บล.พาย:

QH: บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ “คาดกำไรไตรมาส 3/22 โต YoY และ QoQ”

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 2.54 บาท อิง 9.7xPE’2023E คิดเป็นส่วนลด 10% ต่อค่าเฉลี่ย 5 ปี โดยมีมุมมองเชิงบวกต่อภาพรวม ตั้งแต่ปี 2022 จากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในกลุ่มแนวราบระดับกลางถึงบน ขณะที่มีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลน่าดึงดูดที่ 6.8% ในปี 2022

คาดยอดขายไตรมาส 3/22 โตขึ้น YoY และ QoQ

• คาดยอดขายไตรมาส 3/22 อยู่ที่ 2.3 พันล้านบาท (+66% YoY, +10% QoQ) สะท้อน 1) มูลค่ายอดขายแนวราบที่ 2 พันล้านบาท (+54%YoY, +16%QoQ) และ 2) มูลค่ายอดขายคอนโดที่ 275 ล้านบาท (+288%YoY, -20%QoQ) ยอดขายแนวราบที่โตขึ้น YoY และ QoQ เป็นผลจากมูลค่าการเปิดตัวโครงการแนวราบที่สูงขึ้นในไตรมาส 3/22 มาอยู่ที่ 3.6 พันล้านบาท (+174%QoQ) เพิ่มจาก 3/21 ที่ไม่มีการเปิดตัว โครงการใหม่เลย ส่วนยอดขายคอนโดที่โตขึ้น YoY และ QoQ ได้แรงหนุนจากการขายคอนโดคิว สุขุมวิท 2 ยูนิต มูลค่ารวม 200 ล้านบาท ขณะที่คาดว่ายอดขายสะสม 9 เดือน จะแตะ 6.4 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 70% ต่อเป้าหมายของเราและบริษัท

• แต่คาดว่ายอดขายทั้งปี 2022 อาจต่ำกว่าที่ผู้บริหารตั้งเป้าไว้ที่ 9.2 พันล้านบาท เพราะ 1) อัตรายอดขายที่ต่ำของโครงการระดับบน 2 แห่ง ที่เปิดตัวไปในไตรมาส 3/22 หรือที่ 8.3% 2) แผนเปิดตัวแนวราบ 2 โครงการในไตรมาส 4/22 อาจถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากไม่สามารถก่อสร้างได้ตามกําหนดการเพราะฝนตกหนัก

คาดกำไร 3/22 โต YoY และ QoQ

• คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/22 ที่ 554 ล้านบาท (+110%YoY, +8% QoQ) การเติบโต YoY ได้แรงหนุนจาก 1) ยอดโอนที่สูงขึ้นเป็น 2.1 พันล้านบาท (+46%YoY) จากฐานต่ำเพราะการปิดแคมป์ก่อสร้างในไตรมาส 3/21 2) รายได้ธุรกิจโรงแรมที่ปรับดีขึ้นจากการคลายล็อกดาวน์และการกลับมาเปิดประเทศ 3) ส่วนแบ่งกำไรที่สูงขึ้นเป็น 401 ล้านบาท (+39%YoY) หนุนจากส่วนแบ่งกำไรของ HMPRO และ 4) อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ในไตรมาส 3/22 ที่สูงขึ้นเป็น 33.0% (+4.0 ppts YoY) หนุนจากส่วนแบ่งกำไรที่สูงขึ้นจากการเปิดตัวโครงการระดับบนในช่วง 9 เดือน

• การเติบโต QoQ ได้แรงหนุนจากการรับรู้รายได้โครงการแนวราบที่สูงขึ้น สืบเนื่องจากการโอน backlog โครงการใหม่ที่เปิดตัวในครึ่งแรก ของปี 2022

