ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

ปรับฐาน ตามปัจจัยต่างประเทศที่เป็นลบมากขึ้น

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันพฤหัสฯ ปรับลง แต่ไม่น่าลงแรง… หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นในภาคเช้าแต่ไม่สามารถผ่านระดับจิตวิทยาที่ 1,600 จุดได้ ผนวกกับจิตวิทยาตลาดหุ้นเอเชียแย่ลงในภาคบ่าย หลังจากอังกฤษรายงานเงินเฟ้อเดือน ก.ย. พุ่ง 10.1% YoY (สูงกว่า consensus คาด) กดดันค่าเงินปอนด์และค่าเงินยูโรให้อ่อนค่า ส่งผลลบต่อสินทรัพย์เสี่ยงในภาพรวม….. ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยต่อตลาดหุ้นเป็นลบเล็กน้อย กล่าวคือ i) บอนด์ยีลด์ 10 ปีของสหรัฐฯ ปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 4.14% หลังจากแบบจำลอง GDP tracker ของเฟดทำนายว่า GDP ไตรมาส 3/2565 ของสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้น 2.9% QoQ annualized ซึ่งหากเป็นจริงจะทำให้สหรัฐฯ หลุดจากภาวะ technical recession แต่ประเด็นนี้กลับเป็นลบต่อตลาด เนื่องจากอาจส่งผลให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไปอีก ii) ค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่าตามสกุลเงินหลักๆ ในเอเชีย โดยค่าเงินเยนอ่อนค่าลงใกล้ระดับ 150 เยน/ดอลล่าร์ฯ และค่าเงินหยวนของจีนอ่อนค่าสู่ระดับอ่อนสุดในรอบ 14 ปี น่าจะยังเป็นลบต่อฟันด์โฟลว์ในระยะสั้น… ด้านปัจจัยภายในประเทศ วันนี้ กสทช. มีกำหนดตัดสินกรณีการควบรวมกิจการระหว่าง DTAC และ TRUE ซึ่งยืดเยื้อมาหลายเดือน และหลายฝ่ายมองว่าในวันนี้น่าจะมีความชัดเจน

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร TLI, ILM, M

  • TLI (เป้าพื้นฐาน 19.1 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 15.2 บาท / แนวต้าน 15.6 – 16.1 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 16.5 บาท (Stop loss 14.8 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้นพักฐานแรง ขณะที่ i) อัตราผลตอบแทนพันธบัตร Bond yield ยังเร่งตัวขึ้นเป็น Sentiment บวกต่ออัตราผลตอบแทนการลงทุน ของธุรกิจประกันฯ ii) เริ่มเข้าสู่ High season ปลายปี ของธุรกิจขายประกันฯ (ลดหย่อนภาษี) 3) Consensus คาดกำไรปีหน้าโต +12.4% YoY เป็น >1 หมื่นล้านบาท Forward PE ปี 2565 – 66 เท่ากับ 18.6 เท่า และ 17.2 เท่า ตามลำดับ
  • ILM (เป้า Consensus 22.4 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 17.0 บาท / แนวต้าน 17.4 – 17.9 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 19 บาท (Stop loss 16.4 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H65 จะเติบโต HoH โดยเฉพาะใน 4Q65 จาก i) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (คาดมีมาตรการ ช้อปที่มีคืน) ii) การเร่งโอนโครงการอสังหาฯ ใน 2H65 คาดเป็นบวกต่อยอดขายเฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า (บริหารการขายโดย COM7*) iii) การเปิดประเทศเป็นบวกต่อธุรกิจ Community mall … ประเมิน Consensus มีโอกาสปรับประมาณการฯขึ้น เนื่องจากกำไร 1H65 คิดเป็น >50% ของประมาณการฯ ทั้งปีที่ 637.5 ล้านบาทแล้ว 3) Valuation ไม่ แพง Forward PE ปี 2565 – 66 ค่าเพียง 13.7 เท่า และ 12.3 เท่า ตามลำดับ
  • M (เป้าพื้นฐาน 67.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 57.5 บาท / แนวต้าน 59 – 60 บาท กรณี Break ผ่าน กรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 62 บาท (Stop loss 56 บาท) 2) ประเมินอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (Same store sale growth) ยังเติบโตแบบ YoY ได้ต่อเนื่อง 2H65 – 1H66 จากการเริ่มเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการเปิดประเทศต้อนรับการ ท่องเที่ยว 3) ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไรปีนี้ฟื้นตัว +1,215% YoY และคาดกำไรปีหน้าจะกลับสู่ระดับปกติ ก่อนวิกฤตโควิด-19 ที่ >2 พันล้านบาท/ปี … ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯคำนึงเรื่องต้นทุนวัตถุดิบในประมาณการฯ แล้ว 4) Forward PE ปีหน้าคาดจะลดลงเหลือ 23.3 เท่า (ต่ำกว่า 2 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีตที่ราว 25 เท่า)

