บล.บัวหลวง:
MK Restaurant Group (M TB /M.BK)
M – ลงทุนสำหรับการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง
กําไรในไตรมาส 3/65 จะรายงานการเติบโตอย่างต่อเนื่อง YoY และ QoQ แม้จะมีปัจจัยกดดันจากต้นทุนที่สูงขึ้น แต่ได้รับแรงหนุนจากการบริโภคฟื้นตัวและการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี เราชอบภาพการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งของ M มูลค่าที่ไม่แพง และมี ROE ที่สูง และคาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 4.5% สําหรับปี 2566
ทางเลือกที่ดีที่สุดสําหรับหุ้นกลุ่มร้านอาหาร
M อยู่ในธีมการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของการบริโภค โดยจะเติบโต YoY และ QoQ ทั้งในไตรมาส 3/65 และ 4/65 โดยเราคาดอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อสาขาเดิมที่ 103% สําหรับไตรมาส 3/65 (เทียบกับฐานที่ต่ำจากการล็อคดาวน์ 2 เดือนในไตรมาส 3/64) หนุนมาจากการฟื้นตัวของการกลับมาทานอาหารที่ร้าน และจํานวนสาขาถึง 710 สาขาทั่วประเทศไทย ทั้งนี้เราคาดกำไรปี 2566 ของ M จะคิดเป็น 96% ของช่วงก่อนโควิดในปี 2562 หนุนมาจากยอดขายที่ปรับตัวดีขึ้นของร้าน MK, Yayoi และแหลมเจริญซีฟู้ด (LCS) และการเปิดเพิ่ม 62 สาขาในช่วงปี 2563-65 ทั้งนี้ หุ้น M ซื้อขายบน PER ปี 2566 ที่เพียง 21 เท่า หรือเทรดต่ำกว่า 0.9 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานจากค่าเฉลี่ย 10 ปี ที่ 25 เท่า นอกจากนี้บริษัทมี ROE ปี 2566 ที่สูงถึง 18% และเราคาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 4.5% สำหรับปี 2566 เราปรับเป้าหมายการลงทุนไปเป็นสิ้นปี 2566 ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ที่ 72 บาท
โมเมนตัมกําไรที่ปรับตัวดีขึ้นทุกไตรมาส
ผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 3/64 ที่ขาดทุน 257 ล้านบาท ทั้งนี้ M รายงานกําไรที่ 271 ล้านบาทในไตรมาส 1/65 และ 439 ล้านบาท ในไตรมาส 2/65 ทั้งนี้เราได้ปรับขึ้นประมาณการกำไรปี 2565 ขึ้นอีก 5% และเราคาดกําไรสุทธิที่ 449 ล้านบาทสําหรับไตรมาส 3/65 (จากก่อนหน้าที่ 410 ล้านบาท) และ 454 ล้านบาท สําหรับไตรมาส 4/65 (ก่อนหน้าที่ 413 ล้านบาท) สําหรับปี 2566 เราคาดกำไรจะเติบโต YoY และ QoQ ทุกไตรมาส หนุนมาจากการฟื้นตัวของร้านอาหาร MK, Yayoi และการรับรู้ LCS เข้ามา (M เข้าลงทุน 60% ใน LCS ช่วงปลายปี 2562) โดยบริษัทรับรู้การขาดทุน 20 ล้านบาท จาก LCS ในปี 2564 แต่ผลการดำเนินงานของ LCS พลิกกลับเป็นกําไรแล้วในเดือน ก.ค. 2565 เราคาด M จะรับรู้กำไร 90 ล้านบาท จาก LCS ในปี 2566 หนุนมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่มากขึ้นในทำเลทองอย่าง สยาม พารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ และไอคอนสยาม
อัตรากําไรขั้นต้นทรงตัวแม้ต้นทุนจะสูงขึ้น
M มี 2 ต้นทุนหลัก ได้แก่ อาหาร (คิดเป็น 36% ของรายได้ในปี 2564) และพนักงาน (33% ของรายได้ในปี 2564) ราคาเนื้อสัตว์ปรับตัวขึ้นกว่า 20% นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน แต่บริษัทสามารถบริหารจัดการอัตรากําไรขั้นต้นได้อย่างดี โดยอยู่ที่ 65.4% ในไตรมาส 2/65 (เทียบกับ 68.6% ในปี 2562) ผ่านประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทานและเพิ่มราคาขายในบางเมนู ทางผู้บริหารคาดอัตราค่าแรงขั้นต่ำที่สูงขึ้นจะกระทบกับกำไรปี 2565 น้อยกว่า 1%
เนื่องจากพนักงานส่วนใหญ่ได้รับอัตราค่าแรงที่สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำอยู่แล้ว นอกจากนี้บริษัทได้นำหุ่นยนต์เข้ามาใช้มากกว่า 1,000 ตัวสําหรับการเซิร์ฟแล้วในปี 2565 ไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยจากน้ำท่วม และไตรมาส 4/65 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี 2565 จากที่ตั้งของร้านค้าของ M 46% จะอยู่ในกทม. 54% อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ทั้งนี้ยังไม่มีร้านที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม อย่างไรก็ตาม ฝนที่ตกหนักและน้ำท่วมในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาในเดือน ต.ค. อาจจะกดดันยอดขายบางส่วน ซึ่งหากหมดหน้าฝนจะตามมาด้วยการฟื้นตัวของการรับประทานอาหารที่ร้าน หนุนจากหน้าเทศกาลต่างๆ ที่กำลังจะมาถึง คาดไตรมาส 4/55 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี 2565