Daily Focus: Earnings and Selective Play

2023SET Target: 1760

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวขึ้นได้แข็งแกร่งกว่าที่คาด ปิดบวกได้ถึง 16.97 จุด จากหุ้นขนาดใหญ่หลายตัว และกระแสข่าวที่คาดว่าจีนจะเริ่มทยอยผ่อนคลายมาตรการคุม COVID-19 สถาบันในประเทศยังคงมีสถานะเป็นกลาง ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิเป็นวันที่ 8 ติดต่อกัน และเร่งขึ้นเป็น 6.1 พันลบ. (และ Long Index Futures ติดต่อกันเป็นวันที่ 10 อีก 3.3 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index แกว่ง Sideways ในกรอบ 1,615-1,635 จุด ลดความร้อนแรงระยะสั้น โดยตลาดรอจับตาผลการประชุม FED คืนนี้ ตลาดคาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยแรง 0.75% เป็นครั้งสุดท้าย และต้องติดตามการส่งสัญญาณจากถ้อยแถลงของประธาน FED ต่อนโยบายการเงินในระยะถัดไป ล่าสุดตัวเลขเปิดรับสมัครงานเดือน ก.ย. ของ สหรัฐฯเพิ่มขึ้นสูงกว่าคาด สะท้อนตลาดแรงงานที่ยังตึงตัว และกดดัน Sentiment อ่อนๆ อย่างไรก็ตาม ทิศทางกระแสเงินทุนที่ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง คาดยังหนุน SET Index ให้ปรับตัวแกร่งกว่าภูมิภาคอื่นๆ ได้ โดยมีแรงหนุนจากเศรษฐกิจที่คาดทยอยฟื้นตัวใน 4Q22-2Q23 เรายังคงชอบหุ้น Domestic และ Reopening Play ส่วนระยะสั้นเลือกเก็งกำไรงบ 3Q22 ที่จะออกมาโดดเด่น

กลยุทธ์ : เลือกเก็งกำไรหุ้นที่คาดงบ 3Q22 แข็งแกร่ง และมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว // ถือลงทุนหลังสะสมหุ้นเพิ่ม

หุ้นเด่นเดือน พ.ย. : BBL, DOHOME, EKH, MAKRO, NOBLE

หุ้นเด่นวันนี้ : EKH

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 2023 ที่ 9.30 บาท
  • คาดกำไร 3Q22 +34% Q-Q จาก High Season หนุนผู้ป่วย Non-COVID-19 โตเด่น แต่ -58% Y-Y จากฐานสูงปีก่อนเนื่องจากมีเดลต้าระบาดหนัก ส่วนด้าน Margin คาดปรับตัวดีขึ้น จาก Operating Leverage หลังต่ำผิดปกติไตรมาสก่อน
  • แนวโน้มกำไร 4Q22 เราคาดได้แรงหนุนจากการบันทึกกำไรของเงินลงทุนใน KLINIQ ที่ถือหุ้นอยู่สัดส่วน 10% ส่วนการดำเนินงานหลัก Utilization Rate ปัจจุบันยังค่อนข้างเต็ม นอกจากนี้จะมี Catalyst บวกหากจีนผ่อนปรนนโยบาย Zero COVID หรือการเดินทางระหว่างประเทศ เป็นบวกต่อธุรกิจ IVF
  • แนวรับ 7.80//7.50 บาท แนวต้าน 8.20-8.30 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนยังคงไหลเข้าภูมิภาคต่อเนื่องอีก US$536 ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$390 ล้าน ส่วนไทยไหลเข้าสูงสุดในอาเซียน US$163 ล้าน อย่างไรก็ตาม แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดชะลอการไหลเข้า โดยนักลงทุนรอจับตาผลการประชุมและการส่งสัญญาณของ FED คืนนี้

