ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

แกว่งขึ้นต่อ ทิศทางฟันด์โฟลว์เริ่มดีขึ้น

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันพุธ แกว่งตัวขึ้นต่อ… หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยรีบาวด์แรงกว่าที่คาดเล็กน้อย ตามฟันด์โฟลว์ต่างชาติที่กลับมาค่อนข้างดี + การแรลลี่ของหุ้นมาร์เก็ตแคปใหญ่ อย่าง DELTA (+6.39%)… ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยโดยรวมต่อตลาดหุ้นเป็นบวกเล็กน้อย กล่าวคือ i) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นยุโรปฟื้นตัวต่อ ได้แรงหนุนจากบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ที่ลดลงค่อนข้างแรง หลังจากสหรัฐฯ รายงานตัวเลขราคาบ้านเฉลี่ย เดือน ส.ค. -1.6% MoM, +13% YoY ซึ่งต่ำกว่าที่ consensus คาดการณ์ค่อนข้างมาก และทำให้ตลาดมองว่าแรงกดดันเงินเฟ้อในสหรัฐฯ จะชะลอตัวในระยะถัดไป เพราะค่าเช่าบ้านน่าจะค่อยๆ ชะลอตัวตามราคาบ้านที่ลดลง ii) ดัชนีค่าเงินดอลล่าร์ฯ ปรับฐานลงค่อนข้างแรง ทั้งจากบอนด์ยีลด์ที่ลดลงดังกล่าวข้างต้น รวมทั้งประเด็นข่าวที่ว่า ธ.กลางญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงค่าเงินเยนให้แข็งขึ้นอีกครั้ง และในฝั่งอังกฤษได้นายกฯ คนใหม่ นาย Rishi Sunak ซึ่งมีประวัติการศึกษา และการทำงานด้านเศรษฐกิจค่อนข้างดี น่าจะสร้างความเชื่อมั่นต่อตลาดการเงินได้ไม่มากก็น้อย ส่งผลให้ค่าเงินปอนด์และค่าเงินยูโรฟื้นตัวในระยะสั้น…. อย่างไรก็ดี ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ยังมีปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญ และอาจสร้างความผันผวนให้กับตลาดได้อีก เช่น GDP ไตรมาส 3/2565 ของสหรัฐฯ (รายงานวันที่ 27 ต.ค.) และตัวเลขเงินเฟ้อ PCE เดือน ก.ย. (รายงานวันที่ 28 ต.ค.)

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน 

เก็งกำไร SCGP*, ERW, SCB*

  • SCGP* (เป้าพื้นฐาน 63 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 53 บาท / แนวต้าน 54 – 55 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 57 บาท (Stop loss 51.5 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานพ้นจุดต่ำสุดแล้ว และคาดจะเริ่มฟื้นตัวใน 4Q65 จากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง ต้นทุนการขนส่งที่ลดลง และปัจจัยฤดูกาลที่เป็น High season 3) ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไรปี 2566 กลับมาโต +20% YoY ขณะที่ Forward PE 26.8 เท่า คิดเป็นราว -1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต
  • ERW (เป้าพื้นฐาน 5.1 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 4.42 บาท / แนวต้าน 4.54 – 4.66 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 4.8 บาท (Stop loss 4.3 บาท) 2) ประเมิน Sentiment บวกจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวไทยจากการเปิดประเทศ และคาดภาครัฐฯ เตรียมมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวปลายปีนี้ – ต้นปีหน้า หนุนแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H65 – 1Q66 3) ฝ่ายวิจัยฯคาด EBITDA เริ่มพลิกเป็นบวกแล้วในปีนี้ และคาดปีหน้า EBITDA ฟื้นสู่ระดับ + 2 พันล้านบาท (ระดับก่อนวิกฤติโควิด-19)
  • SCB* (เป้าพื้นฐาน 152 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 105 บาท / แนวต้าน 108 – 113 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 120 บาท (Stop loss 103.5 บาท) 2) รายงานกำไร 3Q65 ตามคาด และเราคาดแนวโน้มผลการดำเนินงานจะดีต่อเนื่อง ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และการขึ้นอัตราดอกเบี้ย (เป็นบวกต่อ NIM หรือ ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย) 3) คาด Sentiment บวกจากการเตรียมปรับโครงสร้าง บ.ลูก ในเครือ โดยล่าสุดบริษัท CardX (บ.บัตร เครดิต) เตรียมโอนธุรกิจจาก SCB ภายในเดือน ธ.ค.นี้ (คาดหวังการเตรียม Spinoff หุ้น บ.ลูกเข้า ตลาดฯ) 4) PBV 0.8 เท่า ขณะที่คาด ROE ปี 2565 – 66 คาดทยอยฟื้นตัวเป็น 9% และ 9.5% ตามลำาดับ

