ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ไซด์เวย์ / บวกต่อในกรอบแคบๆ

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันอังคาร เทรดไซด์เวย์/บวกต่อในกรอบแคบๆ… หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นแต่ไม่แรง (ตามคาด) โดยฟันด์โฟลว์ต่างชาติยังคงแข็งแกร่ง และช่วยหักล้างแรงกดดันจากตลาดหุ้นเอเชียที่ปรับฐานในช่วงบ่าย หลังตัวเลข NBS PMI ภาคการผลิตของจีน เดือน ต.ค. ต่ำกว่าคาดการณ์… ส่วนในวันนี้ ปัจจัยโดยรวมต่อตลาดหุ้นเป็นกลาง i) นักลงทุนส่วนใหญ่รอดูปัจจัยเศรษฐกิจสหรัฐฯ ใน 1-2 วันข้างหน้า ได้แก่ผลประชุม FOMC ในคืนวันที่ 2 พ.ย. รวมทั้งการรายงานตัวเลข ISM ภาคการผลิต เดือน ต.ค. ที่จะออกมาในคืนวันนี้ ii) ราคาน้ำมันดิบปรับฐานลง หลังจากตลาดมีความกังวลเพิ่มขึ้นต่อทิศทางเศรษฐกิจจีนในช่วงที่เหลือของปีนี้ ทั้งจาก PMI ต.ค. ที่ต่ำกว่าคาด และการกลับมาล็อกดาวน์ 3 เมืองใหญ่ตามนโยบาย zero-COVID… ด้านปัจจัยภายในประเทศนั้น เมื่อวานนี้ ธปท. รายงานตัวเลขเศรษฐกิจจีน ก.ย. และไตรมาส 3/2565 พบว่าการบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนภาคเอกชน ยังคงฟื้นตัวแข็งแกร่ง YoY และชี้ว่า GDP ไตรมาส 3/2565 น่าจะเติบโตได้สูงกว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 ขณะที่การประชุม ครม. ประจำสัปดาห์ในวันนี้ ให้ติดตามว่าจะมีรายละเอียดของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะประกาศเพิ่มเติม สำหรับช่วงปลายปีนี้

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร SCB*, GULF*, AMA

  • SCB* (เป้าพื้นฐาน 136 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 105.5 บาท / แนวต้าน 108 – 113 บาท (Stop loss 103.5 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้น Laggard หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานคาดฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจ และการปรับขึ้นของ NIM ในทิศทางเดียวกัน 3) การเตรียมปรับโครงสร้าง บ.ลูกต่างๆ คาดเตรียมแผนการ Spin-off ในอนาคต (คาดเตรียมแยกธุรกิจบัตรเครดิต CardX ออกไปในเดือน ธ.ค.นี้) จะเป็น Catalyst หนุน Sentiment ที่ดูเด่นกว่าธนาคารพาณิชย์อื่นในระยะสั้น 4) Valuation ไม่แพง PBV 0.8 เท่า ขณะที่คาด ROE ทยอยฟื้นตัวขึ้นจนกลับสู่ระดับ >10% ได้ในปี 2568
  • GULF* (เป้าพื้นฐาน 58 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 50.25 บาท / แนวต้าน 51.5 – 52.5 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 54 บาท (Stop loss 49 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 3Q65 จะชะลอตัวลง YoY, QoQ แต่จะฟื้นตัวกลับมาเด่นใน 4Q65 จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น และการปรับขึ้นค่า Ft ขณะที่ราคาหุ้นพักฐานก่อนหน้านี้ คาดสะท้อนผลการดำเนินงาน 3Q65 ไปพอสมควรแล้ว 3) PBV ปัจจุบัน 5.72 เท่า คิดเป็นราว +1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต ขณะที่หากกำไรปีหน้าโตตามคาด -53% YoY จะทำให้ PBV ปีหน้าลดลงเหลือ 4.9 เท่า ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยในอดีต
  • AMA (เป้าพื้นฐาน 7.6 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 6.05 บาท / แนวต้าน 6.4 – 6.5 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 7.0 บาท (Trailing stop 5.8 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 3Q65 ทำจุดสูงสุดใหม่รายไตรมาสที่ 129 ล้านบาท (+163% YoY, +83% QoQ) และคาดกำไรปีนี้ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ +300 ล้านบาท (โต +100% YoY) โดยเป็นผลจากธุรกิจขนส่งน้ำมันปาล์มทางเรือที่ฟื้นตัวขึ้นมาก ทั้งจากด้านอุปสงค์ในภูมิภาค และอุปทานเรือขนส่งน้ำมันปาล์มในภูมิภาคที่ลดลง เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนไปขนส่งน้ำมันดอกทานตะวันไปยุโรปแทน 3) ขณะที่คาดกำไรที่จุดสูงสุดใหม่ แต่ Valuation ไม่แพง Forward PE +/-10 เท่า (ใกล้เคียง -2 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีตที่ 9.5 เท่า) / PBV 1.27 เท่า (เท่ากับค่าเฉลี่ยในอดีต) / คาดปันผลปีนี้ 0.35 บาท/หุ้น Dividend Yield 5.6%

หุ้นมีข่าว

(+) คลังเคาะแล้วอุดหนุน EV ซึ่งเข้าครม. เดือนพ.ย.นี้ EA-GPSC-NEX-BYD ตีปีกยอดขายพุ่ง (ข่าวหุ้น) สรรพสามิตเคาะแล้ว มาตรการอุดหนุนแบตเตอรี่รถไฟฟ้า นัด “กุลิศ” ประธานบอร์ดเล็กอีวีประชุมฯ เร็วๆ นี้ ก่อนเสนอบอร์ดใหญ่ที่ “สุพัฒนพงษ์” นั่งประธาน คาดชงเข้าครม.ภายในเดือน พ.ย.นี้ ก่อนประกาศใช้ ด้านโบรกฯ มองส่งผลดีกลุ่มผลิตแบตฯ รายใหญ่ อย่าง EA-GPSC ขณะที่ NEX-BYD รับยอดขายรถไฟฟ้าพุ่ง หลังราคาขายลดลง

(0) เลิกผ่อนแอลทีวี อสังหาฯ หวั่น ทำตลาดชะงัก (กรุงเทพธุรกิจ) “แบงก์ชาติ” ยกเลิกผ่อนคลายมาตรการ “แอลทีวี” เริ่มกลับไปใช้เกณฑ์เก่าต้นปี 2566 หวังสกัดแรงเก็งกำไร ป้องหนี้ครัวเรือนพุ่ง หลังพบตลาดอสังหาฯ เริ่มฟื้นตัวกลับมาเท่าก่อนโควิด ด้านผู้ประกอบการหวั่นปัจจัยลบปีหน้าอ่วมฉุดตลาดชะงัก ระบุช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อฟื้นเศรษฐกิจ แนะต่อมาตรการกระตุ้นอย่างน้อย 1 ปี

(+) BBL* สินเชื่อพุ่งทะลุ 10% วางแผนปี 66 โตอีก ตั้งสำรอง-NPL ลดแน่ (ข่าวหุ้น) แบงก์กรุงเทพ (BBL) โชว์สินเชื่อปีนี้ทะลุเป้ากว่า 10% จากเป้าหมายสินเชื่อที่ 4-6% ส่วนปี 66 อยู่ระหว่างทำแผนงาน เบื้องต้นประเมินไว้ที่ 2-4.5% หรือ 1-1.5 เท่าของจีดีพี ส่วนแนวโน้ม NPL และการตั้งสำรองของธนาคารในปีหน้าลดลงเช่นกัน พร้อมวางงบลงทุนไอทีไว้ปีละ 4-6 พันล้านบาท

(+) SNNP เดินหน้า รุกกลุ่มสุขภาพ หวังโกยทะลัก (ไทยโพสต์) นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการ ผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง หรือ SNNP เปิดเผยว่า โค้งสุดท้ายของปี 2565 บริษัทยังเดินหน้าขยายตลาดเป็นการต่อยอดไปในกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพและเน้นการบำรุงสายตา โดยออกสินค้าใหม่ “เจเล่บิวตี้ กลิ่นอาซาอิ เบอร์รี่” มีลูทีน ซีแซนทิน และวิตามินเอ นับเป็นอีกสินค้าใหม่ที่เข้ามาเสริมทัพ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคและเป็นการขยายฐานลูกค้าใหม่มากขึ้น มั่นใจจะได้รับความสนใจจากผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี

(+) SKY จุดพลุแอปสวัสดี ดันดาวน์โหลดล้านราย (ทันหุ้น) SKY เล็งรีลอนช์แอป SAWASDEE ต้อนรับนักท่องเที่ยวไหลกลับ ตั้งเป้าผู้ใช้บริการปี 2566 ทะลุ 1 ล้านราย จากปัจจุบันที่ 7 แสนราย เตรียมเข้าประมูลงานท้ายปีเติมพอร์ต โชว์แบ็กล็อกแน่น 2.1-2.3 หมื่นล้านบาท มั่นใจผลงานปีนี้แข็งแกร่ง

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • CPALL* (เป้าพื้นฐาน 74 บาท) แนวรับ 59.5 บาท / แนวต้าน 61-62 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 58.5 บาท)
  • NEX (เป้า Consensus 23.5 บาท) แนวรับ 19.1 บาท / แนวต้าน 20.0-20.2 บาท (Trailing stop
  • 19.0 บาท)
  • M (เป้าพื้นฐาน 67.5 บาท) แนวรับ 58 บาท / แนวต้าน 59.5-60 บาท (Trailing stop 57 บาท)
  • BBL* (เป้าพื้นฐาน 165 บาท) แนวรับ 144 บาท / แนวต้าน 146.5-149 บาท (Trailing stop 142.5 บาท)
  • ERW (เป้าพื้นฐาน 5.1 บาท) แนวรับ 4.46 บาท / แนวต้าน 4.6 – 4.66 บาท (Trailing stop 4.38 บาท)
  • BCP* (เป้าพื้นฐาน 41 บาท) แนวรับ 30 บาท / แนวต้าน 31-31.5 บาท (Stop loss 29 บาท)
  • SCGP* (เป้าพื้นฐาน 63 บาท) แนวรับ 51.75 บาท / แนวต้าน 53.5-55 บาท (Stop loss 51.5 บาท)
  • TLI (เป้าพื้นฐาน 19.1 บาท) แนวรับ 15.3 บาท / แนวต้าน 15.8-16.1 บาท (Stop loss 15.0 บาท)
  • ILM (เป้า Consensus 22.4 บาท) แนวรับ 17.3 บาท / แนวต้าน 17.9 -18.5 บาท (Stop loss 17.0 บาท)
  • PLANB* (เป้าพื้นฐาน 8.8 บาท) แนวรับ 6.95 บาท / แนวต้าน 7.2-7.3 บาท (Stop loss 6.9 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • กลุ่มอสังหาฯ น้ำหนักลงทุน “มากกว่าตลาดฯ” ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 3Q65 ในภาพรวมจะเติบโต YoY, QoQ โดยหุ้นที่คาดว่าผลการดำเนินงานจะเด่นสุดในไตรมาสนี้ ได้แก่ ANAN, PSH, SPALI* ขณะที่ LPN คาดว่าผลการดำเนินงานจะชะลอตัวลง QoQ ทั้งนี้คาดว่าแนวโน้มการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานกลุ่มฯ จะยังเป็นไปในทิศทางที่คาดไว้ หุ้นเด่นเลือก AP, LH, ORI
  • TOP* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 75 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดจะรายงานผลขาดทุน -45 ล้านบาท (พลิกจากที่กำไรในไตรมาสก่อนหน้า) จากผลขาดทุนสต๊อก รวมทั้งค่าการกลั่นที่ชะลอตัวลง อย่างไรก็ดี ยังคงแนะนำ “ซื้อ” เนื่องจากคาดว่าผลการดำเนินงาน 4Q65 ฟื้นตัวตามค่าการกลั่นในขณะนี้
  • ESSO แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 14.1 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดจะรายงานผลขาดทุน -2.5 พันล้านบาท (พลิกจากกำไรในไตรมาสก่อน) จากผลขาดทุนสต๊อก รวมทั้งค่าการกลั่นที่ชะลอตัวลง อย่างไรก็ดี คาดผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวใน 4Q65 และคาด Dividend yield +7% สำหรับผลการดำเนินงาน 2H65

หมายเหตุ: 1.* บริษัทอาจเป็นผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์บนหลักทรัพย์นี้ / 2. เป้าพื้นฐาน หมายถึง ราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐาน (Forecasted 12M Target price) ที่อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานฉบับล่าสุดของฝ่ายวิจัยฯ / 3. เป้า Consensus หมายถึง ค่าเฉลี่ยของราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐานที่จัดทำโดย Bloomberg consensus หรือ IAA Consensus

- Advertisement -