รอบด้านตลาดหุ้น: วันนี้คาดดัชนี Sideways up

Market wrap & Outlook

วานนี้ดัชนี Sideways หุ้นกดดันตลาด ได้แก่ กลุ่ม JMART JMT SINGER หุ้นใหญ่อื่นๆ BDMS ADVANC CRC ส่วนหุ้นบวกพยุงตลาด ได้แก่ DELTA โรงกลั่น-เคมีฯ TOP SPRC PTTGC SCC พลังงาน BANPU GPSC ธนาคาร KTB BAY และหุ้นบวกแรง KLINIQ (IPO น้องใหม่) DEMCO TEAMG TSR PSG

วันนี้คาดดัชนี Sideways up เราคงให้น้ำหนักเชิงบวกจาก ประเด็นความคลายกังวลเงินเฟ้อทั่วไปสหรัฐฯที่จะลดลงอย่างมีนัยยะ ในสัปดาห์นี้ ขณะที่โค้งสุดท้ายของฤดูกาลประกาศงบการเงิน บจ.ไทย เรายังคงคาดจะเห็นจำนวน บจ.แจ้งงบที่ดีกว่าคาด เพิ่มขึ้นและจะหนุนให้ภาวะการลงทุนยังคง เป็นโหมดกระทิง ต่อเนื่อง ส่วนข่าวที่ดูลบต่อผู้ประกอบการ เช่น การจำกัดเวลาทำการธุรกิจ (ห้าง ค้าปลีก ป้ายโฆษณา ปั๊มน้ำมัน ฯลฯ) ถ้าราคาก๊าซพุ่งแรงต่อเนื่อง เรามองว่ายังต้องติดตามซึ่ง ณ.ตอนนี้ยังไม่เป็นอุปสรรค์ต่อการปรับขึ้นของหุ้น 3-4 กลุ่มหลักที่เราแนะนำ…

What to watch

  • สรุปผลการดำเนินงาน บจ.ถึงวันจันทร์ พบว่ามีจำนวน บจ.ที่อยู่ภายใต้การศึกษาของ BLS Research แจ้งงบไปแล้วจำนวน 21 บจ. คิดเป็น 17% ของจำนวนที่เราศึกษาทั้งหมด พบ 12 บจ.รายงานกำไร ดีกว่าคาด (คิดเป็น 57%) และ กำไรแย่กว่าคาด 2 บจ. (คิดเป็น 10%) ที่เหลือตามคาด (คิดเป็น 33%)
  • คาดเงินเฟ้อสหรัฐฯสัปดาห์นี้จะปรับลงอย่างมีนัยยะ โดยเงินเฟ้อ Core CPI คาด 6.6% y-y
  • MSCI ประกาศทบทวนหุ้นคำนวณดัชนีฯ และน้ำหนักรอบใหม่ วันที่ 10 พย.นี้ ส่วน FTSE ประกาศ 18 พย.นี้ (TLI ตัวเต็ง ติดโผทั้ง 2 ดัชนีใหญ่)
  • รายงานผลประกอบการสัปดาห์นี้ วันที่ 8 เช่น THCOM INTUCH AP SPALI SABUY OR SPRC วันที่ 9 เช่น GPSC OSP AWC TOP BJC วันที่ 10 เช่น LH GUNKUL JASIF M MINT PTT CPN MAKRO และวันที่ 11 เช่น BH NEX VGI BOL IIG YGG BGRIM GULF WHA COM7(สำหรับหุ้นที่มีลุ้นงบดีกว่าคาด SABUY SPRC TOP BJC GUNKUL M NEX WHA COM7)

Quantitative Strategy: SET อาจปรับตัวขึ้นด้วยอัตราที่ช้าลงในระยะสั้น

ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้น 2.2% ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากการรีบาวด์ยังคงต่อเนื่องหลังจากที่ SET แตะระดับ Oversold ในช่วงกลางเดือน ต.ค. เราเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยจะยังคงปรับตัวขึ้นได้ต่อในช่วงสองสัปดาห์ข้างหน้า แต่จะขึ้นด้วยอัตราที่ช้าลง ดัชนี Composite Short-term แข็งแกร่งขึ้นนับตั้งแต่กลางเดือน ต.ค. เนื่องจากดัชนี Short-term Bull-to-Bear ได้ดีดตัวจากกรอบล่าง ในขณะที่ดัชนี Short-term Momentum Strength ได้ฟื้นตัวจากโซน Oversold อย่างไรก็ตามล่าสุดดัชนี Short-term Bull-to-Bear ได้แตะระดับกรอบบนแล้ว ส่งผลให้ดัชนี SET อาจติดแนวต้านที่ระดับ 1640 ในระยะอันใกล้

หุ้นแนะนำวันนี้

TLI เรามีมุมมองเชิงบวกต่อโอกาสที่ MSCI จะนำหุ้น TLI เข้าคำนวณ ซึ่งจะประกาศทบทวนวันที่ 10 พย.นี้

Technical Daily (T)

สแกนหุ้นกลาง-เล็ก….ทรงกำลังมา
แนะนำ ซื้อ
THCOM  แนวรับ 12.0 แนวต้าน 13.0 และ 14.0 (Stop loss < 11.8)
PLANB  แนวรับ 7.5 แนวต้าน 8.0 และ 8.5 (Stop loss < 7.3)
MAJOR  แนวรับ 18.5 แนวต้าน 19.5 และ 20.0 (Stop loss <18.3 )