หุ้นมีข่าว

(+) ปลดล็อก “ต่างชาติ” ซื้อบ้าน-ที่ดิน อสังหาฯ ขยับลงทุนรับดีมานด์ (กรุงเทพธุรกิจ) ครม.ปลดล็อก ต่างชาติที่มีรายได้สูง ซื้อบ้าน-ที่ดิน ได้ไม่เกิน 1 ไร่ แลกลงทุน 40 ล้าน โดยต้องลงทุนไม่น้อยกว่า 3 ปี จาก เดิม 5 ปี สัญญาณบวกอสังหาฯ ฟื้นตลาด กระตุ้นเมืองท่องเที่ยว พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมดีเวลลอปเปอร์ จ่อลงทุนคึกคัก

(+) SCGP* ทุ่ม 2 หมื่นล.ปี 66 ลุยช็อปซื้อปีนี้จบ 1 ดีล (ทันหุ้น) SCGP* วางงบ 2 หมื่นล้านบาท ขยายฐานธุรกิจในปี 2566 แย้มอยู่ระหว่างดีลเข้าซื้อกิจการ M&P หลายดีลชัดเจน อีก 1 ดีลภายในปีนี้ ส่วนโครงการกระดาษบรรจุภัณฑ์เวียดนาม เริ่มลงทุนปี 2566 มั่นใจปีนี้รายได้เข้าเป้า 1.5 แสนล้านบาท อานิสงส์ธุรกิจใหม่หนุน

(+) WHA* ขยายฐานเวียดนาม ปูพรมพัฒนาพื้นที่ทำเงิน (ทันหุ้น) WHA* ลงนามเอ็มโอยู กับองค์การบริหารเขตเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมจังหวัดกว๋างนาม เพื่อพัฒนาโครงการเขตอุตสาหกรรมแห่งใหม่ ในทำเลยุทธศาสตร์ตอนกลางของประเทศเวียดนาม ใจกลาง “แนวพื้นที่อุตสาหกรรมตอนกลาง หรือ Central Industrial Corridor” ครอบคลุมพื้นที่ราว 400 เฮกตาร์

(+) เพิ่มสิทธิประโยชน์ รถอีวี แบต-หัวชาร์จเว้นภาษี 8 ปี (ประชาชาติธุรกิจ) บอร์ด BOI จัดให้เพิ่มมาตรการส่งเสริมลงทุนรถอีวี ลดภาษีนิติบุคคลเต็มแม็ก 8 ปี กิจการโรงงานผลิตแบตเตอรี่รถไฟฟ้า กับกิจการสถานีชาร์จอีวี หลัง 17 บริษัทรถอีวีแห่เข้าไทย ยอดทะลุ 80,000 ล้านบาท ด้านกลุ่มยานยนต์ ส. อ.ท.ชี้มาตรการใหม่ออกเร็วจะจูงใจนักลงทุน ผุดโครงการแบตเตอรี่เพิ่มขึ้น ขณะที่ WHA แจ้งข่าวดี BYD ผลิตรถปี 2567 พร้อมดึงโรงงานแบตเตอรี่เข้ามาด้วย

(+) DITTO ทุ่ม 160 ล้าน ปลูกป่าชายเลน ตั้งทีมเจาะองค์กรท้องถิ่น 8 พันแห่ง มูลค่า 3-4 พันล้าน (ข่าวหุ้น) “ดิทโต้” ทุ่ม 160 ล้านบาท เร่งเดินหน้าปลูกป่าชายเลน เตรียมทาบ “ชุมชน” ในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมตั้งเป้า 1 แสนไร่ แย้มศึกษาการระดมทุนโดยออกบอนด์-โทเคน พร้อมเฮรับข่าวดี! พ.ร.บ.ปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์บังคับใช้ ตั้งทีมเจาะองค์กรท้องถิ่น อบจ. เทศบาล อบต. กว่า 8 พันแห่ง คาดว่ามูลค่า ไม่ต่ากว่า 3-4 พันล้านบาท

