รอบด้านตลาดหุ้น: วันนี้คาดดัชนี เปิดยืน ลบอย่างมากไม่เกิน 5 จุด
Market wrap & Outlook
- วานนี้ตลาดเจอ Trick or treat บวกมาดีๆเป็น 10 จุด KBANK BBL PTTEP BANPU TOP ADVANC MAKRO AWC (หุ้นบวกแรง BBIK SABUY BRR JWD DPAINT) เจอหุ้นลบกดดัน เช่น DELTA WA BDMS GULF CPF จนดัชนีลงมาที่เดิม
- วันนี้คาดดัชนี เปิดยืน ลบอย่างมากไม่เกิน 5 จุด คาด 1600 จุด เอาอยู่ กลยุทธ์แนะเลือกซื้อหุ้น Buy ahead the fact-ผลการประชุมเฟด โดยเราให้น้ำหนัก
1) ประเด็นการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดรอบนี้ 0.75% และขึ้นอีกเพียง 0.5% ในการประชุมครั้งสุดท้ายของปี จะไม่สร้าง Negative shock ต่อบรรยากาศกาศลงทุนช่วงนี้ หรือแม้แต่
2) การทยอยยกเลิกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงโควิดที่ผ่านมา เราก็มองว่าไม่กระทบต่อบรรยากาศลงทุน เช่น กลุ่มแบงก์-การกลับมานำส่งเงินเข้ากองทุน FIDF ตามเรตเดิม 0.46% ปีหน้า ก็พบว่าไม่ได้กระทบต่อทิศทางราคาหุ้นกลุ่มแบงก์แต่อย่างใด เช่นเดียวกับกลุ่มอสังหาฯ การยกเลิกมาตรการผ่อนคลาย LTV เราก็มองว่าจะไม่กระทบต่อราคาหุ้นกลุ่มอสังหาอย่างมีนัยยะ เพราะสินเชื่อช่วงที่มีมาตรการช่วยเหลือก็ ยังปล่อยกันได้ตามปกติ
- วันนี้กลยุทธ์แนะเลือกเล่นหุ้นตาม Earning momentum เป็นการซื้อดักหุ้นที่จะรายงานผลประกอบการที่มี Earnings downside risk ต่ำ
What to watch
- การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ คาดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% กรอบล่าง 3.75% และกรอบบน 4% พร้อมทั้งส่งสัญญาณผ่อนคลายมากกว่าเดิม
- วันนี้คาดรายงาน ISM ภาคการผลิตของสหรัฐจะยังเกาะระดับ 50 จุด สอดคล้องกับ GDP ไตรมาส 3 ที่เพิ่งประกาศไปดีกว่าคาด ซึ่งจะทำให้ตลาดคลายกังวลกับกระเด็นเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย / วันศุกร์ตัวเลข CPI ไทย ตลาดคาด +6.6% YoY (เดือนที่แล้ว +6.41% YoY)
- สรุปผลการดำเนินงาน 3Q22 บจ.ที่เราศึกษาประกาศไปแล้ว 16 บจ.พบงบดีกว่าคาด 8 บริษัทฯ (คิดเป็น 50%) และ 1 บจ.ที่กำไรต่ำคาด (6%) ที่เหลือ 7 บริษัทตามคาด (44%) โดยมี 5 บริษัทที่มี Earnings upward revision และมีเพียง 2 บริษัทที่มีการปรับคาดการณ์กำไรลง
- รายงานผลประกอบการสัปดาห์นี้วันอังคาร TFM พุธ THCOM พฤหัสฯ ADVANC LPN ศุกร์ GPSC INTUCH RCL
หุ้นแนะนำวันนี้
- ADVANC คาดกำไรไตรมาสนี้ราว 6 พันล้านบาท ทรงๆเทียบไตรมาสที่แล้ว แต่ ไตรมาส 4 กำไรฟื้นแถมมี Upside จาก การใช้งานคลื่น 700MHz ที่ร่วม JV กับ NT
Tactical Portfolio – Add ADVANC
- วันนี้ เราเพิ่ม ADVANC เข้าพอร์ตของคุณวิกิจ โดยปัจจุบันมีหุ้นในพอร์ตทั้งหมด 10 ตัว น้ำหนักการลงทุน 85% สรุปผลตอบแทนพอร์ต YTD พอร์ตเรา -8.10% (รวมเงินปันผลอยู่ที่ -6.40%) เทียบกับตลาดที่ผลตอบแทน -2.95%
Technical monthly report: November 2022 – SET (month) สูตรกลับตัวขาขึ้น!
