Daily Focus: Earnings and Selective Play

2023 SET Target: 1760

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวลงระหว่างวันพอสมควรตามบรรยากาศการลงุทนของโลกที่เริ่มกลับเป็นลบ  แต่มีแรงซื้อหนุนให้ดัชนี Rebound ขึ้นมาปิดบวกได้เล็กน้อย 4.01 จุด ณ สิ้นวัน นำโดยกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ สถาบันในประเทศขายสุทธิในตลาดหุ้น 462 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหนาแน่น 2.6 พันลบ. (และ Long Index Futures ต่อเนื่องอีก 1.2 หมั่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index ยังอยู่ในช่วงแกว่ง Sideways ในกรอบ 1,580-1,600 จุด ปัจจัยภายนอกยังคงมีแรงกดดันหลัง Bond Yield สหรัฐฯยังคงไต่ระดับขึ้นต่อเนื่อง พุ่งขึ้นต่อเนื่องโดยล่าสุดอายุ 10 ปีแตะระดับ 4.2% สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2008 ส่วนอายุ 2 ปีแตะ 4.6% สะท้อนมุมมองตลาดที่คาดดอกเบี้ย FED ยังเร่งตัวต่อถึงต้นปีหน้า ซึ่งทำให้สินทรัพย์เสี่ยงยังคงถูกกดดัน อย่างไรก็ตาม เรายังคงมุมมองเชิงบวกสำหรับตลาดหุ้นไทยจากอานิสงส์ของเศรษฐกิจที่เป็นขาขึ้นและเร่งตัว คาดหนุนให้ดัชนีปรับตัวได้แข็งแรงกว่าภูมิภาคอื่นๆ ระยะสั้นโฟกัสของตลาดจะอยู่ที่การประกาศกำไร 3Q22 กลุ่มธนาคารและการทยอยคาดการณ์ฝั่ง Real Sector ที่ทยอยหนาแน่นขึ้น เรายังคงชอบหุ้น Domestic และ Reopening Play ใน 4Q22-2023 และเชื่อว่าจะ Outperform ตลาดได้ต่อเนื่อง

กลยุทธ์ : เลือกเก็งกำไรหุ้นที่คาดงบ 3Q22 แข็งแกร่งและมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว // ถือลงทุน หลังสะสมหุ้นเพิ่ม

หุ้นเด่นเดือน ต.ค. : BBL, BDMS, CK, CPALL, TU

หุ้นเด่นวันนี้ : TU

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 24.50 บาท
  • คาดกำไรสุทธิ 3Q22 ทำจุดสูงสุดรอบ 5 ไตรมาส +32% Q-Q, +11% Y-Y จาก High Season บาทอ่อน โดยเติบโตทุกธุรกิจทั้ง Ambient Frozen และ Pet Food & Value Added รวมถึงมีการปรับเพิ่มราคาขายขึ้นโดยเฉพาะในยุโรปเพื่อชดเชยต้นทุนพลังงานที่สูง Red Lobster ยังขาดทุนแต่คาดไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษเหมือนไตรมาสก่อน
  • แนวโน้ม 4Q22 จะอ่อนตัวลงตามฤดูกาล แต่ประเมินกำไรทั้งปีมีโอกาสสูงกว่าประมาณการปัจจุบันของเราถึง 15% ขณะที่ปี 2023 คาดยังมีทิศทางแข็งแรง รวมถึงมี Catalyst จากการ ขึ้น XB วันที่ 31 ต.ค. สำหรับ Pre-emptive Right หุ้น IPO ITC
  • แนวรับ 18 บาท แนวต้าน 19.30//19.70-20 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคอีก US$411 ล้าน นำโดยไต้หวัน US$418 ล้าน อย่างไรก็ตาม ฝั่งอาเซียนเม็ดเงินไหลเข้านำโดยไทยและอินโดนีเซียประเทศละ US$56-67 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังค่อนไปในทิศทางไหลออก หลัง Bond Yield สหรัฐฯยังคงไต่ระดับขึ้นต่อเนื่องทำให้สินทรัพย์เสี่ยงยังคงถูกกดดัน

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) กสทช.มีมติเสียงข้างมากรับทราบควบรวม TRUE-DTAC โดยมีการกำหนดเงื่อนไขให้ต้องปฏิบัติตามทั้งด้านการกำหนดเพดานราคาค่าบริการเฉลี่ย การคงทางเลือกของผู้บริโภคโดยยังให้คงแบรนด์แยกกัน 3 ปี การคงคุณภาพและความครอบคลุมขอโครงข่าย เป็นต้น โดยรวมสอดคล้องกับที่เราประเมินว่ากสทช.จะอนุญาตแบบมีเงื่อนไข เรามองบวกต่ออุตสาหกรรมในระยะยาวในแง่การแข่งขันที่จะทยอยลดลง และเอื้อต่อการทำกำไรมากขึ้น ราคาหุ้น TRUE-DTAC มี Upside จำกัดเทียบกับราคา Tender Offer เราแนะนำ “เก็งกำไร” ส่วน ADVANC จะเป็นอีกหนึ่งคนที่ประโยชน์ทางอ้อม แนะนำ “ซื้อ”

