รอบด้านตลาดหุ้น: วันนี้คาดดัชนีเดินหน้าบวก

Market wrap & Outlook

  • วานนี้ดัชนีบวกตามคาด หุ้นดันดัชนี ได้แก่ DELTA BDMS SCC KTB BBL AWC SCGP EA PTT PTTEP และหุ้นบวกแรง เช่น WAVE SNNP NSI TMC ส่วนหุ้นลบ ได้แก่ KBANK MAKRO ADVANC TLI
  • วันนี้คาดดัชนีเดินหน้าบวก ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ของสัปดาห์ และคาดว่าดัชนีฯจะพักฐานเล็กน้อย 3-5 จุด วันพรุ่งนี้ หรือ ศุกร์ ก่อนตลาดจะเล่นขึ้นต่อตามงบ 3Q ที่ออกมาดีกว่าคาด ซึ่งระหว่างที่เกิดการพักฐานของดัชนี หากกลุ่มแบงก์ ย่อแนะเก็บเพิ่มหรือ Run trend ต่อ และคงแนะซื้อเก็งกำไรกลุ่มโรงกลั่น พลังงาน เหมือนเดิม โดยที่เพิ่มเติมระหว่างตลาดเริ่มพัก เราแนะเพิ่มการเล่นหุ้น Alpha ตามประเด็นหนุนราคาหุ้นรายตัว เช่น กลุ่มเชื่อมโยง EV (EA NEX BYD DELTA) หุ้นอสังหาริมทรัพย์ ร้านอาหาร เป็นต้น

What to watch

  • คาดประชุม ECB วันพรุ่งนี้ จะขึ้นดอกเบี้ย 0.75%
  • บอร์ด BOI เพิ่มมาตรการส่งเสริมลงทุนรถอีวี ลดภาษีนิติบุคคลเต็มแม็ก 8 ปี กิจการโรงงานผลิตแบตเตอรี่รถไฟฟ้า กับกิจการสถานีชาร์จอีวี หลัง 17 บริษัทรถอีวีแห่เข้าไทย ยอดทะลุ 80,000 ล้านบาท ด้านกลุ่มยานยนต์ ส.อ.ท.ชี้มาตรการใหม่ออกเร็วจะจูงใจนักลงทุน ผุดโครงการแบตเตอรี่เพิ่มขึ้น ขณะที่ WHA แจ้งข่าวดี BYD ผลิตรถปี 2567 พร้อมดึงโรงงานแบตเตอรี่เข้ามาด้วย
  • รายงานผลประกอบการ บจ. สัปดาห์นี้ เช่น พุธ SCC ศุกร์ GLOBAL
  • ครม.อนุมัติให้ต่างชาติที่มีรายได้สูง 4 กลุ่มซื้อบ้าน-ที่ดิน 1 ไร่ พร้อมเงินลงทุน 40 ล้าน

หุ้นแนะนำวันนี้

  • LH SA คาดราคาหุ้นตอบรับเชิงบวกกับมติ ครม.เห็นชอบต่างชาติรายได้สูงลงทุนในประเทศ มีสิทธิ์ซื้อ ที่อยู่อาศัย-ที่ดินขนาด 1 ไร่
  • SPALI เราปรับเพิ่มคำแนะนำ ดูรายงานวันนี้
  • M  W   ร้านอาหาร คาดงบ 3Q รอบนี้จะพลิกฟื้นดีกว่าคาด ด้วยทิศทางต้นทุนที่เริ่มผ่อนคลายบวกกับ พฤติกรรมทานอาหารนอกบ้านเพิ่มขึ้นแถม นักท่องเที่ยวต่างชาติ ตามจังหวัดท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะหนุนทั้งยอดขายทางตรงและทางอ้อม (รายได้จังหวัดท่องเที่ยวดีขึ้นหนุนกำลังซื้อ)

Technical Daily (T)

สแกนหุ้นจุดกลับตัว…ขาขึ้นนับ 1
แนะนำ ซื้อ
IVL  แนวรับ 39-40 แนวต้าน  45 และ 47 ( Stop loss < 38)
CBG  แนวรับ 88 แนวต้าน 95 ( Stop loss < 86)
SCGP  แนวรับ 52-53 แนวต้าน 58-59 ( Stop loss < 50)

Quantitative Strategy: คาดดัชนี SET จะแตะระดับ 1640-1660 จุดได้ในเดือน พ.ย.

