และ DTAC จะต้องเจรจากับ กสทช. เพื่อหาข้อสรุปร่วมกันในมาตรการดังกล่าว ทำให้การควบรวมกิจการมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นใน 1Q66 มากกว่า 4Q65

- Advertisement -