บล.พาย:
OR: บมจ. ปตท. นํ้ามันและการค้าปลีก “กำไรไตรมาส 3/22 รับแรงกระแทกจากค่าการตลาดที่อ่อนแอ”
คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/22 ลดลง 64% QoQ มาอยู่ที่ 2.4 พันล้านบาท ชะลอลงจากยอดสูงในไตรมาส 2/22 เพราะขาดทุนสต็อกน้ำมัน และค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันที่ลดลงสู่ฐานต่ำ หลังจากรัฐบาลลอยตัวราคาดีเซล ขณะที่มองว่าราคาหุ้นที่ลดลง 7% ในช่วงเดือนก่อนได้สะท้อนภาพรวมกำไรที่ไม่สู้ดีในไตรมาส 3/22 ไปแล้ว ส่วนไตรมาส 4/22 ยังมีภาพสดใส หนุนจาก 1) การเติบโตของยอดขายจากฤดูการท่องเที่ยว และ 2) ค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันที่ฟื้นตัวจากฐานต่ำ จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 30.0 บาท
คาดค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันลดลงในไตรมาส 3/22
- คาดกำไรไตรมาส 3/22 ลดลง 64% QoQ เป็น 2.4 พันล้านบาท ฉุดลงจากส่วนแบ่งที่อ่อนแอของธุรกิจโดยสาร สืบเนื่องจากปริมาณขายและค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันที่ลดลง ส่วนยอดขายธุรกิจน้ำมันและนอกเหนือจากน้ำมัน (non-oil) ที่ปรับดีขึ้น (หลังจากเผชิญการล็อกดาวน์ในไตรมาส 3/21) คาดว่าจะช่วยหนุนการเติบโตขึ้นได้ 26% YoY
- ปริมาณขายน้ำมันคาดว่าจะแตะ 6.3 พันล้านลิตร (+21% YoY, -8% QoQ) ที่ปรับดีขึ้น YoY เป็นเพราะการกลับมาเปิดเศรษฐกิจ ส่วนที่ลดลง QoQ เป็นผลจากปัจจัยตามฤดูกาล (หน้าฝน)
- คาดว่าค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันจะลดลง 26% YoY และ 50% QoQ เป็น 0.8 บาท/ลิตร (ฐานต่ำ) ชะลอลงจากยอดสูงในไตรมาส 2/22 หลังจากรัฐบาลลอยตัวราคาดีเซล
- แต่ส่วนแบ่งจากธุรกิจ non-oil คาดว่าจะปรับดีขึ้น YoY และ QoQ หนุนจากการเปิด Café Amazon สาขาใหม่ (+8% YoY, +2% QoQ) และยอดขายรายไตรมาสที่สูงเป็นประวัติการณ์ที่ 93.0 ล้านถ้วย
คาดยอดขายและอัตรากำไรปรับดีขึ้นในไตรมาส 4/22
- มองบวกต่อภาพรวมไตรมาส 4/22 การเติบโตของยอดขายได้แรงหนุนจากฤดูการท่องเที่ยวภายในประเทศ และค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันที่ฟื้นตัวขึ้นจากฐานต่ำ QoQ ที่มีโอกาสหนุนกำไรไตรมาส 4/22 ขึ้นทั้ง YoY และ QoQ
คงคําแนะนํา “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 30.0 บาท
ประเมินมูลค่าธุรกิจน้ำมันที่ 18.00 บาท (12x EV/EBITDA) และธุรกิจ non oil ที่ 12.0 บาท (24x EV/EBITDA) ราคาเป้าหมายของเราคำนวณด้วยวิธีรวมส่วนธุรกิจ (SOTP) อิง 26XPE’23E หรือคิดลด 10% ต่อค่าเฉลี่ยกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยในไทย เราชอบ OR ที่มีพอร์ตหลากหลายระหว่างการค้าปลีกน้ำมันและไลฟ์สไตล์ แม้คาดกำไรต่อหุ้น (EPS) ปี 2023 จะลดลง 13% YoY แต่ถือเป็นการปรับลดจากยอดสูงกว่าปกติในปี 2022 เพราะค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันที่สูงผิดปกติ เช่น 1.2 บาท/ลิตร เทียบค่าเฉลี่ยฐานสูงที่ 1.1 บาท/ลิตร ฉะนั้นประมาณการค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันและการเติบโตของยอดขายที่ทรงตัวในระดับ 5% ต่อปีตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไปจึง สมเหตุสมผล
Revenue breakdown
- ธุรกิจน้ำมัน (คิดเป็น 93% ของรายได้รวม, 76% ของ EBITDA รวม) บริษัทดำเนินธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมผ่านสถานีบริการทั้งหมด 2,315 แห่ง โดยบริษัทมีผลิตภัณฑ์ ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิงการบิน น้ำมันเตาสำหรับเรือและผู้ใช้ในอุตสาหกรรม น้ำมันหล่อลื่น และก๊าซหุงต้ม
- ธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการอื่นๆ (non-oil) (คิดเป็น 3% ของรายได้รวม, 21% ของ EBITDA รวม) โดยธุรกิจนี้ประกอบด้วยคาเฟ่อเมซอนจำนวน 3,628 สาขา ร้าน Texas Chicken 96 สาขา และร้านสะดวกซื้อ 2,075 สาขาที่จำหน่ายอาหารเครื่องดื่มและสินค้าอุปโภค บริโภคพื้นฐาน ภายใต้แบรนด์ Jiffy ที่บริษัทเป็นเจ้าของและภายใต้แบรนด์ 7-Eleven นอกจากนี้บริษัท ยังดำเนินธุรกิจบริหารพื้นที่ให้เช่าและบริการที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ในสถานีบริการของบริษัทด้วย
- ธุรกิจต่างประเทศ (คิดเป็น 6% ของรายได้รวม, 4% ของ EBITDA รวม) นอกจากนี้ บริษัทยังดำเนินธุรกิจที่ใช้แพลตฟอร์มการค้าปลีกน้ำมันและธุรกิจ non-oil ในต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในประเทศฟิลิปปินส์ กัมพูชา และลาว