คาดนักลงทุนรอดูผลประชุม FED คืนนี้ส่งผลให้การเคลื่อนไหวจำกัด
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบเล็กน้อย 0.24% หลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานที่ แข็งแกร่ง ตลาดจึงกังวลกับภาวะดอกเบี้ยที่อาจเร่งตัว ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปรับเพิ่มขึ้น 2% ขานรับความหวังจีนกลับมาเปิดประเทศ
Market Outlook
วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1615 – 1630 เชื่อว่าจะชะลอความร้อนแรงหลังปรับขึ้นมาเมื่อวานกว่า 1.05% ประกอบกับคืนนี้มีปัจจัยสำคัญอย่างการประชุม FED ที่จะทราบผลอย่างเป็นทางการช่วงเช้าตามเวลาประเทศไทยในวันพรุ่งนี้ เบื้องต้น CME FED Watch คาดว่าที่ประชุมจะขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ด้วยความน่าจะเป็น 86.5% และอีก 13.5% มองว่าจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ทั้งนี้มองว่าเรื่องดอกเบี้ยในเดือน พ.ย. มิใช่ประเด็นที่ตลาดจับตาเท่าใดนัก แต่ที่ตลาดจะจับตารอดูจะเป็นถ้อยแถลงของ FED รวมถึงการส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยช่วงถัดไป, ภาวะเศรษฐกิจ, แนวโน้มเงินเฟ้อในความคิดของ FED เบื้องต้นตลาดประเมินว่าการประชุมเดือน ธ.ค. น้ำหนักยังค่อนข้างใกล้เคียงกันสำหรับการขึ้นดอกเบี้ยที่ 0.50% และ 0.75% ทั้งนี้หากพิจารณาดอกเบี้ยระยะกลาง CME FED Watch ระบุว่ามีความเป็นไปได้ที่ FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ยทดสอบ 5.25% (ระดับสูงสุด) ก่อนที่ช่วง 3Q23 จะเริ่มปรับดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 5% ทั้งนี้ดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25% นำมาหักด้วยเงินเฟ้อ (PCE) ที่ Bloomberg คาดการณ์เฉลี่ยปี 23 ทั้งปีที่ 3.3% ดอกเบี้ยที่แท้จริงจะอยู่ราวๆ 2% ซึ่งตัวเลขดังกล่าวจะสูงกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 42 ปีที่ 1.5% ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนว่า FED อาจไม่จำเป็นต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยให้สูงกว่าระดับ 5.25% เท่าใดนัก เบื้องต้นจึงพอประเมินได้ว่าดอกเบี้ยสหรัฐฯกำลังใกล้จะเข้าสู่จุดสูงสุด จึงมีความเป็นไปได้ที่ค่าเงินดอลลาร์จะเริ่มแข็งค่าน้อยลง หรืออาจพลิกมาอ่อนค่า พร้อมกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่จะเริ่มปรับขึ้นน้อยลง หรือเริ่มลดลงหนุนเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง และเม็ดเงินต่างชาติมีโอกาสไหลเข้าซื้อสุทธิในตลาดหุ้น สอดคล้องกับช่วงที่ผ่านมาที่นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อติดต่อกัน
ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนยังเน้นหุ้นขนาดใหญ่ที่เป็นเป้าหมายของต่างชาติ อาทิ ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK SCB TISCO TTB) ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) สื่อสาร (ADVANC INTUCH) น้ำมัน (PTTEP) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT SPA) โรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC)
Pi Stock Picks
KBANK (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 180.00 บาท)
คงคำแนะนำ “ซื้อ” เพราะ 1) มีแนวโน้มการเติบโตที่มั่นคงจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ 2) สำรองที่พอรับมือกับ NPLs ใหม่ 3) upside จากการปรับเพิ่มดอกเบี้ย และ 4) มูลค่าหุ้นที่น่าดึงดูด
CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 72.25 บาท)
แนวโน้มในช่วง 3Q22 คาดว่ารายได้จะเห็นการฟื้นตัวได้ชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับปีก่อนเพราะ 1. รวมงบโลตัสเข้ามา 2. ไม่มีล็อคดาวน์ ส่วนการเทียบกับ 2Q22 อาจจะออกมาแค่ทรงตัวเนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน