บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action SELL (Maintain)

TP upside (downside) -23.4%

Close Oct 25, 2022 Price (THB) 666.00

12M Target (THB) 510.00

Previous Target (THB) 460.00

What’s new?

  • DELTA รายงานกําไรสุทธิ 3Q65 ที่ 4.1 พันล้านบาท แต่หากตัดรายการพิเศษกำไรปกติจะอยู่ที่ 3.9 พันล้านบาท (-1% QoQ, +179% YoY)
  • ปรับเพิ่มประมาณการปี 2565/66 เป็น 1.35 หมื่นล้านบาท (+122% YoY) และ 1.62 หมื่นล้านบาท (+20% YoY) ตามลำดับ หลักๆ จากการปรับการเติบโตของยอดขายและค่าเงินบาท/USD

Our view

เราปรับราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 เป็น 510.00 บาทต่อหุ้น อิง PER 39X, เทียบเท่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี (ปรับลดจากเดิมให้ +0.25SD เพื่อสะท้อนความเสี่ยงจาก Global Recession ที่สูงขึ้น) ปัจจุบัน DELTA ซื้อ ขาย บน PER66 ที่ 51x สูงกว่ากลุ่มอย่างมีนัยสำคัญ และไม่เหลือ Upside ให้นักลงทุน

DELTA ELECTRONICS กำไรปกติเติบโตเด่น YoY เป็นไตรมาสที่สองติดต่อกัน

กำไรปกติ 3Q65 ทรงตัว QoQ แต่เติบโตเด่น +179% YoY

DELTA รายงานกำไรสุทธิ 3Q65 ที่ 4.1 พันล้านบาท แต่หากตัดกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 215 ล้านบาท กำไรปกติอยู่ที่ 3.9 พันล้านบาท (-1% QoQ, +179% YoY) In-line กับคาดการณ์ของตลาด สรุปดังนี้

1) รายได้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ทำได้ราว 849 ล้านเหรียญ (+5% QoQ, +32% YoY) รายได้เติบโตเด่น YoY จากฐานต่ำในปีก่อนที่เจอปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบในการผลิต ขณะที่ภาพ QoQ การเติบโตของรายได้หนุนจากยอดขายของสินค้า Power Electronic Group ที่เติบโตราว 9% QoQ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้ากลุ่ม Data Center, Server & Cloud Storage

2) อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 23.3% (-176bps QoQ, +405bps YoY) การทำกำไรขั้นต้นกลับสู่ระดับปกติ หลังจากใน 2Q65 ทำได้ดีกว่าค่าเฉลี่ย ส่วนการทำกำไรที่ดีขึ้น YoY ได้แรงหนุนจากการเติบโตของยอดขายสินค้ากลุ่ม Data Center ที่มีการทำกำไรสูง อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากค่าเงินบาท/USD ที่อ่อนค่า

3) SG&A อยู่ที่ 3.5 พันล้านบาท (+12% QoQ, +26% YoY) และ SG&A to sale อยู่ที่ 11.2% ดีกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ทำได้ราว 14%

ผลประกอบการออกมาดีกว่าคาด ทำให้เราปรับเพิ่มประมาณการปี 2565/66

กำไร 9M65 คิดเป็น 99% ของประมาณการกำไรปกติปี 2565 เดิมของเราที่ 1.0 หมื่นล้านบาท ขณะที่แนวโน้ม 4Q65 ซึ่ง Guidance จากบริษัทฯ คำสั่งซื้อจากลูกค้ายังแข็งแกร่ง ยอดขายยังเติบโต YoY ทำให้ประมาณการปี 2565 ของเรามี Upside Risk ดังนั้นเราปรับเพิ่มประมาณการปี 2565 เป็นกำไรปกติ 1.35 หมื่นล้านบาท (+122% YoY) จากเดิมคาด 1.01 หมื่นล้านบาท (+67% YoY) หลักๆ จาก 1) การปรับเพิ่มสมมติฐานการเติบโตของยอดขายสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น +20% YoY จากเดิมที่คาด +10% YoY และ ii) ปรับสมมติฐานค่าเงินบาท/USD ขึ้นเป็น 35.50 ขณะที่ประมาณการปี 2566 เราปรับเพิ่มกำไรปกติเป็น 1.62 หมื่นล้านบาท (+20% YoY) จากเดิมคาด 1.22 หมื่นล้านบาท (+21% YoY) หลักๆ เป็นผลจากการปรับเพิ่มการเติบโตของยอดขายในปี 2565 และการปรับเพิ่มสมมติฐานค่าเงินบาท/USD

แจ้งตลาดเรื่องการจัดซื้อที่ดินเพิ่มเติมในนิคมบางปู

DELTA แจ้งตลาดถึงมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เรื่องการจัดซื้อที่ดินขนาด 37 ไร่ 3 งาน 78 ตร.วา ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ เพื่อใช้เป็นโรงงานผลิตและคลังเก็บสินค้าเพื่อรองรับการเติบโตทางธุรกิจของบริษัท มูลค่ารายการราว 380 ล้านบาท โดยจะใช้แหล่งเงินทุนจากเงินหมุนเวียนจากการดำเนินของบริษัท โดยที่ DELTA มีเงินสดในมือสูงราว 1.1 หมื่นล้านบาท เรามองว่าไม่มีผลกระทบด้านการเงินจากการลงทุนดังกล่าว เราคาดเบื้องต้นว่าพื้นที่ดังกล่าวมีโอกาสใช้ในการขยายกำลังการผลิตสินค้ากลุ่ม Data Center หรือ EV ต้องรอการยืนยันจากบริษัทอีกครั้งในประชุมนักวิเคราะห์ช่วงเช้าวันนี้

ปรับเพิ่มราคาเหมาะสมเป็น 510.00 บาทต่อหุ้น แต่คงคำแนะนำ “ขาย”

เราปรับราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 เป็น 510.00 บาทต่อหุ้น แต่ปรับลด PER ลงเป็น 39x หรือเทียบเท่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี (จากเดิมให้ +0.25SD) เพื่อสะท้อนความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกที่มีโอกาสเกิด Global Recession สูงขึ้น ถึงแม้ว่าในปี 2566 เราคาดว่าการเติบโตของสินค้าเด่นของ DELTA อย่าง Data Center และ EV จะยังคงมีอยู่แต่จะเติบโตได้น้อยลงกว่าที่ทำได้ในปี 2565 จากฐานที่สูง และความท้าทายจากปัจจัยมหภาค อีกทั้งปัจจุบัน DELTA ซื้อขาย บน PER66 ที่ 51x สูงกว่ากลุ่มอย่างมีนัยสำคัญ และไม่เหลือ Upside ให้นักลงทุน ทำให้เราคงคำแนะนำ “ขาย”

เชิงกลยุทธ์ นักลงทุนที่สนใจลงทุน DELTA ควรรอราคาหุ้นอ่อนตัว เราประเมินราคา +/- 450 บาทต่อหุ้น เป็นจุดที่น่าสนใจเข้าสะสม

ความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ ค่าเงินบาท/USD และการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

- Advertisement -