Daily Focus: Selective Play
2023 SET Target: 1760
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวขึ้นได้แข็งแกร่งต่อเนื่องตามตลาดหุ้นทั่วโลกที่ Rebound โดยดัชนีปิดบวกได้อีก 18.96 จุด ณ สิ้นวัน นำโดยหุ้นขนาดใหญ่อย่าง AOT GULF CPALL CPN CPALL เป็นต้น สถาบันในประเทศซื้อสุทธิในตลาดหุ้นหนาแน่นและเร่งขึ้นเป็น 3 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติพลิกมาซื้อสุทธิ 420 ลบ. (และ Long Index Futures เกือบ 2.5 หมื่นสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index แกว่ง Sideways Up และมีแนวโน้มทดสอบ 1,600 จุดอีกครั้ง จากบรรยากาศการลงทุนที่ยังค่อนข้างผ่อนคลาย แม้ยังไม่เห็นปัจจัยบวกใหม่ที่ชัดเจน แต่เม็ดเงินยังคงทยอยไหลกลับเข้าสินทรัพย์เสี่ยงระยะสั้น หลังปรับลงแรงในช่วง 1-2 เดือนก่อนหน้า ส่วนโฟกัสของตลาดระยะนี้จึงอยู่ที่การทยอยประกาศผลประกอบการ 3Q22 ของบริษัทจดทะเบียน ล่าสุด Netflix ประกาศกำไรออกมาดีกว่าคาดหนุน Sentiment ให้เป็นบวก ส่วนของไทยตลาดที่สัปดาห์ที่เหลือกลุ่มธนาคารจะประกาศอย่างหนาแน่น ส่วนระยะถัดไปจะเป็นคาดการณ์กำไรฝั่ง Real Sector ที่ทยอยออกมามากขึ้น ภาพรวม 3Q22 เรามองไม่น่าตื่นเต้นเนื่องจากเป็นฤดูฝน ซึ่งเป็น Low Season ซึ่งต้อง Selective รายตัว อย่างไรก็ตาม เรายังมองบวกทิศทางกำไรกลุ่ม Domestic และ Reopening Play ใน 4Q22 ที่กลับเข้า High Season ของทั้งภาคการท่องเที่ยวและการจับจ่ายใช้สอย รวมถึงปี 2023 ที่เศรษฐกิจยังมีแนวโน้มเร่งตัวสวนทางฝั่งตะวันตกที่มีความเสี่ยงเกิด Recession
กลยุทธ์ : Selective Play // ถือลงทุนหลังสะสมหุ้นเพิ่ม
หุ้นเด่นเดือน ต.ค. : BBL, BDMS, CK, CPALL, TU
หุ้นเด่นวันนี้ : GFPT
- แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมายปี 2023 ที่ 18 บาท
- คาดกำไร 3Q22 จะเร่งขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ +34% Q-Q และพลิกจากขาดทุนปีก่อน จากทั้งปริมาณขายที่สูงขึ้นทั้งการส่งออกและขายในประเทศ ส่วนราคาขายและราคาวัตถุดิบยังทรงตัว
- แนวโน้มกำไร 4Q22 คาดอ่อนตัวลงตามฤดูกาล และราคาโครงไก่ปรับลงพอควร แต่ยังคงเป็นระดับที่สูงกว่าในอดีตก่อน COVID-19
- คาดกำไรปี 2022 จะอยู่ที่ 2 พันลบ. +9.5x Y-Y และคาดย่อลง -17% Y-Y ปี 2023 แต่ยังเป็นระดับที่สูงกว่าก่อน COVID-19 มาก
- แนวรับ 14.30-14 บาท แนวต้าน 15//15.50 บาท
Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนพลิกมาไหลออกจากภูมิภาครวม US$214 ล้าน เกือบทั้งหมดไหลออกจากไต้หวัน US$192 ล้าน จากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ และไหลออกจากอินโดนีเซียเล็กน้อย US$48 ล้าน สำหรับไทย ฟิลิปปินส์ และเกาหลีใต้ไหลเข้าเล็กน้อย แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดมีโอกาสไหลเข้าต่อเนื่องหลังเม็ดเงินไหลกลับเข้าสินทรัพย์เสี่ยงระยะสั้น
ประเด็นสําคัญวันนี้
(+) KKP กำไร 3Q22 +2% Q-Q, +41% Y-Y ทำ Record High และดีกว่าที่คาด 8% จากสินเชื่อที่เติบโตดีกว่าคาดในฝั่งเช่าซื้อ และธุรกิจ NIM ปรับตัวดีขึ้น ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมดีกว่าคาดจากฝั่ง IB Banking และ Wealth Related ซึ่งชดเชยขายทุดรถยึดที่เพิ่มขึ้นได้ ด้าน NPL แม้จะปรับขึ้น แต่สำรองยังคงอยู่ในระดับสูง ประมาณการเรามี Upside 5-8% ราคาเป้าหมายปัจจุบันอยู่ที่ 82 บาท แนะนำ “ซื้อ” (Source: FSSIA)