ประเด็นสําคัญวันนี้

(+) AAV คาดผลการดำเนินงาน 3Q22 ขาดทุนปกติลดลงเหลือ 1.9 พันลบ.จาก 2.4 พันลบ. ใน 2Q22 ตามปริมาณผู้โดยสารที่ฟื้นตัวขึ้นแตะ 52% เทียบกับก่อน COVID-19 ขณะที่ 4Q22 คาดได้อานิสงส์จาก High Season ของการท่องเที่ยว รวมถึงเริ่มเก็บค่าธรรมเนียมเชื้อเพลิง หนุนราคาค่าตั๋วเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 20-30% คาดทำให้ 4Q22 ขาดทุนลดลงอย่างมีนัยยะ เราคาด AAV จะพลิกมีกำไรในปี 2023 โดยเราปรับประมาณการขึ้น 4% เป็น 1.3 พันลบ. และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 3.70 บาท แนะนำ “ซื้อ” (Source: FSSIA)

(0) ORI คาดกำไรปกติ 3Q22 +20% Q-Q, +9% Y-Y หนุนจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ บริหารโครงการ JV และรายได้โรงแรม iBis 3 แห่งเต็มไตรมาส ส่วนยอดโอนคาดชะลอลงจากการเลื่อนโอนโครงการใหม่ แนวโน้มกำไร 4Q22 คาดเร่งขึ้นจากการโอนที่จะเร่งขึ้น เราคาดกำไรปกติปี 2022 +20% Y-Y ส่วนปี 2023 คาดโตต่อเนื่องอีก +26% Y-Y โดยปัจจัยที่ต้องติดตามคือการส่งมอบคอนโดใหญ่ที่อาจล่าช้า คงราคาเป้าหมายที่ 13 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(+) SMT คาดกำไร 3Q22 +9% Q-Q, +38% Y-Y ทำ New High จากรายได้ที่โตแรงตาม คำสั่งซื้อที่ดีและปัญหาวัตถุดิบทยอยคลี่คลาย เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2022 ขึ้นเป็น +42% Y-Y ส่วนปี 2023 ส่วนปี 2023 คาดโตต่อเนื่องอีก +19% Y-Y เราปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2023 ที่ 6.50 บาท แนะนำ “เก็งกำไร”

(0) TOA คาด 3Q22 +35% Y-Y จากฐานต่ำปีก่อน และได้ผลบวกจากการปรับขึ้นราคาขายปีนี้ แต่ -22% Q-Q จากปัจจัยฤดูกาลและต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น เดือน ต.ค. ยังมีปัจจัยน้ำท่วม ส่งผลให้ค่าสั่งซื้อสินค้าบางส่วนชะลอออกไป แต่ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลาย และกลับมาเร่งกิจกรรมก่อสร้างรวมถึงการซ่อมแซมหลังน้ำลด ขณะที่ราคาวัตถุดิบหลักทั้ง TiO2 และ Oil linked มีทิศทางชะลอลง ทำให้กำไร 4Q22 คาดฟื้นตัวทั้ง Q-Q และ Y-Y เราคาดกำไรปี 2022 -6% Y-Y และพลิกกลับมาเติบโต +18% Y-Y ในปี 2023 คงราคาเป้าหมาย 36 บาท แนะนำ “ซื้อ”

 

(-) ตลาดดาวโจนส์ ปิดที่ 32,653.20 จุด ลดลง 79.75 จุด หรือ -0.24% จาก ตัวเลขเปิดรับสมัครงานเพิ่มขึ้นในเดือนก.ย. สะท้อนตลาดแรงงานที่ยังแข็งแกร่ง ทำให้ตลาดกลับมากังวลการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก จากเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน

(0) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับตัวผสม โดยนักลงทุนติดตามผลการประชุม FED ในสัปดาห์นี้

(+) ค่าเงินบาท แข็งค่า อยู่ที่บริเวณ 37.59 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 1.84 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 88.37 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความหวังว่าจีนอาจกลับมาเปิดประเทศ ในขณะที่เช้านี้ปรับขึ้นต่อที่ระดับ 88.83 ดอลลาร์/บาร์เรล 0.52%

(+) ราคาทองคำ COMEX ปิดเพิ่มขึ้น 9 ดอลลาร์ หรือ 0.55% ปิดที่ 1,649.7 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ในขณะที่เช้านี้ปรับขึ้นต่อที่ระดับ 1,652.70 ดอลลาร์/ ออนซ์ 0.18%

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 919.12 | -1.45

- Advertisement -