ตลาดหุ้นไทยรีบาวด์ 2% ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาเนื่องจากบรรยากาศการลงทุนปรับตัวดีขึ้นหลังจากดัชนี MSCI All-Country World Equity ดีดตัวได้อย่างแข็งแกร่ง เราเชื่อว่าดัชนี SET จะยังคงปรับตัวขึ้นได้ต่อในระยะอันใกล้ ทั้งนี้ดัชนี Composite Short-term รีบาวด์จากระดับใกล้ Oversold ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากดัชนี Short-term Bull-to-Bear ได้ดีดตัวจากกรอบล่าง ในขณะที่ดัชนี Short-term Momentum Strength ได้ฟื้นตัวเช่นกัน ขณะที่ค่าความผันผวนของตลาดกำลังปรับตัวลงและอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว เราประเมินกรอบการแกว่งตัวของดัชนี SET ระหว่างวันที่ 25 ต.ค.-7 พ.ย. ในช่วง 1570-1660 จุด

Global Investing Brief: หุ้นสหรัฐฯ ฟื้นต่อ Visa และ Coca-Cola เผยงบดีกว่าคาด

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ

  • เมื่อคืนนี้ดัชนี DJIA +1.1%, S&P 500 +1.6% และ Nasdaq +2.3% หลังนักลงทุนคลายกังวลการเร่งขึ้นดอกเบี้ย เนื่องจากดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือน ต.ค. ปรับลงสู่ระดับ 102.5 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. และต่ำกว่าตลาดคาดที่ 106.5 โดยได้รับผลจากการขึ้นดอกเบี้ยและความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย ด้าน Visa (V) +1.4% ช่วง after hours หลังเผยงบ F4Q65 ดีกว่าตลาดคาด รายได้โต 19%YoY แตะ $7.8bn และกำไรต่อหุ้นโต 19%YoY แตะ $1.71 โดยปริมาณการชำระเงินเพิ่มขึ้น 10%YoY หนุนจากปริมาณการชำระเงินข้ามพรมแดนที่เพิ่มขึ้น 36%YoY หลังชาวอเมริกันใช้ประโยชน์จากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นในการใช้จ่าย
  • Coca-Cola (KO) +2.3% หลังเผยงบ 3Q65 ดีกว่าคาด รายได้โต 10%YoY สู่ $11bn และกำไรต่อหุ้นโต 7%YoY สู่ $0.69 หนุนจากรายได้แบบ organic (เฉพาะส่วนที่ดำเนินงานหลัก) โต 16%YoY หลังมีการขึ้นราคาขายเฉลี่ย โดยกลุ่มเครื่องดื่มอัดลมมีปริมาณขายโต 3%YoY โดยเฉพาะ Coke Zero Sugar ที่มีปริมาณเพิ่มขึ้น 11%YoY ทั้งนี้ บริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรต่อหุ้นเป็นโต 6-7%YoY จากเดิมที่ 5-6%YoY และเพิ่มคาดการณ์รายได้เป็นโต 14%-15%YoY จากเดิม 12%-13%YoY ด้าน Bloomberg Cons. ให้ TP ที่ $65.87