(+) CENTEL คาดกำไร 3Q22 +425% Q-Q และพลิกจากขาดทุนหนักปีก่อน นำโดยธุรกิจโรงแรมในไทยที่ฟื้นตัว รวมถึง SSSG ของธุรกิจอาหารที่ยังเติบโตแข็งแกร่ง ล่าสุด RevPar ฟื้นตัวขึ้นแตะ 83% เทียบกับก่อน COVID-19 และมีโอกาสเท่าช่วงก่อน COVID-19 ใน 4Q22 จาก High Season เราปรับลดกำไรปี 2022 ลงแต่ยังพลิกกำไรจากปี 2021 ส่วนปี 2023 คาดเติบโตโดดเด่น +4x Y-Y ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 54 บาท แนะนำ “ซื้อ” (Source: FSSIA)
(0) DRT คาดกำไร 3Q22 -32% Q-Q จากการเข้าฤดูฝนเต็มไตรมาสและต้นทุนการผลิตสูง แต่ +6% Y-Y จากฐานต่ำช่วง COVID และการปรับราคาขายขึ้น 4-5% เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปีนี้เป็น +8% Y-Y แต่ปรับลดปี 2023 เป็น -9% Y-Y จาก GPM ถูกกดดันจากต้นทุนวัตถุดิบใหม่ที่สูงขึ้น โดยเฉพาะซีเมนต์ ปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2023 ที่ 8 บาท ราคาหุ้นมี Upside จำกัด และมีความท้าทายจากต้นทุนวัตถุดิบ-พลังงานอยู่ระดับสูง แนะนำ “ถือ”
(+) IPO ใหม่ DTC เป็นผู้นำในตลาด GPS Tracking บริษัทเป็นผู้ออกแบบ ผลิต จัดจำหน่าย และให้เช่าอุปกรณ์ GPS Tracking, Mobile DVR และอุปกรณ์เสริม และให้บริการโครงการ IoT Solutions รวมถึงระบบ AI บริษัทมีเทคโนโลยีเป็นของตัวเองจากทีมงานที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์กว่า 25 ปี มีบริการครบวงจร ลูกค้ากระจายอยู่ในหลากอุตสาหกรรม โดยมีกลุ่มหลักคือผู้ประกอบการในธุรกิจขนส่ง ในช่วงปี 2020-2021 ธุรกิจขนส่งถูกกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 และกระทบมาที่บริษัททำให้รายได้และกำไรลดลง เราคาดกำไรปี 2022 กลับมาฟื้นตัวและเติบโตก้าวกระโดด +119% Y-Y ในปี 2023 ตามการเปิดเมืองอย่างเต็มที่ ประเมินราคาเป้าหมายปี 2023 ที่ 3.20 บาท (Finansia อาจเป็น ผู้จัดจำหน่ายฯ)
(+) ตลาดดาวโจนส์ ปิดที่ 30,523.80 จุด เพิ่มขึ้น 337.98 จุด หรือ +1.12% รับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงโกลด์แมน แซคส์ และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน
(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวกเล็กน้อย โดยยังคงได้แรงหนุนจากการที่อังกฤษยกเลิกแผนปรับลดภาษี
(+) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับบวก ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ
(0) ค่าเงินบาท แกว่งตัวแคบ อยู่ที่บริเวณ 38.04 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 2.64 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 82.82 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีรายงานว่าสหรัฐเตรียมระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR)
(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 8.2 ดอลลาร์ หรือ 0.49% ปิดที่ 1,655.8 ดอลลาร์/ออนซ์ กดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และความกังวลเกี่ยวกับการ เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 938.10 / -0.29