ยังมองบวกต่อภาพรวมตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นไป

• คงมุมมองเชิงบวกต่อภาพกำไรตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นไป เพราะเล็งเห็นอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในกลุ่มแนวราบระดับกลางถึงบน การเปิดตัวโครงการใหม่มากขึ้นในปี 2022 ขณะที่คาดถึงยอดขายคอนโดที่ฟื้นตัวขึ้นหลังจากกลับมาเปิดประเทศ และ GPM ที่โตขึ้นในปี 2022-24 หนุนจากการเปิดตัวโครงการระดับบนมากขึ้น

พรีวิวผลประกอบการ

• คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/22 ที่ 554 ล้านบาท (+110%YoY, +8% QoQ)

• การเติบโต YoY ได้แรงหนุนจาก 1) ยอดโอนที่สูงขึ้นเป็น 2.1 พันล้านบาท (+46%YoY) จากฐานต่ำเพราะการปิดแคมป์ก่อสร้างในไตรมาส 3/21 2) รายได้ธุรกิจโรงแรมที่ปรับดีขึ้นจากการคลายล็อกดาวน์และการกลับมาเปิดประเทศ 3) ส่วนแบ่งกำไรที่สูงขึ้นเป็น 401 ล้านบาท (+39%YoY) หนุนจากส่วนแบ่งกำไรของ HMPRO และ 4) GPM ในไตรมาส 3/22 ที่สูงขึ้น เป็น 33.0% +4.0 ppts YoY) หนุนจากส่วนแบ่งกำไรที่สูงขึ้นจากการเปิดตัว โครงการระดับบนในช่วง 9 เดือน

• การเติบโต QoQ ได้แรงหนุนจากการรับรู้รายได้โครงการแนวราบที่สูงขึ้น สืบเนื่องจากการโอน backlog โครงการใหม่ที่เปิดตัวในครึ่งแรกของปี 2022

• ประเมินว่า GPM จะลดลง 1.3ppt QoQ แต่ดีขึ้น 4.0ppt YoY เป็น 33.0% หนุนจากการเปิดตัวโครงการระดับบน 3 แห่งใน 9 เดือนแรกของปี 2022 ซึ่งล้วนเป็นโครงการที่มี GPM สูง

• คาดอัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร (SG&A) ต่อยอดขายจะลดลง 1.2 ppt QoQ และ 3.9 ppt QoQ ตามลำดับ จากรายได้ที่โตขึ้น

Revenue breakdown

  • ธุรกิจหลักของ QH แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มดังนี้ 1) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ คิดเป็น 92% ของรายได้ทั้งหมดในปี 2021 และ 2) ธุรกิจโรงแรมและโครงการเชิงพาณิชย์ คิดเป็น 8% ของรายได้ทั้งหมด
  • ที่อยู่อาศัยของบริษัทมีสไตล์และแบรนด์ให้เลือกมากมายครอบคลุมทั้งตลาดบนและล่าง ที่ผ่านมา QH ได้พัฒนาโครงการจำนวนมากที่กระจายอยู่ในทำเลทองทั่วประเทศไทย
  • ธุรกิจที่อยู่อาศัยและคอนโดคิดเป็น 17% ของรายได้ทั้งหมดในปี 2021 โดยมีคอนโดจำนวนมากตั้งอยู่ในใจกลางเมืองหรืออยู่ใกล้กับระบบรถไฟฟ้า BTS และ MRT โครงการของบริษัทจึงเป็นที่น่าดึงดูดต่อกลุ่มลูกค้าในตัวเมืองที่ต้องการความสะดวกสบายในการเดินทางไปกลับจากบ้านและที่ทํางาน
  • นอกจากนี้ QH ยังมีส่วนแบ่งกำไรมาจากการลงทุนอีกด้วย โดยกำไรสุทธิในปี 2021 จาก HMPRO (65%) LHFG และกองทุนอสังหาฯ อีก 2 แห่ง (QHPF และ QHHR) คิดเป็น 10% และ 8% ต่อกำไรสุทธิ ตามลำดับ
- Advertisement -