บล.บัวหลวง:

Refining & Chemical – ค่าการกลั่นปรับตัวขึ้น แต่ส่วนต่างราคาปิโตรเคมีส่วนใหญ่ปรับตัวลง (NEUTRAL)

ค่าการกลั่นปรับตัวขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา หนุนโดยส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ทุกประเภทที่ขยายตัว ในขณะที่ส่วนต่างราคาปิโตรเคมีอ่อนตัวลงเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งถูกกดดันโดยอุปสงค์ในภูมิภาคที่ชะลอตัว และต้นทุนวัตถุดิบเอธิลีนที่ปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้เรายังคงชอบ IVL มากที่สุด

การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อการฟื้นตัวของอุปสงค์และโควต้าการส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปของประเทศจีน ซึ่งจะเพิ่มอุปทานในตลาดเป็นปัจจัยที่น่าจับตามอง เนื่องจากอาจกดดันค่าการกลั่น ฃให้ปรับตัวลดลง ในทางกลับกันเนื่องจากปัจจุบันเป็นช่วงพีคซีซั่นของพายุเฮอริเคน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของโรงกลั่น นอกจากนี้ ฤดูกาลปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในฤดูใบไม้ร่วงได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ปัจจัยเหล่านี้อาจส่งผลให้อุปทานตึงตัวและหนุนค่าการกลั่นให้ปรับตัวดีขึ้น

ทั้งนี้เรายังคงชอบ IVL มากที่สุด เนื่องจากแนวโน้มการเติบโตแข็งแกร่งของกําไรหลักปี 2022 รวมทั้งมีอัพไซต์ต่อแนวโน้มการเติบโตระยะยาวจากการลงทุน และ/หรือ การเข้าซื้อกิจการใหม่

ค่าการกลั่นปรับตัวขึ้น WoW

ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.54 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 3.58 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หนุนโดยส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ทุกประเภทที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น อุปสงค์ในภูมิภาคที่แข็งแกร่งขึ้นส่งผลให้ส่วนต่างราคาก๊าซโซลีนปรับตัวขึ้น 3.79 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 6.04 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อ SPRC มากที่สุด) นอกจากนี้ กิจกรรมการเดินทางทางอากาศที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก, อุปสงค์จากยุโรปและในเอเชียที่เพิ่มขึ้น และสต็อกทั่วโลกที่ลดลง ส่งผลให้ส่วนต่างราคาน้ำมันเครื่องบินและส่วนต่างราคาดีเซลปรับตัวขึ้น 2.17 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ ที่ 34.95 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และ 1.48 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 44.26 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ตามลำดับ

ทั้งนี้ ต้นทุนนํ้ามันดิบที่ปรับตัวลดลงแรงส่งผลให้ส่วนต่างราคานํามันเตาที่มีส่วนผสมของกำมะถันในระดับสูงปรับตัวขึ้น 2.41 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ ที่ -28.22 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (ยังคงแย่กว่าระดับปกติในช่วงก่อน IMO2020 ที่ติดลบ -4 -5 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลค่อนข้างมาก)

ส่วนต่างราคาเอธิลีนปรับตัวขึ้น แต่ส่วนต่างราคาโพรพิลีนทรงตัว WoW

ต้นทุนวัตถุดิบแนฟทาที่แข็งแกร่งและแรงซื้อในภูมิภาคที่ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ราคาเอธิลีนปรับตัวขึ้น 20 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 855 เหรียญสหรัฐ/ตัน ในขณะที่แรงซื้อในภูมิภาคที่ทรงตัวส่งผลให้ราคาโพรพิลีนทรงตัวอยู่ที่ 875 เหรียญสหรัฐ/ตัน ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบแนฟทาทรงตัว WoW อยู่ที่ 672 เหรียญสหรัฐ/ตัน ส่วนต่างราคาเอธิลีนจึงปรับตัวขึ้น 20 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 183 เหรียญสหรัฐ/ตัน (ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อ PTTGC มากที่สุด) ขณะที่ส่วนต่างราคาโพรพิลีนทรงตัว WoW อยู่ที่ 203 เหรียญสหรัฐ/ตัน

ส่วนต่างราคา HDPE และส่วนต่างราคา PP ทรงตัว WOW

ต้นทุนวัตถุดิบที่แข็งแกร่งและอุปสงค์ในเอเชียที่ทรงตัวหนุนให้ราคา HDPE และ ราคา PP ทรงตัว WOW อยู่ที่ 1,050 เหรียญสหรัฐ/ตัน และ 1,050 เหรียญสหรัฐ/ตัน ตามลำดับ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบแนฟทาทรงตัว ส่งผลให้ส่วนต่างราคา HDPE เทียบกับแนฟทาทรงตัว WoW อยู่ที่ 378 เหรียญสหรัฐ/ตัน และส่วนต่างราคา PP ทรงตัว WoW อยู่ที่ 378 เหรียญสหรัฐ/ตัน

