บล.พาย:
BBL: บมจ. ธนาคารกรุงเทพ “แนวโน้มเติบโตคงเดิม ท่ามกลางความท้าทายระดับโลก”
เรายังคงเลือก BBL เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มธนาคาร ด้วยคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 164 บาท ธนาคารจะรักษาทิศทางการเติบโตที่มั่นคงได้ ท่ามกลางความท้าทายทางการเงินในตลาดโลก ด้วยแรงหนุนจากงบดุลที่แข็งแกร่ง สภาพคล่องที่เพียงพอ และโอกาสได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น ขณะที่ยังมีมูลค่าหุ้นไม่แพง ทั้งนี้ กำไรไตรมาส 3/22 ออกมาอยู่ที่ 7.7 พันล้านบาท (+11% YoY, +10% QoQ) ด้วยงบดุลที่ยืดหยุ่นดี
ผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาส 3/22
- กำไรสุทธิไตรมาส 3/22 อยู่ที่ 7.7 พันล้านบาท โตขึ้น 11% YoY (+10% QoQ) สอดคล้องกับคาดการณ์ ขณะที่กำไรก่อนตั้งสำรอง (PPOP) ออกมาดีกว่าคาด 21% เพราะมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) และรายได้ค่าธรรมเนียมที่แข็งแกร่งขึ้น
- การเติบโตทั้ง YoY และ QoQ ได้แรงหนุนจาก NII ที่สูงขึ้น และรายได้ค่าธรรมเนียมที่ยืดหยุ่นต่อสถานการณ์โดยรวม (ค่าธรรมเนียมสินเชื่อและบริการสินเชื่อการค้า) อัตราส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) โตขึ้น YoY และ QoQ มาอยู่ที่ 2.5% จากอัตราผลตอบแทนสินเชื่อที่ดีขึ้น ในด้านอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ลดลง QoQ เหลือ 46.3% (ไตรมาส 2/22: 51.0%)
- สินเชื่อไตรมาส 3/22 โตแข็งแกร่ง 5.4% QoQ หนุนจากกลุ่มสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อผ่านเครือข่ายระหว่างประเทศ อัตราส่วนหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL ratio) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 3.5% ในด้านอัตราส่วนการตั้งสำรองหนี้ฯ ปรับสูงขึ้นเป็น 240% เนื่องจากทางธนาคารทำการตั้งสำรองเพิ่มเติมเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอน
ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่มั่นคง
- กำไรสุทธิสะสม 9 เดือนอยู่ที่ 2.17 หมื่นล้านบาท โต 8% YoY จาก NII ที่สูงขึ้น และการตั้งสำรองหนี้ฯ ที่ลดลง คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/22 จะแตะจุดสูงสุดของปี ด้วยคาดการณ์ว่าจะโตทั้ง YoY และ QoQ
- ด้วยกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ปรับดีขึ้น เราจึงคงประมาณการการเติบโตของกำไรสุทธิที่ 15% YoY ในปี 2022 และ 11% ในปี 2023 หนุนจากการตั้งสำรองหนี้ฯ ที่ลดลง และ NII ที่สูงขึ้นจากการเติบโตของสินเชื่อ
คงคำแนะนำ “ซื้อ ด้วยราคาเป้าหมายที่ 164.00 บาท
- คำแนะนำซื้อสะท้อน 1) งบดุลที่ยืดหยุ่น พร้อมกับมีอัตราส่วนการตั้งสำรองหนี้ฯ สูง และฐานเงินทุนแข็งแกร่ง 2) แนวโน้มการเติบโตของกำไรสุทธิที่มั่นคง 3) โอกาสได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นที่จะไปกระตุ้น NIM ขึ้น และ 4) มูลค่าหุ้นที่ไม่แพง
- ราคาเป้าหมายคำนวณด้วยวิธี Gordon Growth Model (ROE 6.5%, อัตราการเติบโต 2%) อิง 0.6X PBV’23E หรือคิดเป็น -0.5SD ต่อค่าเฉลี่ย 5 ปี (2017-2021)
Revenue breakdown
รายได้ของธนาคารมาจาก:
- รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 82% ของรายได้รวมของธนาคารในปี 2021 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิถือเป็นรายได้หลัก หากการเติบโตของสินเชื่อของธนาคาร และ NIM สูง รายได้นี้จะเติบโตสูงไปด้วย
- รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ 22% ของรายได้รวมในปี 2021 โดยรายได้จากส่วนนี้ประกอบด้วยรายได้ค่าธรรมเนียมในการจัดการสินทรัพย์ และค่าธรรมเนียมวาณิชธนกิจ
- รายได้จากการดำเนินงานอื่น ๆ 17% ของรายได้รวมในปี 2021 โดยรายได้จากการดำเนินงานอื่นๆ ส่วนใหญ่มาจากกำไรจากการลงทุน การซื้อขายและกิจกรรมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และรายได้เงินปันผล