KS Daily View 20.10.2022 > ติดตามงบ 3Q22 กลุ่มธนาคาร/ Real sector เน้นลงทุนในหุ้นแนวโน้มกำไรเติบโต SET คาดแกว่งตัว 1580-1600 จุด หุ้นแนะนำ TU PRM
ประเด็นที่เกิดขึ้นเมื่อวาน
ต่างประเทศ
ตลาดหุ้นทั่วโลกยังแกว่งตัว ฝั่งสหรัฐดัชนี Dow Jones -0.3%, NASDAQ -0.85% โดย Sector ในดัชนี S&P500 ปรับลงเกือบทุกกลุ่ม โดยกลุ่มที่ลงมากที่สุดคือ Real Estate -2.5%, Financials -1.6%, Health Care-1.4% กลุ่มเดียวที่ปรับขึ้นคือ Energy+2.9%(ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบโลก อิง BRENT+2.6%DoD ปิดที่ 92.41 $/บาร์เรล หนุนจาก EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ -1.7 ล้านบาร์เรลลดลงมากกว่าคาดจะเพิ่ม 1.38 ล้านบาร์เรล) ประเมินหุ้นกลุ่มพลังงาน Upstream ในไทยในวันนี้ อาทิ PTTEP, PTT จะได้ Sentiment บวกตาม ในประเทศ : SET Index เมื่อวานปิด 1588.7 จุด (-0.1%DoD) นำโดย กลุ่มโรงพยาบาล อาทิ BDMS -2.6%, BH -2.1%, กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ DELTA -1.2%, กลุ่มค้าปลีก MAKRO-1.4%
ประเด็นอื่นๆ
1.) Tourism Sector : สำนักข่าวข่าวสดรายงานว่า ททท. เตรียมเสนอครม.พิจารณา ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ ระยะที่ 5 พ.ย.65-เม.ย.66 จำนวน 3-4 ล้านสิทธิ์ รัฐอุดหนุนค่าใช้จ่าย 40% นักท่องเที่ยวจ่ายเอง 60% พร้อมบัตรกำนัล 600 บาทต่อคืน ประเมินเป็นบวกต่อกลุ่มโรงแรมในประเทศ อาทิ ERW CENTEL AWC
2.) นายธนา โพธิกำจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กสิกร ไลน์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทร่วมมือกับบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และกลุ่มบริษัทศรีสวัสดิ์ นำเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อเงินด่วนของศรีสวัสดิ์หลายประเภท ผ่านช่องทาง LINE Official Account ของ LINE BK เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า มองเป็น sentiment เชิงบวกกับ SAWAD
ประเด็นที่ต้องติดตามต่อในสัปดาห์นี้ :
ต่างประเทศ : Key สำคัญคือ
1.) ผลการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ของจีนที่จะประชุมเสร็จวันที่ 22 ต.ค.
2.) การประชุม Fed ในวันที่ 1-2 พ.ย. ตลาดยังคงมีมุมมองต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐจะปรับขึ้นต่อ สะท้อนจาก Fed funds futures คาดการประชุม รอบ พ.ย. Fed จะขึ้น 75bps ด้วยโอกาส 94.6% และรอบ ธ.ค. คาดขึ้น 75bps ด้วยโอกาส 77% หนุน US Bond Yields 2 ปี และ 10 ปีปรับขึ้นและทำ New High ใหม่ ล่าสุดอยู่ที่ 4.57% และ 4.14% ตามลำดับ KS ประเมินกลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Bond yield ขึ้น (กลุ่มธนาคารใหญ่และประกันชีวิต) แต่จะลบต่อกลุ่มการเงิน อย่างไรก็ตาม KS ประเมินแรงกดดันจากประเด็นเรื่อง Fed จะลดลง โดยเริ่มเห็นสัญญาณบวกทั้งจาก เงินเฟ้อผ่านจุดสูงสุดแล้ว และ ล่าสุดเมื่อคืน ประธาน Fed Bullard ให้ความเห็นผ่านสื่อว่าการขึ้นดอกเบี้ยแบบ front load หรือเร่งขึ้นในช่วงแรกจะจบในปี 2023 เป็นสัญญาณบวกต่อตลาดหุ้น