ส่วนต่างราคา MEG และส่วนต่างราคา PVC ปรับตัวลง WoW

แรงซื้อในภูมิภาคที่ชะลอตัวและราคาวัตถุดิบร่วม PTA ที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้ราคา MEG ปรับตัวลง 20 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 470 เหรียญสหรัฐ/ตัน ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากต้นทุนเอธิลีนปรับตัวขึ้น ส่งผลให้ส่วนต่างราคา MEG ปรับตัวลง 33 เหรียญสหรัฐ WoW ไปอยู่ในแดนลบที่ -69 เหรียญสหรัฐ/ตัน (ส่งผลกระทบเชิงลบต่อ PTTGC มากที่สุด) ขณะเดียวกัน ต้นทุนวัตถุดิบเอธิลีนที่ปรับตัวขึ้นส่งผลให้ราคา PVC ทรงตัว WoW อยู่ที่ 850 เหรียญสหรัฐ/ตัน เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบเอธิลีนปรับตัวขึ้น ส่งผลให้ส่วนต่างราคา PVC ปรับตัวลง 10 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 423 เหรียญสหรัฐ/ตัน (ส่งผลกระทบเชิงลบต่อ PTTGC มากที่สุด)

คาดค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้น YoY และ QoQ ในไตรมาส 4/65

อุปสงค์ในวงกว้างสำหรับน้ำมันสำเร็จรูปมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น YoY ต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 4/65 นอกจากนี้อุปสงค์น้ำมันดีเซลและน้ำมันเตาที่มีส่วนผสมของกำมะถันในระดับสูง คาดว่าจะเพิ่มขึ้น QoQ ในไตรมาส 4/65 หนุนโดยอุปสงค์ตามฤดูกาลที่สูงและอุปสงค์การเปลี่ยนการใช้ก๊าซเป็นน้ำมัน นอกจากนี้อุปสงค์นํ้ามันเครื่องบินทั่วโลกคาดว่าจะเพิ่มขึ้น QoQ ในช่วงเวลาเดียวกัน สอดคล้องกับการผ่อนคลายข้อจํากัดการเดินทาง จากมุมมองด้านอุปทาน การปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในฤดูใบไม้ร่วง, อุปทานที่ลดลงจากรัสเซีย, และสต็อกน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำจะเป็นปัจจัยที่จำกัดอุปทานต้นทุนน้ำมันดิบ (พรีเมี่ยมของน้ำมันดิบ) มีแนวโน้มที่จะลดลง QoQ ในไตรมาส 4/65 ตามทิศทางของราคาน้ำมันดิบ ดังนั้นเราจึงคาดว่าค่าการกลั่นจะขยายตัว YoY และ QoQ ในไตรมาส 4/65

หากการเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ของโรงกลั่นใหม่ไม่เป็นไปตามแผน หรือมีการหยุดโรงกลั่นโดยไม่ได้วางแผนล่วงหน้า (สาเหตุจากไฟไหม้, สงคราม, ภัยธรรมชาติ เป็นต้น) จะส่งผลให้อุปทานตึงตัว อาจเป็นอัพไซต์ต่อค่าการกลั่น  ในทางกลับกันหากอัตราการติดเชื้อกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอุปสงค์ปิโตรเลียมจะถูกกดดันอีกครั้ง ซึ่งอาจจํากัดการฟื้นตัวของค่าการกลั่น

ส่วนต่างราคาปิโตรเคมีส่วนใหญ่มีแนวโน้มปรับตัวลง YoY และทรงตัว QoQ ในไตรมาส 4/65

การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก, การล็อกดาวน์ในประเทศจีน, และช่วงโลว์ซีซัน มีแนวโน้มที่จะกดดันอุปสงค์ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีในไตรมาส 4/65 ให้ชะลอตัวลง นอกจากนี้การเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ของกำลังการผลิตใหม่และต้นทุนวัตถุดิบที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องจะกดดันส่วนต่างราคาปิโตรเคมีบางประเภทในไตรมาส 4/65 จากแนวโน้มดังกล่าว เราจึงคาดว่าส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีส่วนใหญ่จะอ่อนตัวลง YoY และยังคงทรงตัว (หรืออ่อนตัวเล็กน้อย) QoQ ในไตรมาสดังกล่าว อย่างไรก็ตาม อุปทานที่มีจำกัด ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายการควบคุมมลพิษของจีน และ/หรือ ความล่าช้าในการเริ่มดำเนินงานของกำลังการผลิตใหม่ อาจเป็นอัพไซด์ต่อราคาและส่วนต่างราคาปิโตรเคมี

- Advertisement -