บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Global Power Synergy (GPSC.BK/GPSC TB)*

ประมาณการ 3Q65F: สู้กับต้นทุนพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น

Event

ประมาณการ 3Q65, ปรับลดประมาณการกำไรเต็มปี และราคาเป้าหมาย

Impact

ประมาณการ 3Q65F – น่าจะแย่กว่าที่ตลาดคาดเอาไว้ก่อนหน้านี้

GPSC จะส่งงบในวันที่ 9 พ.ย. ซึ่งเราคาดว่ากำไรสุทธิใน 3Q65 จะอยู่ที่ 330 ลบ. (-52% QoQ, -82% YoY) และกำไรหลักจะอยู่ที่ 957 ลบ. (-13% QoQ, -58% YoY) เนื่องจากไม่มีกำไรหลังหักภาษี 288 ลบ. จากการ โอนธุรกิจแบตเตอรี่ใน 2Q65 และ GPM ลดลงมาอยู่ที่ 2.5% (จาก 5.4% ใน 2Q65) จากราคาก๊าซและถ่านหินแกว่งขึ้นไปอยู่ที่ 550 บาท/mmbtu (+27% QoQ) และ US$370/ton (+80% QoQ); ii) เป็นช่วงฤดูฝน และ iii) SRC IPP มีแผนจะปิดซ่อมบำรุง (26 วัน) แม้ว่าจะมีปัจจัยบวกจากการขึ้นค่า Ft เฉลี่ยเป็น 0.4766 บาท/kWh (+0.3068) และอัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงไฟฟ้า IPPs สูงขึ้น โดยใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทในเครือจะเพิ่มขึ้น 46% QoQ เนื่องจากผลการดำเนินงานของ XPCL แข็งแกร่งขึ้น ในขณะที่ผลขาดทุนจาก Avaada อาจจะทรงตัวเพราะผลกระทบจากฤดูฝน หักล้างไปกับ operating capacity ที่เพิ่มขึ้น (+320MWe) และค่าใช้จ่าย amortization ที่ลดลง

ปรับลดประมาณการกำไร เพื่อสะท้อนผลการดำเนินงานที่อ่อนแอเกินคาด และต้นทุนดอกเบี้ย

เราปรับลดประมาณการกำไรหลักปี 2565-2567 ลง 6-24% จาก margin ลดลงในปี 2565 และดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นในปี 2565-2567 ทั้งนี้ ประมาณ 10% ของหนี้ GPSC ปัจจุบันเป็นสกุล USD ขณะที่ ~30% ของหนี้คิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัว ซึ่งอิงกับ THOR และ BIBOR เราคาดว่ากำไรหลักจะดีดกลับในปี 2566-67F โดยจะโตถึง 68% YoY / 27% YoY ตามลำดับ จากราคาก๊าซและถ่านหินลดลง และมีกำลังการผลิตใหม่เพิ่ม ทั้งนี้ Asia JKM LNG ซึ่งขึ้นไปสูงสุดที่ US$70/mmbtu กลับลงมาอยู่ที่ US$30/mmbtu แล้ว ซึ่งอาจจะทำให้ภาวะของ GPSC ดีขึ้น และส่งผลดีกับบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2566

คาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักใน 4Q65 จะทรงตัว ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นแรงในปี 2566

เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 4Q65 จะสูงที่สุดในปี 2565 เพราะจะมีค่าสินไหมประกัน ≥20 ล้านดอลลาร์ฯ จากโครงการ GE เฟสที่ 5 แต่กำไรจากธุรกิจหลักจะยังซบเซาอยู่ เพราะราคาก๊าซเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น 588-600 บาท/mmbtu (+7-9% QoQ) และราคาถ่านหินยังสูงอยู่ ในขณะที่ SG&A เพิ่มขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล และอุปสงค์การใช้สาธารณูปโภคลดลง ส่วนผลการดำเนินงานของ XPCL ก็ยังอ่อนแอลงอีก อย่างไรก็ตาม เราคิดว่าปัจจัยบวกที่จะมาช่วยชดเชยปัจจัยลบข้างต้นคือผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งขึ้น ของ Avaada ค่า Ft เฉลี่ยที่ขยับเพิ่มขึ้นเป็น 0.9343 บาท/kWh (+0.46) ทั้งนี้ ค่า Ft ที่เพิ่มขึ้นทุก ๆ 1 สตางค์/mmbtu จะทำให้กำไรสุทธิเต็มปีของ GPSC เพิ่มขึ้น 60 ล้านบาท

Valuation & Action

เรายังแนะนำ ซื้อ แต่ปรับลดราคาเป้าหมาย DCF เหลือ 74 บาท จากเดิมที่ 79 บาท เราแนะนำให้นักลงทุนมองข้ามไปยังการฟื้นตัวของกำไรในปี 2566 แม้คาดว่าตลาดจะปรับลดประมาณการกำไรลงบ้าง เราคิดว่าราคาหุ้นน่าจะสะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว และจากแผน PDPs ใหม่ที่กำลังจะออก รวมถึงราคาพลังงานที่กำลังกลับทิศ อัตราพันธบัตร และค่าเงินบาท เราจึงคาดว่าหุ้นน่าจะถูก rerate ในระยะต่อไป

Risks

ปิดซ่อมบำรุงนอกแผน, เกิดปัญหา cost overruns, ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และอัตราดอกเบี้ย

- Advertisement -