KS Daily View 27.10.2022 > Fed เริ่มชะลอใช้นโยบายการเงินตึงตัว บวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง/ Dollar อ่อนค่า บวกต่อ Fund Flow SET คาดวันนี้แกว่งตัว 1585-1610 จุด หุ้นแนะนำ CK, ORI

ประเด็นที่เกิดขึ้นเมื่อวาน

ต่างประเทศ: ตลาดหุ้นสหรัฐโดยดัชนี Dow Jones +0.01%, NASDAQ -2.04%(หลังจากบริษัท Tech อาทิ Microsoft, Alphabet  รายงานงบงวด 3Q22 ออกมาต่ำคาดกดดันหุ้น Tech พักฐานแรง KS ประเมินเป็น Sentiment ลบต่อหุ้น อาทิ กลุ่ม Tech Consult ไทย, กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์)  โดย Sector ในดัชนี S&P500 กลุ่มที่ปรับขึ้นมากที่สุดคือ กลุ่ม Energy+1.4%(ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ อิง Brent  +2.3%ปิดที่ 95.69 ดอลลาร์/บาร์เรล หนุนจากรายงานสต็อกน้ำมันเบนซินสหรัฐที่ออกมาลดลงฯลฯ ประเมินเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นกลุ่มน้ำมัน อาทิ  PTTEP, PTT), กลุ่มHealth Care +1.12% ฯลฯ  ส่วนกลุ่มที่ปรับลงแรงหลักๆคือ Communication Services -4.75%, IT -2.2%

ในประเทศ : SET Index เมื่อวานปิด 1596.4 จุด(-0.26%DoD) Sector ที่ปรับลงคือ กลุ่มค้าปลีกน้ำมัน  OR -4.1%, กลุ่มส่งออก TU -2.1%  ส่วนกลุ่มที่ปรับขึ้นนำโดยกลุ่มอสังหา AP+6.3%, SPALI +3.45%, ANAN +2.7%, กลุ่มท่องเที่ยว MINT+4.63%, SHR +3.5%

ประเด็นที่ต้องติดตาม:  ประเด็นสำคัญ คือ

1.) การรายงานผลประกอบ 3Q22 ของไทยฝั่ง Real sector อาทิ  TU(คาด 2,180 ลบ. 34.3%QoQ, +12.6%YoY), THCOM(ตลาดคาด 80 ลบ.-74.1% QoQ, -45.1%YoY), ADVANC(คาด 5,553 ลบ.-11.9%QoQ, -12.9%YoY) ฯลฯ

2.) ติดตามทิศทางค่าเงินบาท/ดอลลาร์กลับมาแข็งค่าต่อเนื่องลงมาอยู่บริเวณ 37.7 บาทต่อดอลลาร์ (KBANK คาดค่าเงินบาทสิ้นปีอยู่ที่ 37.5 บาท) ผลจากทิศทาง Dollar ที่อ่อนค่า และเมื่อวานไทยประกาศดุลการค้าออกมา USD-0.8bnขาดดุลการค้าลดลงและดีคาดเทียบกับ USD-2.9bn BB ประมาณการณ์/ USD-4.2bn ในเดือนก่อนหน้า) โดยเงินบาทที่แข็งค่าทำให้หุ้นในกลุ่มส่งออกเมื่อวานถูก Take Profit อาทิ  TU, GFPT, KCE ฯลฯ ระยะสั้นแนะนำชะลอลงทุน   แต่ในทางตรงข้ามจะบวกต่อหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า  โดยทุกๆ 1 บาทที่แข็งค่าจะบวกต่อ Bottom line ของ BGRIM +9.9%, EGCO +8.4%, GULF+6.9%   โดยหุ้นที่แนะนำ เราแนะนำ BGRIM (นอกจากได้ประโยชน์จากเงินบาทที่แข็งค่า ยังมีปัจจัยหนุนจากทิศทางราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวลงต่อ  โดยราคาก๊าซ LNG นำเข้าลดลงมากกว่า 50% จากระดับสูงสุด

กลยุทธ์การลงทุน : KS ยังคงมุมมองบวกในช่วงที่เหลือของปีนี้ต่อสินทรัพย์เสี่ยง อาทิ ตลาดหุ้นโลก, Crypto currency  และตลาดหุ้นไทย  ประเมินเริ่มเห็นจุดต่ำสุดและคาดไม่ทำ New Low  โดยปัจจัยแวดล้อมที่เป็น Key สำคัญคือ หากทิศทาง Dollar มีแนวโน้มอ่อนค่าต่อจะบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง  โดยปัจจัยหนุนมาจาก

1.) ตลาดได้ Price In ประเด็นเรื่องประชุม Fed ขึ้นดอกเบี้ยไปมากแล้ว  หลังจากเงินเฟ้อเริ่มปรับลง  โดยการประชุมรอบ 1-2 พ.ย. คาดจะขึ้นดอกเบี้ย 75bps และหลายธนาคารกลางสำคัญเริ่มส่งสัญญาณชะลอการขึ้นดอกเบี้ย อาทิ ล่าสุด คือ ธนาคารกลางแคนาดาขึ้นดอกเบี้ย 50 bps อยู่ที่ 3.75%(ต่ำกว่าที่ตลาดคาดจะขึ้น 75 bps)  ทำให้คาดการณ์ว่าธนาคารกลางอื่นๆจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในทางเดียวกัน     ส่วนประเด็นที่จะกำหนดทิศทาง  Dollar หลังจากนี้คือ

1.) Core PCE Price Index ของสหรัฐฯ เดือน ก.ย.