หุ้นมีข่าว

(0) BBL* รับโปรฯ JASIF ลดดอกเบี้ย-ยืดหนี้ (ข่าวหุ้น) แบงก์กรุงเทพฯ ยกเลิกข้อเสนอลดดอก ยืดหนี้ ให้กองทุน JASIF หลังผู้ถือหน่วยโหวตคว่ำวาระประกันรายได้ และลดค่าเช่า ผู้บริหารแบงก์หวังกองทุนยังชำระหนี้ 1.4 หมื่นล้านบาทได้ แม้เสี่ยงดีลล้ม ด้าน BBLAM รอ AIS หารือบอร์ดใหม่อีกครั้ง หากรับข้อเสนอนี้ เดินหน้าดีลต่อ แต่ถ้าไม่รับจบแค่นี้ ขณะที่โบรกฯ เสียงแตก มีทั้งเชียร์ลุยต่อและล้มดีล

(+) CKP* ทุ่ม 2 หมื่นล้านซื้อหุ้น LPCL ลุยโรงไฟฟ้าน้ำลาว 1,460 MW (ข่าวหุ้น) บอร์ด CKP* ไฟเขียว อัดเงินกว่า 2.15 หมื่นล้านบาท ซื้อหุ้น “หลวงพระบางพาวเวอร์” เพิ่มอีก 8% ส่งผลถือหุ้นเพิ่มเป็น 50% เดินหน้าก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง ขนาดกำลังการผลิต 1,460 เมกะวัตต์ ในสปป.ลาวตามแผน กำหนด COD เดือน ม.ค. ปี 73

(+) GPSC* ทุ่มงบเฉียด 4 พันล้าน สร้างโกลว์เอสพีพี 2 ขนาด 114 MW เสร็จ Q2 ปี 67 (ข่าวหุ้น) GPSC* ทุ่มงบลงทุน 3,986 ล้านบาท เดินหน้าก่อสร้างโรงไฟฟ้า “โกลว์ เอสพีพี 2” ขนาด 114 เมกะวัตต์ หลังบอร์ด BOI ไฟเขียวสร้างทดแทนโรงเดิม รองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าและสาธารณูปโภคที่ขยายตัวใน EEC เตรียมจ่ายไฟฟ้าป้อนระบบในไตรมาส 2/67

(+) LEO ปักหมุดเซลฟสโตเรจ มาร์จิ้นสูง 50%-ไฮซีซันหนุน (ทันหุ้น) LEO เปิด LEO Self Storage สาขา ที่ 2 ไชน่าทาวน์ บนพื้นที่กว่า 2 พันตารางเมตร เล็งทุ่มงบ 30 ล้านบาท เปิดสาขา 3-4 ในปีหน้า ปักธงขยายสาขาที่ 10 ในอีก 5 ปี ชี้ธุรกิจ Self-Storage มาร์จิ้นสูง 50% คืนทุนเร็ว ส่งซิกเข้าสู่ไฮซีซันโลจิสติกส์ ปลายปีหนุนวอลุ่มอื้อ พร้อมรับแรงหนุนค่าเงินบาทอ่อน มั่นใจปั๊มรายได้แตะ 5 พันล้านบาท

