บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action BUY (Maintain)

TP upside (downside) +27.0%

Close Oct 25, 2022 Price (THB) 17.40

12M Target (THB) 22.10

Previous Target (THB) 20.90

What’s new?

  • คาดกำไรสุทธิ 3Q65 ที่ 152 ลบ. ลดลง เล็กน้อย -6.09% QoQ จาก Low Season และฝนตกมาก แต่โตสูง 171.83% YoY จากฐานที่ต่ำในปีก่อนจาก Full Lockdown
  • แนวโน้ม 4Q65 คาดกําไรสุทธิโตทั้ง QoQ และ YoY เนื่องจากเป็น High Season, ได้แรงหนุนจากากการฟื้นตัวของจังหวัดท่องเที่ยว, และการเปิดสาขาใหม่อีก 1 แห่ง ในช่วงปลายไตรมาส

Our view

  • เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2565-2566 ขึ้นเป็น 630 ลบ. โด 38.95% YoY และ 698 ลบ. โต 10.80% YoY จากรายได้และอัตรากำไรที่ทำได้ดีกว่าคาด โดยเฉพาะการเน้นเพิ่มสัดส่วนรายได้จากค่าเช่า ขณะที่เงื่อนไขทางเศรษฐกิจยังเอื้อต่อการฟื้นตัวต่อเนื่องถึงปีหน้า โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ และการซ่อมแซมบ้านเรือนหลังน้ำลดในช่วงปลายปี
  • เราปรับไปใช้ราคาเหมาะสม 2566 บนประมาณการใหม่ได้เท่ากับ 22.10 บาท/หุ้น อิง PER เฉลี่ยในอดีต +1S.D. ที่ 16.00 เท่า

ILM คาดกำไร 3Q โตเด่น YoY แนวโน้ม 4Q ยังสวย

คาดผลประกอบการ 3Q65 ทรงตัว QoQ แต่โตเด่น YoY

คาดกำไรสุทธิ 3Q65 ลดลงเล็กน้อย -6.09% QoQ แต่โตสูง 171.83% YoY อยู่ที่ 152 ล้านบาท สาเหตุที่ปรับตัวลง QoQ เนื่องจากผลของปัจจัยฤดูกาลที่อยู่ในช่วงฤดูฝน และในปีนี้ฝนตกหนักกว่าทุกปี ทำให้ยอดขายหน้าร้านลดลง ซึ่งเป็นส่วนที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบ YoY ยังโตดีจากฐานต่ำในปีก่อนที่มีการ Lockdown ทั้งนี้คาดรายได้รวมที่ 2,159 ล้านบาท (+0.69% QoQ, +17.96% YoY) โดย SSSG (ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้า) +34.30% YoY เร่งตัวขึ้นจาก 3Q64 ที่ -16.80% YoY เช่นเดียวกับค่าเช่าที่คาดโตสูง YoY เนื่องจากไม่มีการให้ส่วนลดค่าเช่าแล้ว ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นคาดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 45.48% จาก 43.85% ใน 3Q64 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเลิกขายสินค้าอัตรากำไรต่ำอย่างเครื่องใช้ไฟฟ้า และอัตรากำไรของค่าเช่าปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ SG&A/Sales ลดลงอยู่ที่ 36.00% จาก 3064 ที่ 38.55% และทรงตัวจาก 2Q65 แม้ถูกกระทบจากการปรับตัวขึ้นของค่าไฟฟ้า แต่สามารถบริหารจัดการต้นทุนอื่นได้ดี

แนวโน้มผลประกอบการ 4Q65 ดีต่อเนื่องจาก High Season

แนวโน้ม 4Q65 คาดผลประกอบการโตทั้ง QoQ และ YoY เนื่องจากเป็นช่วง High Season รวมทั้งคาดได้แรงหนุนจากาการเปิดประเทศ ที่ช่วยหนุนกำลังซื้อในจังหวัดท่องเที่ยว ซึ่งมีสัดส่วนรายได้ราว 29% ของรายได้รวม รวมทั้งในช่วงปลายไตรมาสจะมีการเปิดสาขาใหม่ 1 สาขา ที่จะช่วยหนุนรายได้เพิ่มเติม หากกำไร 3Q65 ออกมาตามที่เราคาด กำไร 9M65 จะคิดเป็น 81% ของประมาณการเดิม ซึ่งเราประเมินว่ามี Upside เนื่องจากเราเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั้งการบริโภคภาคเอกชน และภาคการท่องเที่ยวที่ดีกว่าคาดการณ์เดิม ซึ่งมีแนวโน้มหนุนรายได้ปีนี้ ทั้งในส่วนของงานโครงการ (สอดคล้องกับการเติบโตของภาคอสังหาฯ), ยอดขายผ่านหน้าร้าน, รวมทั้งงาน OEM ต่างประเทศ ขณะที่มาตรการกระตุ้นการบริโภคของภาครัฐ เช่น ช้อปช่วยชาติหรือช้อปดีมีคืน ถ้ามีออกมาจะยิ่งหนุนยอดขายควบคู่กับมาตรการช่วยเหลือด้านการซ่อมแซมหลังสถานการณ์น้ำท่วมคลายตัว ดังนั้น เราจึงปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 เป็น 630 ล้านบาท โต 38.95% YoY และปรับปี 2566 ขึ้นเป็น 698 ล้านบาท โต 10.80% YoY จากแรงส่งด้านการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ดีกว่าปีนี้ และนโยบายการขยายสาขาของบริษัท ปีละ 1-2 แห่ง

Valuation ไม่แพงเมื่อเทียบกลุ่ม ปรับราคาเหมาะสมขึ้นเป็น 22.10 บาท

เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยปรับไปใช้ราคาเหมาะสมปี 2566 บนประมาณการใหม่ได้เท่ากับ 22.10 บาท/หุ้น อิง PER เฉลี่ย +1S.D. ที่ 16 เท่า ในเชิง Valuation ถือว่าไม่แพง ราคาปัจจุบันซื้อขายบน PER ปี 2566 ที่ 13 เท่า เทียบกับกลุ่มที่ 21-30 เท่า และมีปันผลสม่ำเสมอราว 3-4% ต่อปี

- Advertisement -