ตลาดหุ้นมีโอกาสเริ่มฟื้นตัว หลัง Price In ประเด็นลบไปพอสมควร

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 1.86% ตลาดกลับมาให้น้ำหนักกับผลประกอบการ หลังจาก Bank Of America รายงานผลประกอบการที่ดีกว่าตลาดคาด รวมถึงดัชนีภาคผลิตใน New York ต่ำกว่าคาด ช่วยหนุนให้ตลาดคลายกังวลกับเงินเฟ้อและดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ทรงตัวเมื่อเทียบกับวันก่อน

Market Outlook

วันนี้ประเมิน SET INDEX ยังมีโอกาสปรับขึ้นต่อในกรอบ 1572 – 1582 ภาพรวมเรามองว่าตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลงมาสะท้อนปัจจัยลบด้านเงินเฟ้อและดอกเบี้ยไปพอสมควร (Price In) ขณะที่ตลาดจะเริ่มให้น้ำหนักกับผลประกอบการ 3Q22 ทั้งนี้ หากประเมินจาก TISCO ที่รายงานในสัปดาห์ก่อนก็พบว่าเป็นไปตามที่เราและตลาดคาดหมายไว้  บ่งชี้ถึงผลประกอบการที่จะประกาศมาจากนี้ไม่น่าจะย่ำแย่จนเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้น และหากประกาศออกมาดีกว่าคาดหมายไว้จะยิ่งเป็นปัจจัยส่งเสริมตลาดหุ้น

โดยสัปดาห์นี้ Bloomberg Consensus คาดว่าจะเห็นการประกาศ ผลประกอบการกลุ่ม Bank ทั้งหมด ขณะเดียวกันหากพิจารณาตลาดหุ้น Dow Jones จะพบว่าปรับฐานลงมาจากจุดสูงสุดก่อนหน้าราว 15.9% ซึ่งหากถึงการฟื้นตัวรอบก่อนหน้าพบว่า Dow Jones ปรับฐานลงมา 14% ก่อนจะเกิดการ Rally เป็นขาขึ้นสั้นๆ ดังนั้น ก็มีความเป็นไปได้ที่ตลาดหุ้น Dow Jones จะเริ่มฟื้นได้บ้าง และหนุนให้ SET ฟื้นตัวขึ้นตาม นอกจากนี้สถิติตลาดหุ้น Dow Jones ช่วง 4Q ของทุกปี พบว่ามักให้ผลตอบแทนที่เป็นบวกมากกว่าลบ  โดยเฉลี่ยผลตอบแทน เดือน ต.ค. อยู่ที่ 1% พ.ย. 1.2% และ ธ.ค. 1.5% ด้านตัวเลขเศรษฐกิจคืนนี้ไม่มีตัวเลขที่สำคัญ ตลาดจะให้น้ำหนักกับตัวเลขคืนพรุ่งนี้มากกว่า อย่างยอดสร้างบ้านใหม่ Bloomberg คาดที่ 1.46 ล้านหลังคาเรือน และใบอนุญาตก่อสร้าง Bloomberg คาดที่ 1.52 ล้านใบอนุญาต

เชิงกลยุทธ์การลงทุนแนะนำเล่น Trading สำหรับรอบการฟื้นตัวเน้นหุ้นขนาดใหญ่ อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK SCB TISCO) สื่อสาร (ADVANC INTUCH) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT SPA) หุ้นขนาดใหญ่ที่มี Valuation น่าสนใจ (SCGP) สื่อนอกบ้าน (PLANB) เครื่องดื่ม (CBG)

Pi Stock Picks

PLANB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 7.80 บาท)

คาดกำไรมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในไตรมาส 4/22 และปี 2023 จากเม็ดเงินโฆษณาที่ฟื้นตัวขึ้นและประโยชน์จาก operating leverage ที่สูง เพราะต้นทุนการดำเนินงานส่วนใหญ่มีรูปแบบคงที่ โดยกำไรมี upside จากการปรับเพิ่มค่าโฆษณา OOH จากการแย่งงบการตลาดจากช่องทางทีวีและสื่อประเภทอื่น

SCB (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย 144.00 บาท)

คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/22 ที่ 1.08 หมื่นล้านบาท โต 23% YoY (+8% QoQ) แม้รายได้ค่าธรรมเนียมซบเซาจากความผันผวนของตลาดทุน แต่การเติบโตของกำไรในเชิง YoY และ QoQ จะมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่สูงขึ้นและการตั้งสำรองที่ลดลง คาดอัตราส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) โต YoY และ QoQ ขึ้น 3.3% ในไตรมาส 3/22 จากอัตราผลตอบแทนสินเชื่อที่สูงขึ้น ประเมินอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ เพิ่มขึ้น QoQ เป็น 44.7% (ไตรมาส 2/22: 41.2%) จากค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

- Advertisement -