(+) BBL กำไร 3Q22 +10% Q-Q, +11% Y-Y ใกล้เคียงคาด หนุนจาก NIM ที่ปรับขึ้น 27 bps และสินเชื่อที่เติบโตดี ด้านคุณภาพสินทรัพย์ยังจัดการได้ดี แต่มีการตั้งสำรอง ECL เพิ่มขึ้นอย่าง Conservative เราประเมินกำไร 4Q22 จะเติบโตได้ต่อเนื่อง Q-Q และ Y-Y และ ยังคงได้ประโยชน์สูงสุดจากการทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยของกนง. คงราคาเป้าหมาย 170 บาท แนะนำ “ซื้อ” (Source: FSSIA)

(+) SC คาดกำไร 3Q22 +12% Q-Q, +19% Y-Y จากความสำเร็จของการเน้นขายและโอนแนวราบระดับบนที่รุกเปิดตัวใน 2Q22 ซึ่งมี Margin ดี แนวโน้ม 4Q22 เร่งขึ้นต่อ และทำจุดสูงสุดของปีจากการรับรู้ Backlog แนวราบระดับสูง การเปิดโครงการที่เร่งขึ้นและคอนโดสร้างเสร็จใหม่ 3 แห่ง ทำให้เชื่อว่ากำไรปี 2022 จะทำได้ตามที่เราคาด +15% Y-Y ทำ New Highปีที่ 2 ติดต่อกัน และคาดโตต่อ +6% Y-Y ในปี 2023 ราคาหุ้นเทรด 2023PER ที่ 6.2 เท่าและให้ Dividend Yield 6-7% ต่อปี คงราคาเป้าหมาย 5 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(+) PRM กำไรดูดีกว่าที่เคยคาด บริษัทจะมีกำไรจากการขายเรือก้อนใหญ่กว่า 300 ลบ.ใน 3Q22 หักล้างผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนได้หมด ขณะที่ธุรกิจหลักดีขึ้นมากเพราะเรือทุกลำทำงานเต็มไตรมาส บวกกับอุปสงค์ของน้ำมันเจ็ทที่ดีมาก และต้นทุนน้ำมันดิบปรับลง ทำให้เราคาดกำไรสุทธิ 3Q22 +192% Q-Q, +36% Y-Y ส่วนกำไรปกติคาด +35% Q-Q, +82% Y-Y แนวโน้ม 4Q22 ดีต่อ เราปรับกำไรปกติปี 2022 ขึ้นเป็น +30% Y-Y ปรับราคาเป้าหมายปี 2022 ขึ้นเป็น 9 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(0) SONIC คาดกำไรปกติ 3Q22 ชะลอต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 โดย -11% Q-Q, +14% Y-Y เพราะ 3Q21 มีการระบาดของสายพันธุ์เดลต้า เกิดการล็อกดาวน์ในช่วง ส.ค. ทำให้ระบบโลจิสติกส์ทำได้ไม่เต็มที่ แนวโน้มผลประกอบการ 4Q22 จะลดลงต่อตามอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นไปตามดัชนีค่าระวาง SCFI 4QTD ที่ -45% Q-Q, -61% Y-Y เราอยู่ระหว่างปรับไปใช้ ราคาเป้าหมายปี 2023 ซึ่งน่าจะต่ำกว่าเป้าปีนี้ตามผลกำไร แนะนำเพียง “ถือ”

 

(-) ตลาดดาวโจนส์ ปิดที่ 30,333.59 จุด ลดลง 90.22 จุด หรือ -0.30% จากข้อมูลแรงงานสหรัฐที่แข็งแกร่ง ทำให้นักลงทุนกังวลการดำเนินนโยบายการเงินแบบเข้มงวดต่อไป

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก หลังจากนางลิซ ทรัสส์ ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ อังกฤษ ซึ่งทำให้แผนปรับลดภาษีครั้งใหญ่โดยไม่มีเงินทุนรองรับยุติลง

(-) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับลง จากความการกังวลการชะลอตัวของเศรษฐกิจ

(+) ค่าเงินบาท แข็งค่า อยู่ที่บริเวณ 38.32 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 43 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 85.98 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับความหวัง Demand ของจีนจะฟื้นตัว หลังจีน กำลังพิจารณาระยะเวลากักตัวของผู้เดินทางเข้าประเทศ ในขณะที่เช้านี้ปรับลงที่ระดับ 84.67 ดอลลาร์/บาร์เรล -1.52% จากความกังวลการขึ้นดอกเบี้ยของ FED หลังประกาศข้อมูลแรงงานสหรัฐที่แข็งแกร่ง

(+) ราคาทองคำ COMEX ปิดเพิ่มขึ้น 2.6 ดอลลาร์ หรือ 0.16% ปิดที่ 1,636.8 ดอลลาร์/ออนซ์ ได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ในขณะที่เช้านี้ปรับลงที่ระดับ 1,631.80 ดอลลาร์/ออนซ์ -0.31% จากความกังวลการขึ้น ดอกเบี้ยของ FED

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 930.99 / -1.74

- Advertisement -