บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Bumrungrad Hospital (BH.BK/BH TB)*

ประมาณการ 3Q65F: คาดว่ากำไรจะทำสถิติสูงสุดใหม่

Event

ประมาณการ 3Q65, ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2565-2566F และราคาเป้าหมายปี 2566

Impact

คาดว่าผลการดำาเนินงานใน 3Q65F จะทำสถิติสูงสุดใหม่

เราคาดว่าผลการดำเนินงานของ BH จะออกมาน่าประทับใจ โดยมีกำไรสุทธิ 1.19 พันล้านบาท (+301.7% YoY, +2.0% QoQ) คิดเป็น 28.2% ของประมาณการกำไรสุทธิใหม่สำหรับปีนี้ของเราที่ 4.21 พันล้านบาท โดยผลการดำเนินงานจะถูกขับเคลื่อนจากการกลับมาเปิดประเทศไทย ซึ่งเรามองว่า BH จะเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้อานิสงส์อย่างเต็มที่จากประเด็นนี้ เพราะรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติคิดเป็นสัดส่วนถึงประมาณ 66% ของรายได้รวมก่อน COVID-19 ระบาด นอกจากนี้ เรายังคาดว่ากำไรจะถูกขับเคลื่อน จากการที่ผู้ป่วยมี intensity สูงขึ้นจากการรักษาพยาบาลโรคทั่วไปใน 3Q65F ด้วย ทั้งนี้ ประเด็นที่น่าสนใจใน 3Q65F ได้แก่

i) คาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้น 70.0% YoY และ 0.6% QoQ เป็น 4.93 พันล้านบาท

ii) คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 46.3% จาก 37.5% ใน 3Q64 และ 46.2% ใน 2Q65 เนื่องจากผู้ป่วยต่างชาติ และผู้ป่วยชาวไทยกลับมาใช้บริการมากขึ้นหลังจากที่มีการผ่อนคลายข้อจำกัดลง

iii) คาดว่าสัดส่วน SG&A/รายได้ จะลดลงมาอยู่ที่ 18.0% จาก 28.0% ใน 3Q64 และ 18.1% ใน 2Q65

ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยชาวไทยน่าจะอยู่ที่ 37% ใน 3Q65F ในขณะที่สัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติน่าจะอยู่ที่ 63% จาก 58:42 ใน 3Q65

ยังคงเน้นการรักษาผู้ป่วยที่ intensity สูง

ในปี 2564 BH ได้รับการจัดอันดับโดย Newsweek ว่าเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในประเทศไทย, หนึ่งใน 200 โรงพยาบาลที่ดีที่สุดในโลก และหนึ่งใน 250 โรงพยาบาล best smart hospital ของโลก นอกจากนี้ BH ยังเป็นโรงพยาบาลเพียงแห่งเดียวของประเทศไทยที่ติดอันดับโลกดังกล่าว เราคิดว่า BH มีความพร้อมที่จะให้บริการผู้ป่วยหลังการเปิดประเทศ ในขณะที่ชาวต่างชาติสามารถเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้อย่างสะดวกสบายเพื่อรับบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพสูง โดยมีค่าใช้จ่ายที่แข่งขันได้ในระดับเดียวกัน

ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2565F ขึ้นอีก 36.2% และปี 2566F ขึ้นอีก 23.0%

เนื่องจากผลการดำเนินงานของ BH ในงวด 9M65F แข็งแกร่งเกินคาดอย่างมาก และแนวโน้มยังเป็นบวกต่อเนื่อง เราจึงคาดว่ากำไรของบริษัทจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในอีกสองสามปีข้างหน้า เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2565F และปี 2566F โดย i) ปรับเพิ่มอัตราการเติบโตของรายได้ของทั้งสองปีขึ้นอีก 4.8% และ ii) ปรับเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นปี 2565-2566F เป็น 45.0% และ 46.0% (จากเดิม 42.0% และ 43.0%) ดังนั้น เราจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2565F เป็น 4.21 พันล้านบาท (+246.3% YoY) และปี 2566F เป็น 5.03 พันล้านบาท (+19.6% YoY)

Valuation & Action

เนื่องจากราคาหุ้นเหลือ upside จำกัด (ราคาหุ้น BH วิ่งขึ้นมาแล้วประมาณ 67% YTD) เราจึงปรับลดคำแนะนำจากซื้อเป็นถือ โดยประเมินราคาเป้าหมาย DCF ปี 2566 ใหม่ที่ 240 บาท (ใช้ WACC 8.2% และ TG 3%) จากเดิมที่ 225 บาท

Risks

COVID-19 ระบาด, การแทรกแซงของรัฐบาล, เกิดเหตุก่อการร้ายครั้งใหญ่

- Advertisement -