บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action TRADING (Downgrade)

TP upside (downside) +10.6%

Close Oct 25, 2022 Price (THB) 20.80

12M Target (THB) 23.00

Previous Target (THB) 20.20

What’s new?

  • คาดกำไร 3Q65 ท่า New high ที่ 138 ลบ. (+ 19.2QoQ, +123.8%YoY) จากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวดี หนุนรายได้เติบโต QoQ ขณะที่ YoY มีฐานที่ต่ำทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่วน GPM ฟื้นตัวทั้ง QoQ และ YoY
  • แนวโน้มกำไร 4H65 คาดทำ New high ต่อเนื่องจากผลของฤดูกาล แต่อาจมีค่าเสื่อมราคาและดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากการเปิดโรงงานในเวียดนาม
  • คงประมาณการกำไรปี 2565-2566

Our view

  • เราคงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของ SNNP
  • แต่ด้วยราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นจากความคาดหวังเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการช่วงที่เหลือของปีนี้ ทำให้ปัจจุบันซื้อขายที่ PER65-65 สูงขึ้นเป็น 40.2 29.0 เท่า ตามลำดับ มองเป็นจังหวะ Lock-in-profit บางส่วน และสะสมอีกครั้งเมื่ออ่อนตัว โดยมีแนวรับที่ 19.50 บาท +/-
  • เราปรับไปใช้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 อยู่ที่ 23.00 บาท

SRINANAPORN MARKETING คาดกําไร New high ถึง 4Q65 แต่อยู่ในกรอบประมาณการ

คาดกำไร 3Q65 ทำ New high

คาดรายได้ 3Q65 ทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 1,449 ลบ. (+9.5%QoQ, +48.2%YoY) รายได้ในประเทศเติบโตต่อเนื่อง QoQ แม้เป็น Low season เพราะการเปิดประเทศทำให้นักท่องเที่ยวเพิ่มจำนวนมากขึ้น โดยเฉพาะเวียดนามและอินเดีย หนุนยอดขายของเบนโตะ ขณะที่ YoY มีฐานที่ต่ำจากการ Lockdown ใน 3Q64 เช่นเดียวกับตลาดต่างประเทศที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ในช่วง 3Q64 เช่นกัน แต่ QoQ ยังเติบโตได้เล็กน้อย แม้ว่า CLMV ทรงตัว แต่ประเทศเกาหลีใต้และฟิลิปปินส์เติบโตดี GPM คาดที่ 27.8% เพิ่มขึ้นจาก 26.1% ใน 2Q65 ตามการใช้กำลังกาผรลิตที่สูงขึ้น และไม่มีค่าใช้จ่ายล่วงเวลาเหมือน 2Q65 รวมถึงสินค้าที่มีการปรับขนาดให้เป็นแบบ Premiumize เริ่มมีสัดส่วนรายได้มากขึ้น ส่วนแบ่งขาดทุนจาก Siripro ลดลง ค่อนข้างช้าจากผลกระทบของน้ำท่วมกระทบการส่งสินค้าในบางพื้นที่ คาดขาดทุน 4.5 ลบ. จากขาดทุน 6.2 ลบ. ใน 2Q65 คาดกำไรสุทธิที่ 138 ลบ. (+19.2%QoQ, +123.8%YoY) ทำระดับสูงสุดใหม่

คาด 4Q65 ทำ New high ต่อ แต่ทั้งปียังอยู่ในกรอบประมาณการ

เราคาดกำไรสุทธิใน 4Q65 เบื้องต้นที่ 140 – 150 ลบ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดใหม่ต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 จากผลของฤดูกาล จะมีการบริโภคมากที่สุดจากช่วงเทศกาล และจำนวนนักท่องเที่ยวสูงที่สุดของปี พร้อมกับ GPM ที่สูงขึ้นเล็กน้อยจากต้นทุนการผลิตเริ่มลดลง อย่างไรก็ตาม จะเริ่มรับรู้ค่าเสื่ยมโรงงานในเวียตนาม ราว 4 – 5 ลบ./ไตรมาส พร้อมกับดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งหากกำไร 3Q65 ออกมาใกล้เคียงกับที่คาด จะทำให้กำไร 9M65 คิดเป็นสัดส่วน 72% ของประมาณการกำไรทั้งปีของเรา จึงยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2565 – 2566 ไว้ที่ 497 ลบ. (+48.7%YoY) และ 688 ลบ. (+38.4%YoY) ตามลำดับ

สะสมเมื่ออ่อนตัว

เราคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2565-2566 ไว้ แต่มีการปรับไปใช้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 จากเดิมสิ้น 2Q66 ได้ราคาเป้าหมายใหม่อยู่ที่ 23.00 บาท (DCF, WACC 8.4%, Terminal growth 4%) ซึ่งยังมี Upside risk จากการเปิดประเทศของจีนมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลบวกทั้งจากการท่องเที่ยว และการส่งออกไปจีน รวมถึงคาดว่ามีโอกาสสูงในการถูกคำนวณในดัชนี SET100 ในรอบปลายปีนี้ อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นปรับขึ้นค่อนข้างเร็วจากมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการช่วงที่เหลือของปีนี้ ทำให้ในปัจจุบัน ซื้อขายที่ PER65-66 อยู่ที่ 40.2 เท่า และ 29.0 เท่า ตามลำดับ ช่วงสั้นเรามองเป็นโอกาสในการ Lock-in-profit บางส่วน และทยอยสะสมอีกครั้งเมื่ออ่อนตัว โดยมีแนวรับที่ 19.50 บาท+/-

ความเสี่ยง: ต้นทุนการผลิตกลับมาเพิ่มสูงขึ้น / การชะลอตัวของเศรษฐกิจจะกระทบการบริโภคในประเทศและการท่องเที่ยว / ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจของเวียดนาม

- Advertisement -