Daily Focus: Earnings and Selective Play

2023 SET Target: 1760

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวขึ้นในช่วงแรกทดสอบระดับ 1,620 จุด ก่อนที่จะมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง  ทำให้ดัชนีปิดบวกแคบลงเหลือ 2.69 จุด โดยรอติดตามการประชุม FED สัปดาห์นี้ สถาบันในประเทศมีสถานะเป็นกลาง หลังขายต่อเนื่องหลายวันก่อนหน้า ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเร่งขึ้นเป็น 4.2 พันลบ. (และ Long Index Futures อีกบางๆ 3.8 พันสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index ยังแกว่ง Sideways ในกรอบ 1,600-1,620 จุด โดยขาดปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้น ตลาดยังคงรอจับตาผลการประชุม FED วันที่ 2-3 พ.ย. นี้ ซึ่งคาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงอีก 0.75% เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนชะลอความเร็วในการปรับขึ้นในการประชุมครั้งถัดๆไป โดยต้องติดตามถ้อยแถลงของประธาน FED ต่อมุมมองเงินเฟ้อและการส่งสัญญาณดำเนินนโยบายการเงิน ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศไม่ดีนักทั้ง 3Q22 ของยูโรโซนที่ชะลอลงชัดเจน +0.2% Q-Q, +2.1% Y-Y ขณะที่เงินเฟ้อเดือน ต.ค. พุ่งขึ้นแตะ +10.7% Y-Y ส่วน GDP 3Q22 ของฮ่องกงหดตัวแรง -2.6% Q-Q, -4.5% Y-Y ด้านปัจจัยในประเทศโฟกัสยังคงอยู่ที่การทยอยประกาศกำไร 3Q22 ของบริษัทจดทะเบียน และยังคาดหวังเชิงบวกต่อเศรษฐกิจที่คาดทยอยฟื้นตัวใน 4Q22-2023 เรายังคงชอบหุ้น Domestic และ Reopening Play ซึ่งคาดว่าจะสามารถ Outperform หุ้น Global Play และตลาดได้ต่อเนื่อง

กลยุทธ์ : เลือกเก็งกำไรหุ้นที่คาดงบ 3Q22 แข็งแกร่งและมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว // คือลงทุนหลังสะสมหุ้นเพิ่ม

หุ้นเด่นเดือน พ.ย. : BBL, DOHOME, EKH, MAKRO, NOBLE

หุ้นเด่นวันนี้ : MAKRO

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายจาก FSSIA 42 บาท
  • คาดกำไร 3Q22 จะเติบโตทั้ง Q-Q และ Y-Y ตามฤดูกาล ซึ่งเป็นไตรมาสที่ดีของ MAKRO เชื่อว่าจะช่วยหักล้างผลขาดทุนของ Lotus’s ได้ทั้งหมด ส่วนแนวโน้ม 4Q22 จะเร่งตัวขึ้นจาก High Season และคาดอานิสงส์หากภาครัฐมีมาตรการลดหย่อนภาษีในการซื้อสินค้าเพิ่มเติม
  • เรามองกำไรกำลังจะผ่านช่วงแย่สุดในปี 2022 โดยคาด -42% Y-Y ก่อนกลับมาฟื้นแรง +55% Y-Y ในปี 2023 กลับมาเท่ากับปี 2019 และหาก Lotus’s ทยอยฟื้นตัวได้ดีจะเป็น Upside ต่อประมาณการกำไรและราคาเป้าหมาย
  • แนวรับ 35 บาท แนวต้าน 37 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนพลิกมาใหลเข้าภูมิภาคอีกครั้ง US$521 ล้าน นำโดยเกาหลีใต้และไต้หวันประเทศละ US$160-180 ล้าน ส่วนอาเซียนเม็ดเงินไหลเข้าทุกประเทศ นำโดยไทย US$109 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดชะลอการไหลเข้า หลัง Dollar Index และ Bond Yield สหรัฐฯ เริ่มพลิกขยับขึ้นอีกครั้ง โดยนักลงทุนรอจับตาผลการประชุม และการส่งสัญญาณของ FED ในสัปดาห์นี้