- ภาพรวมเดือนพ.ศ. SET Index ปิด 1,608.76จุด ผลตอบแทนรายเดือน +3% ขณะที่วอลุ่มซื้อขายเฉลี่ยลดลงมาอยู่ที่ 5.7 หมื่นล้านบาท ต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2022 โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ 1,619 จุด และจุดต่ำสุดที่ 1,553 จุด….ปิดใกล้ high!
- “สถานการณ์ปัจจุบัน” SET Index ภาพรายเดือนเปิดต่ำ แต่!ปิดสูง สู้ที่โซนรับ “support” (ไม่หลุด) ส่งผลให้โครงสร้างระยะกลางยังคงทิศทางขาขึ้น จับตากราฟแท่งเทียนปิดสวย! Hammer อาจทำให้มีโอกาสไปต่อ!
- แนวโน้มตลาด: ภายหลังจากเจอมรสุมข่าวร้าย เศรษฐกิจโลกชะลอตัว เงินเฟ้อพุ่ง ตลาดหุ้นโลกลงแรงอย่างไรก็ตามเราคาดว่าตลาดได้ซึมซับกับข่าวร้ายไปบ้างแล้ว ส่งผลให้ดัชนีเริ่มรีบาวด์ในเดือนต.ค ส่วนเดือนใหม่นี้มองดัชนีจะฟื้นตัวขึ้นต่อ! โซนรับ 1600 จุด ต้าน 1,650 (base case) และ 1,680(bull case)สิ่งสำคัญการเลือกเฟ้นหาหุ้นที่สามารถสู้ตลาด ขึ้นได้ดีกว่า หากแพ้ก็ลงไม่เยอะ
- กลยุทธ์เทคนิค: วิธีสแกนหุ้น เลือกโดยใช้กราฟรายเดือน ราคายังไม่ขึ้นมากนัก ขณะที่ Price pattern….เริ่มส่งสัญญาณกลับตัว ขาขึ้นนับ 1 พร้อมเงื่อนไขโมเมนตัม ดูจากวอลุ่มเข้า! + Momentum EMA บ่งชี้รูปแบบกระทิง
- หุ้นแนะนำประจำเดือน……BUY “BBL, CPN, AAV และ AP”
Global Investing Brief : หุ้นสหรัฐฯ ปิดลบ ก่อนเริ่มประชุม Fed คืนนี้
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ
- เมื่อคืนนี้ 3 ดัชนีปิดลบ โดยดัชนี DJIA -0.4%, S&P 500 -0.7% และ Nasdaq -1.2% กดดันโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี Microsoft (MSFT) -1.6%, Apple (AAPL) -1.5%, Alphabet (GOOGL) -1.8% หลัง bond yield สหรัฐฯ อายุ 2 ปี ปรับขึ้นสู่ 4.5% จากระดับ 4.3% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนเริ่มการประชุม FOMC ในคืนนี้ โดยปัจจุบัน ตลาดให้โอกาสราว 89% ที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน โดย Morgan Stanley มองว่า Fed อาจเริ่มลดระดับการเร่งขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค. 65 เป็นต้นไป
- Reuters รายงานว่ากำลังการผลิตอุปกรณ์ของ Apple (AAPL) ในเดือน พ.ย. ที่โรงงานเมืองเจิ้งโจว ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงงานหลักของ Foxconn ผู้ผลิตอุปกรณ์รายใหญ่ของ Apple อาจลดลงมากถึง 30% จากผลกระทบเรื่องการปิดโรงงานตามมาตรการล็อกดาวน์ของทางการจีน โดยทั้ง 2 บริษัทมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตในโรงงานเมืองเซินเจิ้นแทน เพื่อบรรเทาความกังวลดังกล่าว ด้าน Bloomberg Consensus ให้ TP ที่ $178.66
ตลาดหุ้นฮ่องกง