Global Investing Brief : หุ้นสหรัฐฯ บวกต่อ ก่อนลุ้นผลเลือกตั้งกลางเทอมคืนนี้

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ 

  • เมื่อคืนนี้ 3 ดัชนีปิดบวกต่อเนื่องจากวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยดัชนี DJIA +1.3%, S&P 500 +1.0% และ Nasdaq +1.1% นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี Microsoft (MSFT) +2.9%, Alphabet (GOOGL) +2.2% ก่อนการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ ในวันนี้ โดยปัจจุบันตลาดมองโอกาส 82% ที่ผลจะออกมาแบบ Divided Government หรือ พรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากกันคนละสภา ซึ่ง Morgan Stanley เผยว่าผลดังกล่าวจากสถิติในอดีตมักจะนำไปสู่การปรับลงของ Bond Yield เนื่องจากโอกาสที่จะผ่านนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่จะทำได้ยากขึ้น แต่เรามองว่ากรณีนี้จะเป็นปัจจัยบวกต่อสหรัฐฯ เนื่องจาก Bond Yield เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่กดดันหุ้นในปีนี้ และการที่จะได้เห็นนโยบายชุดใหญ่ยากขึ้น คาดว่าจะส่งผลเชิงลบต่อเงินเฟ้อน้อยกว่า
  • Apple (AAPL) เผยว่าคาดการณ์จำนวนการผลิต iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max ในปีนี้อาจลดลงอย่างน้อย 3 ล้านเครื่อง จากแผนเดิมที่ 90 ล้านเครื่อง และการจัดส่งในช่วงสิ้นปีนี้ อาจล่าช้ากว่าแผนราว 3-4 สัปดาห์ หลัง Foxconn ผู้ผลิตรายใหญ่ของ Apple ในจีนโดนสั่งปิดโรงงานที่เมืองเจิ้งโจวเป็นเวลา 1 สัปดาห์ตามมาตรการ Zero-COVID ทำให้ผลิต iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max ได้น้อยลง 30% ด้าน Bloomberg Consensus ให้ TP ที่ $177.69

ตลาดหุ้นฮ่องกง

  • ดัชนีฮั่งเส็งปิดบวก 2.7% ปรับขึ้นต่อเนื่องจากวันศุกร์ และเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ นำโดย Ping An (2318) +6.2%, AIA (1299) +3.3%, HKEX (0388) +5.4% แม้ยอดส่งออกของจีนเดือน ต.ค. หดตัว 0.3%YoY ซึ่งถือเป็นการปรับลงเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ขณะที่ยอดการนำเข้าเดือน ต.ค. หดตัว 0.7%YoY ซึ่งเป็นการปรับลงครั้งแรกในรอบ 3 เดือน สะท้อนว่าความต้องการซื้อของภาคธุรกิจทั่วโลกชะลอตัว รวมทั้งมีความกังวลเรื่องการเข้าสู่สภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 66
  • Alibaba (9988) เผยว่ายอดขายสินค้าระหว่างวันที่ 1-3 พ.ย. 65 ในงาน “2022 double 11 shopping festival” ของร้านค้าต่างประเทศใน Tmall กว่า 750 รายโตเด่นถึง 2 เท่าจากปีก่อน โดยได้แรงหนุนจากการตลาดแบบสตรีมมิ่งของอินฟลูเอนเซอร์ที่ช่วยดึงดูดผู้ใช้ให้มียอดสั่งซื้อมากขึ้น ด้านคาดการณ์ Bloomberg Consensus เผยว่างานดังกล่าวจะหนุนรายได้ และกำไรใน F3Q66 (ต.ค.-ธ.ค. 65) โตที่ 7%YoY และ 83%YoY ตามลำดับ พร้อมให้ TP ที่ HKD136.75

ตลาดหุ้นเวียดนาม 

  • ดัชนี VN ปิดลบ 2.2% ต่อเนื่องจากวันศุกร์ สวนทางกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ และฮ่องกง กดดันโดยหุ้นกลุ่มอสังหาฯ KDH -7% NVL -6.8%, PDR -6.9% หลังมีรายงานว่า NVL มีแผนขายสินทรัพย์เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการชำระหนี้ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) ได้มีคำสั่งให้บริษัท NVL ไถ่ถอนหุ้นกู้คืนบางส่วน เนื่องจากหุ้นกู้ที่ออกจำหน่ายไม่มีการระบุข้อมูลด้านความเสี่ยงที่เหมาะสม
  • TCB ซึ่งมีสัดส่วน 6% ในดัชนี VN30 ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงของ DR E1VFVN3001 เผยงบ 3Q65 รายได้เพิ่มขึ้น 19%YoY แตะ VND10.9tn และกำไรเพิ่มขึ้น 23%YoY อยู่ที่ VND5.3tn เป็นไปตามที่โบรกเวียดนามคาด หนุนจากการเติบโตของทั้งรายได้ดอกเบี้ย และรายได้ค่าธรรมเนียมที่โตราว 12%YoY และ 36%YoY ตามลำดับ ด้านโบรกเวียดนามให้ TP ที่ VND38,600

Highlight

Wallstreet Journal รายงานว่า Meta Platforms (META) จะเริ่มทำการปลดพนักงานจำนวนหลายพันตำแหน่งในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าจะการปรับลดพนักงานครั้งใหญ่ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ Meta โดยมีสาเหตุจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอนสูงทำให้ธุรกิจโฆษณา (สัดส่วนรายได้ 97%) อาจหดตัวต่อ ขณะที่ธุรกิจ Reality Labs ขาดทุนไปกว่า $9bn ในช่วง9M65 และยังมีแนวโน้มกดดันกำไรบริษัทอย่างต่อเนื่อง

 

- Advertisement -