สรุปภาวะตลาด

วันอังคารที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงการซื้อขาย ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ ที่ปรับตัวบวกในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยหยุดทำการ จากการคลายกังวลว่าเฟดจะเร่งขึ้นดอกเบี้ย แรงซื้อมาจากหุ้นกลุ่มพลังงาน และหุ้น DELTA ที่ส่งผลต่อดัชนีราว 44 จุด ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,600.66 จุด +9.34 จุด +0.59% มูลค่าการซื้อขาย 64,623 ลบ. ต่างชาติ +2,274.69 ลบ. TFEX +18,173 สัญญา ตราสารหนี้ +200.42 ลบ.

ปัจจัยบวก+

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 337.12 จุด +1.07% เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงจะทำให้เฟดชะลอการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ การร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังเป็นปัจจัยหนุนตลาด

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 74 เซนต์ +0.9% ปิดที่ 85.32 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากการอ่อน ค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และการแสดงความเห็นเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันตึงตัว

+ ผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 102.5 ใน เดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 106.5 จากระดับ 107.8 ในเดือนก.ย. โดยได้รับผลกระทบจากการดีดตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย

+ ครม. ไฟเขียวร่างแผนพัฒนารัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2566-2570 ชี้ช่วยกำหนดบทบาท-กรอบ-ทิศทางการพัฒนาที่ ชัดเจน สอดคล้องทิศทางการพัฒนาประเทศ ดันลงทุน 184 โครงการ วงเงิน 2.9 ล้านล้านบาท ประกอบกับอนุมัติต่างชาติลงทุนในไทยเกิน 40 ล้านบาท ให้สิทธิ์เป็นเจ้าของที่ดินไทยได้ 1 ไร่ เพื่ออยู่อาศัยหวังดึงดูดเงินลงทุนสู่ประเทศไทย

ปัจจัยลบ-

– โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า การแต่งตั้งนายริชี ซูนัค เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ ไม่ได้ช่วยทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและอังกฤษดีขึ้น

– ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐเตือนว่า รัสเซียจะทำผิดพลาดร้ายแรง หากคิดจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีกับยูเครน

– นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เปิดเผยว่า อิหร่านกำลังทำให้ทั่วโลกรู้สึกไม่ปลอดภัยมากขึ้น ด้วยการส่งโดรนให้กับรัสเซียเพื่อใช้ในการโจมตียูเครน

– ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเจพีมอร์แกน เชสออก ความเห็นว่า ปัญหาการเมืองของโลกในปัจจุบันน่าเป็นห่วงยิ่งกว่าความเป็นไปได้ที่สหรัฐจะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ โดยมีแรงหนุนจากนักลงทุนคาดหวังว่าเฟดชะลอการเร่งปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ย ประกอบกับปัจจัยในประเทศหลายบริษัทประกาศผลประกอบการออกมาดีกว่าคาด คาดกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,590-1,612 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้นซ่อมแซมหลังน้ำท่วม : GLOBAL DOHOME HMPRO TOA DPAINT COTTO DCC TASCO
  • ตัวเลขส่งออกเดือน ส.ค. เติบโต : BRR KSL TFG GFPT ASIAN
  • หุ้นเด่น IAA : ADVANC AOT BBL KBANK
  • ลุ้น ครม. คนละครึ่งเฟส 6 และเราเที่ยวด้วยกัน : TNP KK ERW CENTEL VRANDA ASAP SPA AAV BA AOT

หุ้นรายงานพิเศษ

PTTEP (Bloomberg Consensus 180) คาดกำไร 3Q65 อยู่ที่ 1.98 หมื่นลบ. +108%YoY แต่ -4%QoQ