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • NEX (เป้า Consensus 23.5 บาท) แนวรับ 19.6 บาท / แนวต้าน 20.0-20.2 บาท หากผ่านได้ แนะนํา “Let profit run” (Trailing stop 19.0 บาท)
  • AMA (เป้าพื้นฐาน 7.6 บาท) แนวรับ 5.5 บาท / แนวต้าน 5.8-5.9 บาท (Trailing stop 5.5 บาท)
  • CPALL* (เป้าพื้นฐาน 74 บาท) แนวรับ 58 บาท / แนวต้าน 60-61 บาท (Trailing stop 57 บาท)
  • M (เป้าพื้นฐาน 67.5 บาท) แนวรับ 58 บาท / แนวต้าน 60-62 บาท (Trailing stop 57 บาท)
  • BBL* (เป้าพื้นฐาน 159 บาท) แนวรับ 143 บาท / แนวต้าน 145-149 บาท (Trailing stop 140 บาท)
  • TLI (เป้าพื้นฐาน 19.1 บาท) แนวรับ 14.9 บาท / แนวต้าน 15.6-16.1 บาท (Stop loss 14.9 บาท)
  • ILM (เป้า Consensus 22.4 บาท) แนวรับ 17.2 บาท / แนวต้าน 17.5-17.9 บาท (Stop loss 16.9 บาท)
  • TU* (เป้า Consensus 22.3 บาท) แนวรับ 18.6 บาท / แนวต้าน 19.3-20.0 บาท (Stop loss 18 บาท)
  • PLANB* (เป้าพื้นฐาน 8.8 บาท) แนวรับ 7.1 บาท / แนวต้าน 7.3-7.55 บาท (Stop loss 6.9 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • BCP แนะนำซื้อ เป้าพื้นฐาน 41 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไรสุทธิ 3Q65 ที่ 2.6 พันล้านบาท (-51% QoQ, +43% YoY) โดยเราประเมิน market GRM ในไตรมาสดังกล่าวที่ 11.3 ดอลล่าร์/บาร์เรล ลดลง 54% QoQ แต่เพิ่มขึ้นแรง 269% YoY ทั้งนี้เราปรับประมาณการกำไรปี 2565 และ 2566 ขึ้น 3% และ 5% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนค่าการตลาดน้ำมันที่สูงกว่าที่เราเคยคาดการณ์ ได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 41 บาท (เดิม 40 บาท)
  • SCGP* แนะนำซื้อ เป้าพื้นฐาน 63 บาท รายงานกำไรสุทธิ 3Q65 ที่ 1.84 พันล้านบาท (-1% QoQ, +3% YoY) ดีกว่าที่เราคาด 6% และดีกว่าตลาดคาด 7% ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯ มองว่ากำไรของ SCGP น่าจะลงสู่จุดต่ำสุดแล้ว และน่าจะฟื้นตัว QoQ ใน 4Q65 จากต้นทุนการดำเนินงานที่ลดลง และปัจจัยบวกเชิงฤดูกาล ทั้งนี้เราปรับลดประมาณการปี 2565 ลง 8% แต่คงประมาณการกำไรปี 2566-2567 ไว้ และยังคงแนะนำซื้อ แต่ลดราคาเป้าหมายลงจาก 65 บาท เป็น 63 บาท
  • RBF* แนะนำถือ เป้าพื้นฐาน 12.2 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไรสุทธิ 3Q65 ที่ 134 ล้านบาท (+16% QoQ, ไม่เปลี่ยนแปลง YoY) คาดว่ายอดขายยังเติบโตได้ทั้ง QoQ, YoY แต่อัตรากำไรจะยังถูกกดดันจากต้นทุนวัตถุดิบที่อยู่ในระดับสูง สำหรับในระยะถัดไป คาดว่าแรงกดดันจากต้นทุนวัตถุดิบจะลดลงตามวงจรราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ชะลอตัว แต่ขณะเดียวกันต้องติดตามความเสี่ยงจากธุรกิจ flavoring และ coloring รวมทั้งความไม่แน่นอนในส่วนของธุรกิจกัญชง
  • BCPG* แนะนำถือ เป้าพื้นฐาน 10.4 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไรสุทธิ 3Q65 ที่ 645 ล้านบาท (+95% QoQ, +6% YoY) โดยการเติบโต QoQ จะมาจาก peak season ของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ขณะที่การลดลง YoY น่าจะเกิดจากการที่ไม่มีโครงการพลังงานความร้อนใต้พิภพแล้ว ทั้งนี้เราปรับลดประมาณการปี 2566-2567 ลงปีละ 6% เพื่อสะท้อนต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้น ได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 10.4 บาท (ลดลงจากเดิมที่ 11.6 บาท)
- Advertisement -