(+) WHA* ต่างชาติจ่อซื้อ ขายที่ดิน-โอนเข้าเป้า (ทันหุ้น) WHA* เนื้อหอม! ลูกค้าต่างชาติเรียงคิวจีบซื้อ ที่ดินกว่า 40 ราย รวมเป็นพื้นที่มากกว่า 3-4 พันไร่ คาดทยอยได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ พร้อมอวดแบ็กล็อกแน่นกว่า 1 พันล้านบาท มั่นใจยอดขายที่ดินแตะ 1.65 พันไร่ และยอดโอน 1.1 พันไร่ ตามเป้าแน่นอน ด้านโลจิสติกส์ยังเด่น เหลือส่งมอบพื้นที่ให้ลูกค้าอีก 5.1 หมื่นตารางเมตร

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • NEX (เป้า Consensus 23.5 บาท) แนวรับ 19.2 บาท / แนวต้าน 19.7 – 20.2 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 18.6 บาท)
  • AMA (เป้าพื้นฐาน 7.6 บาท) แนวรับ 5.6 บาท / แนวต้าน 5.9 – 6.1 บาท (Trailing stop 5.5 บาท)
  • CPALL* (เป้าพื้นฐาน 74 บาท) แนวรับ 57.5 บาท / แนวต้าน 59 – 61 บาท (Trailing stop 56 บาท)
  • BBL* (เป้าพื้นฐาน 159 บาท) แนวรับ 139.5 บาท / แนวต้าน 141 – 145 บาท (Stop loss 136.5 บาท)
  • TU* (เป้า Consensus 22.3 บาท) แนวรับ 18.3 บาท / แนวต้าน 19.0 – 19.5 บาท (Stop loss 18 บาท)
  • PLANB* (เป้าพื้นฐาน 8.8 บาท) แนวรับ 6.9 บาท / แนวต้าน 7.15 – 7.3 บาท (Stop loss 6.8 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • PTTGC* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 46 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดจะรายงานผลขาดทุนสุทธิ 6.2 พันล้านบาทใน 3Q65 นี้ โดยคาดเป็นผลจาก i) ขาดทุนสต๊อก ii) Spread ปิโตรเคมีหลักๆ ปรับลดลงมาก ฝ่ายวิจัยฯ ปรับลดประมาณการฯปี 2565 – 66 ลง และปรับลดราคาเป้าหมายลงเป็น 46 บาท (เดิม 52 บาท) ยังคงแนะนำเพียง “ถือ” นอกจากผลการดำเนินงานที่คาดจะอ่อนแอแล้ว ยังมีปัจจัยลบจากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น 50 วันใน 4Q65
  • BDMS* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 36.2 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไร 3Q65 = 3.05 พันล้านบาท (+ 21.5% YoY, +4.4% QoQ) แนวโน้มผลการดำเนินงานคาดจะฟื้นตัวดีต่อเนื่องใน 2H65 จากการเปิด ประเทศ ฝ่ายวิจัยฯ จึงปรับประมาณการฯ ขึ้น และยังคงแนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 36.2 บาท (เดิม 36 บาท)
  • BH* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 240 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไร 3Q65 = 1.19 พันล้านบาท (+301.7% YoY, +2.0% QoQ) และจากแนวโมผลการดำเนินงานที่คาดจะดีต่อเนื่องใน 2H65 จากการเปิดประเทศ ฝ่ายวิจัยฯ จึงปรับประมาณการฯ ขึ้น แต่เนื่องจาก Upside เริ่มจำกัดแล้ว จึงปรับลดคำแนะนำลงเป็น “ถือ” (จากเดิม “ซื้อ”)
- Advertisement -