  • คาดกำไร 3Q65 อยู่ที่ 1.98 หมื่นลบ. +108%YoY แต่ -4%QoQ โดยปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้น 11 KBD สู่ 476 KBD จากแรงหนุนของโครงการในมาเลเซียที่กลับมาดำเนินการผลิตจากที่หยุดซ่อมบำรุงไปใน 2Q65 ขณะที่ราคาขายเฉลี่ยอ่อนตัวลงจาก 55.6 $/bbl สู่ 53.5 54.5$/bbl เนื่องจากราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงจาก 105-107 $/bbl สู่ 97-99$/bbl ด้านต้นทุนการผลิตปรับตัวขึ้นจาก 28.8$/bbl สู่ 29.5-30.5$/bbl ตามค่าใช้จ่ายดำเนินการที่ปรับตัวขึ้น และค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงโครงการซอติกา รวมถึงค่าใช้จ่ายในการจัด จำหน่ายในออสเตรเลีย นอกจากนี้มีค่าใช้จ่ายจากการป้องกันความเสี่ยงและด้อยค่าโครงการประเทศบราซิลรวม 5.0-5.2 พันลบ.
  • คาด 4Q65 ผลประกอบการมีโอกาสเติบโตตามกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นสู่ 478-483 KBD เนื่องจากโครงการเอราวัณ บงกช และแอลจีเรียที่รับรู้รายได้เต็มไตรมาส ขณะที่คาดว่าราคาจำหน่ายก๊าซธรรมชาติปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันช่วยหนุนราคาขายเฉลี่ยให้ปรับตัวขึ้น
  • ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อราคาน้ำมันเนื่องจาก 4Q65 ทางยุโรปเข้าสู่ฤดูหนาวทำให้มีความต้องการใช้น้ำมันเพื่อให้ความอบอุ่นและเป็นปัจจัยหนุนต่อราคาน้ำมัน อีกทั้งปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นหนุนผลประกอบการเพิ่มเติม เราจึงแนะนำ “ซื้อ”

หุ้นมีข่าว

(+) ASAP (Bloomberg Consensus 2.70 บาท) รับอานิสงส์ รัฐส่งสัญญาณเร่งคลอด “เราเที่ยวด้วยกัน” เพิ่ม หวังเป็นของขวัญ-กระตุ้นท่องเที่ยว พร้อมเสริมทัพเพิ่มรถเช่าระยะสั้น ด้านบิ๊ก “ทรง วิทย์ ฐิติปุญญา” ลั่นไตรมาส 4/2565 ฟอร์มแจ่ม คนแห่เช่ารถอื้อ-บุ๊กขายยูสคาร์หนุน แถมซุ่มดีลต่อยอดรถเช่าอีวีเสริมพอร์ตระยะยาว (ที่มา ทันหุ้น)

(+) D (Bloomberg Consensus 8.75 บาท) อัดฉีดงบลงทุน 20 ล้านบาท เนรมิตคลินิกทันตกรรมขนาดเล็ก คาดเปิดไตรมาสละสาขา พร้อมส่งสัญญาณโรงพยาบาล BIDH แข็งแกร่ง ใส่เกียร์ดันอัตราบริการชน 90% จากปัจจุบันที่ 50% เกาะฐานลูกค้าต่างชาติเข้าใช้บริการดันยอดพุ่ง (ที่มา ทันหุ้น)

(+) IND (Bloomberg consensus – บาท) คว้าโปรเจ็กต์ควบคุมงานก่อสร้างโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ จาก รฟท. มูลค่า 162.93 ล้านบาท ดันแบ็กล็อกพุ่งแตะ 2.42 พันล้านบาท ฟากผู้บริหารระบุถือเป็นอีกหนึ่งโปรเจ็กต์ที่ต่อยอดธุรกิจให้เติบโตมากยิ่งขึ้น เชื่อหนุนผลงานปีนี้โตตามเป้าหมายไม่ต่ำกว่า 20-25% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) STI (Bloomberg consensus – บาท) ควง AEC เซ็นงานระบบทางรถไฟใหม่ 2 โครงการ มูลค่ากว่า 824 ล้านบาท ดันแบ็กล็อกทะลุ 4,800 ล้านบาท ทำ All Time High เด่นสุดในอุตสาหกรรม ขณะที่ยังมีโครงการใหม่ๆ กำลังเข้ามาอย่างต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 26 ต.ค. กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการ ส่งออก-นำเข้า
  • 26-29 ต.ค. ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมประจำปี รัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 30
  • 27-29 ต.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จัดงาน BOT Digital Finance Conference 2022
  • 28 ต.ค. ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
  • 30 พ.ย. กำหนดประชุมกนง.รอบหน้า

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 26 ต.ค. สหรัฐ รายงานยอดขายบ้านใหม่เดือน ก.ย. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
  • 27 ต.ค. จีน รายงานกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.ย.
    • ธนาคารกลางยุโรป (ECB) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย
    • สหรัฐ รายงานจํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) 3Q65 (ประมาณการเบื้องต้น) ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย.
  • 28 ต.ค. อียู รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือนต.ค.
    • สหรัฐ รายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นสุดท้ายเดือนต.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
  • 1-2 พ.ย. กำหนดประชุมธนาคารกลางสหรัฐรอบหน้า
- Advertisement -