Our View? “มีดีจากภายใน”

คาดตลาดวันนี้ “Sideway Up” มองแนวรับที่บริเวณ 1,565 /1,555 และแนวต้านที่บริเวณ 1,580 / 1,590 คาดตลาดจะเริ่มลดน้ำหนักจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) และให้ความสนใจไปที่การรายงานผลประกอบการของบจ. ในตลาดทั่วโลก ช่วยผ่อนคลายความกังวลดังกล่าวบ้างในระยะสั้น หนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงฟื้นตัวขึ้น ขณะที่ทิศทาง Dollar Index เริ่มอ่อนตัวลงบ้างเล็กน้อยล่าสุดอยู่ที่ระดับ 112.06 หลังพยายามขึ้นทดสอบแนวต้านที่จุดสูงสุดก่อนหน้าบริเวณ 114.00+/- แล้วไม่ผ่าน คาดตลาดจะเริ่มลดระดับภาวะ Risk-off ลงได้บ้าง หนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงฟื้นตัวขึ้นได้ในระยะสั้น

ขณะที่เมื่อคืนนี้ FED สาขานิวยอร์กรายงานตัวเลขดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) เดือน ต.ค. ออกมาที่ระดับ -9.1 หดตัวต่อจากเดือนก่อนหน้าและต่ำกว่าที่ตลาดคาด สะท้อนภาคการผลิตในนิวยอร์กยังคงอยู่ในภาวะหดตัวต่อเนื่อง คาดจะลดทอนความสามารถในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED ได้บ้างเล็กน้อย หลังจากที่ปัจจุบัน CME FEDWatch Tools คาดการณ์ FED ในช่วงปีหน้าจะปรับขึ้นดดอกเบี้ยสู่ระดับ 4.75-5.00% ตั้งแต่ช่วงต้นปีและคงอัตราดอกเบี้ยระดับสูงดังกล่าวไปจนกว่าจะถึงสิ้นปี’66 บ่งชี้ตลาดรับรู้แนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ไปมากพอสมควรแล้ว

ในส่วนของปัจจัยในประเทศ เราคาดตลาดจะเริ่มให้ความสนใจกับการเปิดเผยผลประกอบการในช่วง 3Q65 โดย Bloomberg Consensus คาดการณ์ผลประกอบการของหุ้นในกลุ่มธนาคารที่จะเริ่มประกาศเป็นกลุ่มแรกจะเพิ่มขึ้น 1.66% QoQ และ 26.55% YoY คาดจาก Credit Cost ที่ไม่ได้เร่งตัวขึ้น และ NIM ที่ปรับตัวขึ้นจาก 2Q′65 จากสินเชื่อที่โตขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย คาดจะเป็นปัจจัยหนุนแรงเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มธนาคาร (BBL, KBANK, SCB และ TTB) ได้บ้าง ขณะที่คาดการณ์ EPS ของตลาดหุ้นไทย ทั้งปี’65 โดย Bloomberg Consensus คาดจะอยู่ที่ระดับ 105.9 บาท/หุ้น เร่งตัวขึ้นจากช่วงเดือนก่อนที่ระดับ 104.0+/- สะท้อนตลาดเริ่มปรับประมาณการผลประกอบการ 3Q’65 อาจออกมาดีกว่าคาดการณ์เดิม มองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นไทยได้บ้าง

อย่างไรก็ตาม เรายังคงแนะนำให้ระมัดระวังแรงขายของนักลงทุนต่างชาติจากทิศทางค่าเงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าต่อเนื่อง ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าอยู่ในระดับสูง โดยล่าสุดค่าเงินบาทปรับตัวขึ้นเข้าใกล้บริเวณ 38.5 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ อีกครั้ง ลดทอนความน่าสนใจของตลาดหุ้นไทยในแง่กระแสเงินทุนไหลเข้า โดยล่าสุดนักลงทุนต่างชาติยังคงขายหุ้นไทยและอยู่ในฝั่ง Short SET50 Index Futures ต่อเนื่อง ทั้งนี้ เรายังมุมมองมองเชิงบวกบวกต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง (HMPRO, GLOBAL, DOHOME และ TASCO) และหุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, MAKRO และ BJC) จากแนวโน้มการออกงบเยียวยาน้ำท่วมหลังสถานการณ์ดังกล่าวเริ่มผ่อนคลายลง คาดจะหนุนทิศทางราคาฟื้นตัวกลับขึ้นได้ต่อ

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนําวันนี้ “MAKRO”

กลยุทธ์ ทยอยซื้อสะสม แนวรับ 34.75 / 34.50 Target 37.00 / 39.00 stop <33.75

- Advertisement -