- เมื่อวานนี้ ดัชนีฮั่งเส็งปิดลบ 1.1% กดดันโดย Ping An (2318) -3.2%, Alibaba (9988) -0.5% ขณะที่ AIA (1299) +2.6% หลังดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตเดือน ต.ค. ปรับตัวลงแตะระดับ 49.2 ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 49.7 สะท้อนว่าภาคการผลิตของจีนอยู่ในสภาวะชะลอตัว นอกจากนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจีนปรับสูงขึ้น 2,105 ราย ในวันเสาร์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจากวันศุกร์ที่มีผู้ติดเชื้อใหม่ 1,658 ราย โดยทางการจีนประกาศให้ประชาชนกว่า 1.3 ล้านคนในเขตหยางปู่ที่เมืองเซี่ยงไฮ้ เข้าตรวจหาเชื้อ และต้องกักตัวจนกว่าจะทราบผล
- Alibaba (9988) เผยว่ายอดพรีอออเดอร์สินค้าในงาน “2022 double 11 shopping festival” เทศกาลที่ใหญ่ที่สุดในปี 65 มีอัตราการเติบโตสูงในระดับสองหลัก โดยได้แรงหนุนจากการตลาดแบบสตรีมมิ่งของอินฟลูเอนเซอร์เป็นหลัก ซึ่งช่วยดึงดูดผู้ใช้ให้มียอดสั่งซื้อในแต่ละคำสั่งซื้อมากขึ้น ด้านคาดการณ์ Bloomberg Consensus เผยว่างานดังกล่าวจะหนุนรายได้ใน F3Q66 (ต.ค.-ธ.ค. 65) โตที่ 7%YoY พร้อมให้ TP ที่ HKD137.18
ตลาดหุ้นเวียดนาม
- เมื่อวานนี้ ดัชนี VN ปิดบวก 0.1% นำโดย VHM +0.2%, CTG +2.3%, BID +2.2% ด้านทางการเวียดนามคาดการณ์ว่ายอดการส่งออกข้าวของเวียดนามในช่วง 10M65 จะเพิ่มขึ้น 17.2%YoY สู่ระดับ 6.1 ล้านตัน ส่งผลให้รายได้จากการส่งออกข้าวในช่วงเวลาดังกล่าวเพิ่มขึ้น 7.4%YoY สู่ $2.7bn ซึ่งมีแนวโน้มว่ายอดการส่งออกข้าวปี 65 จะสูงกว่าเป้าหมายของทางการที่ตั้งเป้าไว้ที่ 6.5 ล้านตัน
- VRE เผยงบ 3Q65 รายได้เพิ่มขึ้น 155%YoY แตะ VND2.0tn และกำไรโตถึง 3,171%YoY แตะ VND793bn ดีกว่าที่โบรกเวียดนามคาดสะท้อนการฟื้นตัวของความต้องการเช่าพื้นที่อย่างแข็งแกร่งจากการระบาดของโควิด-19 ด้านโบรกเวียดนามมองว่ามูลค่าหุ้นน่าสนใจ หลังมูลค่าหุ้นในปัจจุบันมี discount จากมูลค่าสินทรัพย์สุทธิราว 45% เทียบกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปีที่มูลค่าหุ้นมี discount ราว 27% พร้อมให้ TP ที่ VND39,100
Highlight
Financial Times รายงานว่า Tesla (TSLA) มีแผนเข้าซื้อกิจการ Glencore บริษัทผู้นำธุรกิจเหมืองแร่อย่างโคบอลต์ นิกเกิล ทองแดงซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตแบตเตอรี่ให้รถยนต์ไฟฟ้าที่สัดส่วนถึง 20% โดยตลาดคาดว่าเป็นหนึ่งในแผนการลดปัญหาซัพพลายเชนในการผลิตรถไฟฟ้า รวมทั้งเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน หลังตลาดคาดว่าการแข่งขันในตลาดรถไฟฟ้าจะรุนแรงมากขึ้นในปี 66 ขณะที่ความต้องการซื้อรถอาจชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก