บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action BUY (Maintain)
TP upside (downside) +21.6%
Close Oct 31, 2022 Price (THB) 10.20
12M Target (THB) 12.40
Previous Target Price 12.40
What’s new?
- คาด EPG จะมีกำไรปกติ 2Q65 จํานวน 389 ลบ. ฟื้นตัวเด่น 58.6%QoQ จากฐานที่ต่ำใน 1Q65 และโต 3.2% YoY หนุนจากยอดขายของฉนวนยางกันความร้อน และอะไหล่ยานยนต์ที่ปรับขึ้นได้ดี ประกอบกับคาดอัตรากำไรขั้นต้นจะเริ่มขยับขึ้น หลังปรับเพิ่มราคาและเน้นขายสินค้ามาร์จิ้นสูง
- แนวโน้ม 2H65 คาดโต HoH จากพัฒนาการเชิงบวกของทั้ง 3 ธุรกิจหลัก หนุนให้ทั้งปี 2565 คาดมีกำไรปกติ 1,685 ลบ. โด 10.7%YoY
Our view
- ภาพรวมเราคาด EPG จะมีแรงหนุนจากการฟื้นตัวของผลดำเนินงานที่โดดเด่น และจะเริ่มเห็นผลบวกจากอัตรากำไรขั้นต้นที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ราคาหุ้นมี Upside 21.6% จากมูลค่าพื้นฐานเติมปี 2565 ที่ 12.40 บาท อิง PER ช้อนหลัง 3 ปีที่ 20.3x และเพิ่มผลบวกจาก Yuanta ESG Raliting ของ EPG ที่ระดับ AA ทำให้มีส่วนเพิ่มจาก PER ที่ใช้ประเมินมูลค่าอีก 2%) และคาดให้ Div. Yield อีก 25% เราคงคำแนะนำ ซื้อ
EASTERN POLYMER GROUP กำไรฟื้นตัวสู่ระดับปกติ ส่วน 2H65 คาดปรับขึ้นต่อ
2Q65 กำไรฟื้นตัวได้ดี หนุนจากธุรกิจฉนวนยางและธุรกิจอะไหล่ยานยนต์
เราคาด EPG จะมีกำไรปกติใน 2Q65 (สิ้นงวดเดือน ก.ย.) ที่ 389 ลบ. โตเด่น 58.6%QoQ และโต 3.2%YoY มีปัจจัยหนุนหลักจาก 1) รายได้จากการขายคาดโต 9.1%YoY หลังยอดขายอะไหล่ยานยนต์ของ ARK ฟื้นตัว เนื่องจากเริ่มส่งมอบ Side Step ให้กับผู้ผลิตยานยนต์รายใหม่ ประกอบกับเริ่มรวมงบของบริษัท 4 Way Suspension เข้ามาเป็นไตรมาสแรก บวกกับยอดขายฉนวนยางของ AFC ขยับขึ้น สอดรับกับการก่อสร้างและการปรับปรุงอาคารในหลายประเทศที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดขายบรรจุภัณฑ์พลาสติกคาดปรับลง 11%YoY จากการแข่งขันที่สูง 2) คาดอัตรากำไรขั้นต้นคาดขยายตัวเป็น 34% จาก 30.7% ใน 2Q64 หนุนจากสัดส่วนการขายฉนวนยางในกลุ่มมาร์จิ้นสูงที่เร่งตัวขึ้น บวกกับ Economies of Scale ที่ดีขึ้นตามปริมาณการผลิต รวมถึงการปรับราคาขึ้นของบางผลิตภัณฑ์ และ 3) ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมคาดโต 21.4%YoY ตามยอดผลิตยานยนต์ในประเทศที่โตดี
มอง 2H65 แนวโน้มโตต่อ HoH หลังยอดขายและมาร์จิ้นปรับขึ้น
หากเป็นไปตามคาด กำไรสุทธิ 1H65 จะคิดเป็น 38% ของประมาณการทั้งปี ซึ่งเรายังคงประมาณการเดิม โดยคาดผลดำเนินงานใน 2H465 จะโต HoH หลังยอดขายของทั้ง 3 ธุรกิจหลักมีแนวโน้มปรับขึ้นต่อเนื่อง หนุนด้วยการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ บวกกับอัตรากำไรขั้นต้นที่คาดขยับขึ้น จากการเน้นขายสินค้าที่มีมาร์จิ้น เช่น Air Duct System และอะไหล่ตกแต่งยานยนต์ 4×4 ในต่างประเทศ อีกทั้งเริ่มเห็นผลบวกจากการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้น รวมถึงการปรับขึ้นราคาสินค้าเพื่อส่งผ่านต้นทุนให้ลูกค้าที่ทำได้มากขึ้นตามลำดับ นอกจากนี้ยังไม่มีแรงกดดันจากการลดราคาเพื่อล้างสต็อกบรรจุภัณฑ์พลาสติกเหมือนใน 2Q65 ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมคาดปรับขึ้นต่อ เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่เชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งมีทิศทางขยายตัวได้ดี เราจึงคาด EPG จะมีกำไรปกติในปี 2555 (สิ้นปี เดือน มี.ค. 56) จำนวน 1,685 ลบ. โต 10.7%YoY
ผลดำเนินงานฟื้นตัวได้ดี ราคาหุ้นยังมี Upside สำหรับลงทุน
ภาพรวมเราคาด EPG จะมีแรงหนุนจากการฟื้นตัวของผลดำเนินงานที่โดดเด่น และจะเริ่มเห็นผลบวกจากอัตรากำไรขั้นต้นที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ราคาหุ้นมี Upside 21.6% จากมูลค่าพื้นฐานเดิมปี 2565 ที่ 12.40 บาท (อิง PER ย้อนหลัง 3 ปีที่ 20.3x และเพิ่มผลบวกจาก Yuanta ESG Rating ของ EPG ที่ระดับ AA ทำให้มีส่วนเพิ่มจาก PER ที่ใช้ประเมินมูลค่าอีก 2%) และคาดให้ Div. Yield อีก 2% เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”