ตลาดหุ้นฮ่องกง

  • วานนี้ดัชนีฮั่งเส็งปรับลงต่อ 0.1% กดดันจาก AIA (1299) -2.7%, HKEX (388) -1.8% หลังนักลงทุนยังมีความกังวลว่าทีมผู้นำชุดใหม่ของจีนจะยังคงดำเนินนโยบาย Zero-Covid ต่อไป โดยสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 ในรายงาน “HK Special Report – สี จิ้นผิง เรืองอำนาจ หุ้นจีนรอดหรือร่วง?” ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคฯ ฟื้น หลังปรับลงหนักในวันก่อนหน้า โดย JD.com (9618) +5%, NetEase (9999) +3.4%
  • Tencent (700) ได้ยื่นคำขอรับสิทธิบัตรสำหรับ “วิธีการประเมินความสามารถในการต่อสู้ของเกม” หรือระบบ AI สำหรับการประเมินความสามารถของผู้เล่น ซึ่งจะช่วยสร้างประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีขึ้นให้กับผู้เล่น นอกจากนี้ Tencent ยังเปิดตัวสิทธิบัตร “วิธีการประมวลผลการชำระเงินแบบ Biometric” หรือการชำระเงินโดยใช้อัตลักษณ์ เช่น หน้าตา เสียง ม่านตา เป็นต้น คาดนำไปเสริมแกร่งธุรกิจแพลตฟอร์มชำระเงิน WeChat Pay ด้าน Bloomberg Cons. ให้ TP ที่ HKD409.25

ตลาดหุ้นเวียดนาม

  • วานนี้ดัชนี VN ปิดบวก 1.1% นำโดย SAB +3.8%, VCB +2.8% แม้ธนาคารกลางเวียดนามจะเซอร์ไพรส์ตลาด ประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 1% หลังตลาดปิดเมื่อ 24 ต.ค. 65 โดยให้เหตุผลการขึ้นดอกเบี้ยว่าเป็นการบรรเทาอัตราเงินเฟ้อ และรักษาค่าเงินดองให้มีเสถียรภาพ หลังอ่อนค่าเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ ราว 9%YTD และได้ใช้เงินทุนสำรองเงินตราต่างประเทศไปแล้วกว่า $23bn หรือลดลงราว 14.6%YTD ทั้งนี้ การปรับขึ้นดอกเบี้ยมีแนวโน้มสร้างความผันผวนแก่ตลาดหุ้นในระยะสั้น เนื่องจากเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ย 1% ครั้งที่สองในรอบเดือน (ครั้งก่อนหน้าเมื่อวันที่ 23 ก.ย.)
  • ACB ที่มีสัดส่วนราว 6% ในดัชนี VN30 ที่เป็นดัชนีอ้างอิงของ DR E1VFVN3001 และ 8% ในดัชนี VN Diamond ที่เป็นดัชนีอ้างอิงของ DR FUEVFVND01 เผยงบ 3Q65 รายได้จากการดำเนินงานโต 25%YoY สู่ VND7,091bn และกำไรโต 71%YoY สู่ VND3,587bn หนุนจากยอดสินเชื่อที่โต 11.1%YTD (1.7%QoQ) และการตั้งสำรองที่ลดลง 89%YoY ขณะที่ ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) เพิ่มขึ้น 24bps YTD (5bps QoQ) ด้านอัตราส่วนหนี้เสียเพิ่มขึ้นเป็น 1% จาก 0.76% ใน 2Q65

Highlight

Apple (AAPL) ได้เปิดเผยกฎเกี่ยวกับการใช้งาน Cryptocurrencies และ Non-Fungible Token (NFTs) บนระบบ iOS โดยระบุว่าแอปใดบ้างที่ได้รับอนุญาตให้ใช้เทคโนโลยีดังกล่าว และยังจำกัดไม่ให้ผู้บริโภคใช้แอปที่มีปุ่มลิงก์ไปสู่ภายนอกหรือการนำลูกค้าไปยังกลไกการซื้ออื่นๆ นอกเหนือจากการซื้อภายในแอป (in-app purchase) อีกทั้ง Apple จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสูงสุด 30% ในการซื้อขายที่เกี่ยวข้องกับ NFTs

- Advertisement -