2.) การประชุม Fed  1-2 พ.ย. ตลาดคาดขึ้นดอกเบี้ย 75bps

3.) ผลการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ 4.) การประชุม G20

คำแนะนำในหุ้น คือ เน้นลงทุนกลุ่ม Domestic Play กลุ่มที่แนะนำสะสม คือ AMANAH, PLANB, CK ORI  ส่วนหุ้นที่แนะนำลงทุนในช่วงก่อนหน้า อาทิ TTB, SNNP เรายังแนะนำให้ let profit run

ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้คาด 1585-1610 จุด หุ้นแนะนำ CK, ORI

Top pick :

  • CK (ราคาทางพื้นฐาน 30.87 บาท)

1.) แนวโน้มกำไรสุทธิงวด 3Q22 ที่สดใสของ CK  เราคาดว่าบริษัทฯ จะรายงานกำไรปกติที่ 549 ลบ. เพิ่มขึ้น 98.0% YoY และ 83.3% QoQ หนุนจากการเริ่มงานในมือที่เพิ่งเซ็นสัญญา ,รายได้เงินปันผลจาก TTW และส่วนแบ่งกำไรจาก CKP และ BEM ที่ 701 ลบ. เพิ่มขึ้น 62.5% YoY และ 49.7% QoQ จากการฟื้นตัวขึ้นของปริมาณจราจรบนทางด่วนและผู้โดยสารรถไฟฟ้าในไตรมาส 3/2565 และช่วงไฮซีซั่นของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำของ CKP

2) CK ส่งต่อเงินปันผลที่สูงขึ้นจากบริษัทในเครือให้กับผู้ถือหุ้นซึ่งจะส่งผลให้ช่องว่างของ holding discount ลดลง

  • ORI (ราคาทางพื้นฐาน 13.2 บาท) คาดกำไรงวด 3Q22 จะเติบโต YoY เราชอบ ORI จากแนวโน้มการเติบโตที่โดดเด่นของธุรกิจที่อยู่อาศัย แต่ยังมีทิศทางที่ชัดเจนในการสร้างธุรกิจใหม่ทั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์เพื่อเพิ่มมูลค่าในระยะยาว ภายในสิ้นปี 2565 คาด ORI จะประสบความสำเร็จในการจดทะเบียนบริษัทในเครือสองแห่งในตลาดหุ้น (Primo Service Solution: PRI) จะเข้าจดทะเบียนใน MAI ในไตรมาส 4/2565 ต่อจาก BRI ในไตรมาส 4/2564 สิ่งนี้สนับสนุนแผนระยะยาวอย่างต่อเนื่องของ ORI เพื่อปลดล็อกและเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัทในเครือโดยการเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น โดย One Origin (ธุรกิจที่มีฐานรายได้ประจำ) และ Alpha (ผู้พัฒนาคลังสินค้า) จะเป็นบริษัทย่อยสองแห่งถัดไปของ ORI ที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ในมุมมองของเราปัจจุบัน ORI จึงซื้อขายในระดับราคาที่ค่อนข้างต่ำหรือ PER ปี 2565 เพียง 6.2 เท่า และ DY ปี 2565 น่าดึงดูดที่ 6.6%

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันพฤหัสฯ ติดตามตัวเลข GfK Consumer Confidence ของเยอรมัน เดือน พ.ย. คาด -41.8 จุด (ดีขึ้นจากระดับ -42.5 จุดเดือนก่อนหน้า) การประชุมธนาคารกลางยุโรปคาดปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย (Deposit Facility RAte) 75bps. เป็น 1.5% ถ้อยแถลงของ ECB President Lagarde ตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. คาด +0.5% MoM ตัวเลข GDP 3Q22 ของสหรัฐฯ คาด +2.1% (ดีขึ้นจาก 2Q22 ที่ -0.6%) ตัวเลข Initial Jobless Claim ของสหรัฐฯ รายสัปดาห์คาด +223K (เทียบสัปดาห์ก่อนที่ +214K)
  • วันศุกร์ ติดตาม การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นคาดคงดอกเบี้ยนโยบายที่ -0.1% ถ้อยแถลงของ BOJ Kuroda ตัวเลข GDP 3Q22 ของเยอรมันคาด -0.2% QoQ และ +0.8% YoY ตัวเลข GDP 3Q22 ของฝรั่งเศสคาด +0.2% QoQ และ +1.0% YoY ตัวเลขเงินเฟ้อของเยอรมันเดือน ต.ค. คาด +10.1% YoY (ทรงตัว จากเดือนก่อนที่ +10% YoY) ตัวเลข Personal Income ของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. คาด +0.4% MoM ตัวเลข Personal Spending ของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. คาด +0.4% MoM ตัวเลข Core PCE Price Index ของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. คาด +0.5% MoM และ +5.2% YoY และตัวเลข Pending  Home Sales ของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. คาด -5% MoM
- Advertisement -