ประเด็นสําคัญวันนี้

(+) กลยุทธ์การลงทุนเดือน พ.ย. 22 เราประเมินกรอบการเคลื่อนไหวเดือน พ.ย. ที่ 1,580-1,650 จุด โดยปัจจัยที่ต้องติดตามอยู่ที่ต่างประเทศเป็นหลัก ทั้งประชุม FED และการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ ส่วนในประเทศโฟกัสหลักอยู่ที่การประกาศกำไร 3Q22 ของ Real Sector โดยคาดชะลอ Q-Q เล็กน้อยจากปัจจัยฤดูกาล แต่โตแรง Y-Y จากฐานต่ำปีก่อน ส่วน 4Q22 คาดเร่งตัวขึ้นจาก High Season ของการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในประเทศที่เร่งตัว ภาพรวมกระแสเงินทุนเริ่มพลิกมาไหลเข้าชัดเจนตั้งแต่ปลายเดือน ต.ค. ทำให้เรายังมองบวกต่อ SET Index ที่คาดยังทยอยไต่ระดับขึ้น แนะนำถือลงทุนต่อเนื่อง หลังสะสมบริเวณแนวรับ 1,580+- จุดเดือนก่อน ยังเน้นลงทุนในกลุ่ม Domestic//Reopening Play เลือก Top Pick เดือนนี้ คือ BBL DOHOME EKH MAKRO NOBLE

(-) ธปท.ไม่ต่ออายุการผ่อนคลายมาตรการ LTV ทำให้ในปี 2023 กลับไปเกณฑ์เดิม คือ การซื้อที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 ขึ้นไปในราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท ได้ 70-90% ส่วนราคามากกว่า 10 ล้านบาทตั้งแต่หลังที่ 1 เป็นต้นไป กู้ได้ 70-90% เป็น Sentiment ลบต่อการดัดสินใจซื้อสังหาฯ เพิ่ม ท่ามกลางแรงกดดันตอกเบี้ยมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Mid-to-Low End ส่วนกลุ่ม High-End คาดไม่กระทบอย่างมีนัยยะ อย่างไรก็ตาม เรามองว่าจะเป็นส่วนกระตุ้นการซื้อก่อนหมดมาตรการในช่วง 2 เดิอนสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งจะช่วยระบายสต็อกของกบ Mid-End ที่มีสินค้าพร้อมโอนมาก เช่น ORI ANAN

(-) IIG คาดกำไร 3Q22 ไม่สดใส -16% Q-Q, -18% Y-Y แม้รายได้คาดยังเติบโตได้แรง +5% Q-Q, +41% Y-Y หลังได้งานใหญ่จากลูกค้าธนาคารในปีนี้ แต่ถูกกดดันจาก Gross Margin ที่หดตัวลงจากการต้อง Outsource งานบางส่วน และเป็นงานใหม่สำหรับบริษัท รวมถึงมีค่าใช้จ่าย SG&A เพิ่มขึ้นชั่วคราวจากดีลควบรวมกับ Lansing อย่างไรก็ตาม เราประเมินทิศทางกำไรจะทยอยดีขึ้นใน 4Q22 เป็นต้นไป ปัจจุบันยังคงประมาณการกำไรปี 2022-2023 +44% Y-Y และ +42% Y-Y ตามลำดับ คงราคาเป้าหมาย 52.25 บาท แนะนำรอ “ซื้อ” หลังประกาศงบ 3Q22

 

(-) ตลาดดาวโจนส์ ปิดที่ 32,732.95 จุด ลดลง 128.85 จุด หรือ -0.39% โดยนักลงทุนรอผลการประชุม FED ในวันที่ 1-2 พ.ย. นี้ ซึ่งตลาดคาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมครั้งนี้

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก จากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน

(0) ตลาดหุ้นเอเชีย ปร้บบวกเล็กน้อย โดยนักลงทุนติดตามผลการประชุม FED ในสัปดาห์นี้

(0) ค่าเงินบาท แกว่งตัวแคบ อยู่ที่บริเวณ 38.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดลดลง 1.37 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 86.53 ดอลลาร์/บาร์เรล จากการรายงานว่าการผลิตน้ำมันในสหรัฐเดือนส.ค. เพิ่มขึ้นแตะระดับ 12 ล้านบาร์เรล/วัน บ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่โรคโควิด-19 เริ่มแพร่ระบาด ในขณะที่เช้านี้ปรับลงต่อที่ระดับ 86.16 ดอลลาร์/บาร์เรล -0.43%

(-) ราคาทองคำ COMEX ปิดลดลง 4.1 ดอลลาร์ หรือ 0.25% ปิดที่ 1,640.7 ดอลลาร์/ออนซ์ ถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ในขณะที่เท่านี้ปรับสูงต่อที่ระดับ 1,637.00 ดอลลาร์/ออนซ์ -0.23%

SPDR Gold Trust ถือครองทองค่า 920.57 / -2.02

- Advertisement -