Our View? “ยังไหว”

คาดตลาดวันนี้ “Sideway/ Sideways Up” มองแนวรับที่บริเวณ 1,595 /1,587 และแนวต้านที่บริเวณ 1,610 / 1,618 เราคาดตลาดอาจแกว่งตัวออกด้านข้างเพื่อรอดู 1.) การรายงานตัวเลข GDP 3Q’65 ของสหรัฐ โดยล่าสุดธนาคารกลางสหรัฐ (FED) สาขาแอตแลนตาเปิดเผยแบบจำลอง GDPNow คาดเศรษฐกิจ 3Q′65 จะเติบโต 3.1% ขณะที่ตลาดคาดจะออกมาที่ระดับ 2.4% QoQ รอดพ้นภาวะ Technical Recession ไปได้ชั่วคราว 2.) การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% เพื่อสกัดการเร่งตัวขึ้นของอัตราเงินเฟ้อในวันที่ 27 ต.ค. นี้ คาดอาจะไม่ส่งผลต่อตลาดมากนัก และ 3.) การประชุม FOMC ของ FED ในวันที่ 12 พ.ย. นี้ คาดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.75% ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 4 แต่ให้ติดตามท่าทีของนายเจอโรม พาวเวล ประธาน FED และ Dot-plot ของ FED ถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในระยะถัดไป คาดจะส่งผลให้ตลาดผันผวน จำกัด Upside ของตลาดได้บ้างในระยะสั้น

อย่างไรก็ดี เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการที่ Dollar Index เริ่มวกตัวลง สะท้อนการเปิดรับความเสี่ยงที่มากขึ้นของตลาด (Risk-on) โดยล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ที่บริเวณ 109.7 +/- ทำจุดต่ำสุดใหม่ในภาพระยะสั้น หลังไม่สามารถขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ได้ก่อนหน้า พร้อมทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (US Bond Yield) รุ่นอายุ 2 และ 10 ปี รับตัวลงต่อเนื่อง โดยล่าสุดอยู่ที่ระดับ 4.41% และ 4.00% ตามลำดับ จากการที่ตลาดเริ่มคาดการณ์ FED อาจชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ยในช่วงเดือน ธ.ค. หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มชะลอตัวลง รวมทั้งผลประกอบหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐออกมาค่อนข้างแย่กว่าที่ตลาดคาดไว้ โดยล่าสุด CME FEDWatch Tools บ่งชี้ตลาดเริ่มลดน้ำหนักคาดการณ์ขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. เหลือเพียงการขึ้นที่ระดับ 0.50% ที่นํ้าหนัก 51.0% จากเดิมคาดจะขึ้นที่ระดับ 0.75% เป็นครั้งที่ 5 ติดต่อกัน คาดจะหนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงฟื้นตัวกลับขึ้นได้ต่อไป

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ธ.ค. ฟื้นตัวขึ้นได้ดีปิดที่ระดับ 87.91 ดอลลาร์/บาร์เรล +2.59 ดอลลาร์ หรือ +3.04% ตามการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด โดยสต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐลดลง 1.47 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดราวลดลง 1.03 ล้านบาร์เรล อีกทั้งราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐเช่นกัน คาดวะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มพลังงานฟื้นตัวขึ้นหนุนตลาดได้

ในส่วนของปัจจัยในประเทศ เราคาดตลาดยังคงให้ความสนใจกับการเปิดเผยผลประกอบการในช่วง 3Q/65 โดย Bloomberg Consensus คาดจะอยู่ที่ระดับ 105.0+/- บาท/หุ้น เร่งตัวขึ้นจากช่วงเดือนก่อนที่ระดับ 104.0+/- สะท้อนตลาดเริ่มปรับประมาณการผลประกอบการ 3Q65 อาจออกมาดีกว่าคาดการณ์เดิม มองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นไทยได้บ้าง ทั้งนี้เรายังมีมุมมองมองเชิงบวกบวกต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง (HMPRO, GLOBAL, DOHOME และ TASCO) และหุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, CRC, MAKRO และ BJC) จากแนวโน้มการออกจบเยียวยาน้ำท่วมหลังสถานการณ์ดังกล่าวเริ่มผ่อนคลายลง รวมทั้งแนวโน้มการออกมาตรการรัฐอาทิช็อปดีมีคืนในช่วงปลายปี คาดจะหนุนทิศทางราคาฟื้นตัวกลับขึ้นได้ต่อ

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “SHR”

กลยุทธ์ย่อซื้อ แนวรับ 3.54 13.48 Target 3.74 / 3.88 Stop <3.42

- Advertisement -