3.) ติดตามราคาน้ำมันปาล์มดิบโลกปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์จากความกังวลเรื่องน้ำท่วมในพื้นที่เพาะปลูก ขณะที่อินเดียเตรียมปรับขึ้นภาษีส่งออกปาล์มน้ำมัน ทำให้อุปทานตึงตัวขึ้น มองเป็น sentiment บวกกับหุ้นในกลุ่มผลิตปาล์มน้ำมัน
ในประเทศ :
1.) ติดตามทิศทางค่าเงินบาทต่อดอลลาร์ล่าสุดกลับมาอ่อนค่าแตะ 38.3 บาท ประเมินเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มส่งออก KS มองบวกโดยเฉพาะส่งออกอาหาร อาทิ TU, ASIAN ฯลฯ แต่จะลงต่อกลุ่มผู้นำเข้า และกลุ่มโรงไฟฟ้า อาทิ BGRIM, EGCO, GPSC ฯลฯ ส่วนแนวค่าเงินบาท KBANK มองจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ-ไทยที่ต่าง ประเมินช่วงท้ายของปีมีโอกาสอ่อนค่าแตะ 39.5 บาท แต่ประเมินสิ้นปี 65 เงินบาทแข็งค่าอยู่ที่ 37.5 บาท
2.) ICT sector : วันนี้ติดตาม กสทช. เคาะปิดดีลควบรวม DTAC-TRUE หุ้นเด่น เราชอบ DTAC
ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้คาด 1580-1600 จุด หุ้นแนะนำ TU, PRM
Top pick :
TU (ราคาทางพื้นฐาน 22.5 บาท) โดยเราแนะนำเนื่องจาก
1.) คาดกำไรงวด 3Q22 จะโต 12.5% YoY และ 34% QoQ เป็น 2.2 พันลบ. จากยอดขายที่เติบโตขึ้นแข็งแกร่ง GPM ที่เพิ่มขึ้น และไม่มีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว
2.) ปัจจุบันหุ้น TU ซื้อขายอิงตาม PER ปี 2566 ที่ 11.2 เท่า หรือประมาณ 1.5SD ต่ำกว่าระดับ PER ล่วงหน้าในอดีต เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” จากมูลค่าหุ้นที่ไม่แพง โดย TU มีกำหนดที่จะรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2565 ในวันที่ 2 พ.ย.
3.) เงินบาทที่อ่อนค่าทุก 1 บาทจะบวกต่อ Bottom line ของ TU ราว 8%
4.) ราคาหุ้นแนวโน้มเป็นค่าขึ้นยังยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย ระยะสั้น 10 วัน และ 200 วัน
PRM (ราคาทางพื้นฐาน 7.9 บาท)
1.) คาดกำไรงวด 3Q22 แข็งแกร่ง อยู่ที่ 325 ลบ. เพิ่มขึ้น 24% QoQ และ 67% YoY จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นของทั้งธุรกิจเรือบรรทุกน้ำมันระหว่างประเทศและ FSU และคาดว่าจะดีขึ้นอีกในงวด 4Q22
2.) Valation ยังไม่แพง ด้วยภาพของกำไรที่เติบโจ เทียบกับราคาหุ้นขณะนี้ซื้อขายด้วย PER ปี 2022 และ 2023 ที่ 12.9 เท่า และ 10.3 เท่า
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
- วันพฤหัสฯ ติดตามตัวเลขการส่งออกและนำเข้าของญี่ปุ่นเดือน ก.ย.คาด +27.1% YoY และ +45% YoY ตามลำดับ ตัวเลขดุลการค้าของญี่ปุ่นคาด -Y2167bn (เทียบเดือนก่อนที่ -Y2817bn) การกำหนดอัตราดอกเบี้ย Loan Prime Rate 1 ปีและ 5 ปีของจีนเดิมอยู่ที่ 3.65% และ 4.3% ตามลำดับ ดัชนี PPI ของเยอรมันเดือน ก.ย. คาด +44% YoY (จากเดือนก่อหน้าที่ +45.8% YoY) ตัวเลข Initial Jobless Claim ของสหรัฐฯ คาด +232K (จากสัปดาห์ก่อนที่ +228K) ตัวเลข Existing Homes Sales เดือน ก.ย. คาด -0.3% MoM เป็น 4.69 ล้านยูนิต ถ้อยแถลงของ Fed Jefferson, Fed Cook และ Fed Bowman
- วันศุกร์ ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.ย. ของญี่ปุ่น คาด 3.2% YoY ตัวเลข Retail sales ของอังกฤษเดือน ก.ย. คาด -0.5% MoM ตัวเลข Consumer Confidence Flash เดือน ต.ค. ของยูโรโซน คาด -30.3 จุด (แย่ลงจากเดือนก่อนหน้าที่ -28.8 จุด) และถ้อยแถลงของ Fed Williams