บล.ฟิลลิป:

บีซีพีจี- BCPG ธุรกิจสีเขียว 100%

Key Point

ผลการดำเนินงานปกติมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากโครงการที่จะเริ่มทยอย COD ในอนาคต และทางฝ่ายมองว่า BCPG เป็นธุรกิจพลังงานหมุนเวียนที่มีความผันผวนของผลประกอบการต่ำ จากการกระจายการลงทุนที่ดี ทำให้สามารถจ่ายเงินปันผลได้อย่างสม่ำเสมอ โดยมี dividend yield เฉลี่ย 5 ปี อยู่ที่ 3.3% นอกจากนี้มองว่าราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว

คาดผลการดำเนินงาน 3Q65 โต 37% q-q

ผลการดำเนินงาน 3Q65 อยู่ที่ 452 ลบ. +37% q-q เนื่องจาก 1) เป็นช่วง high season ของโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป. ลาว คาดว่ามี Capacity factor อยู่ที่ราว 83% คาดโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป. ลาวมีรายได้อยู่ที่ 504ลบ. +120% q-q และ +9% y-y 2) โครงการพลังงานแสงอาทิตย์และลมในไทย 156.6 MW ได้อานิสงส์จากการปรับค่า Ft ขึ้นมาอยู่ที่ 0.7828 บาท/kWh ส่งผลให้ค่า Ft เฉลี่ยใน 3Q65 อยู่ที่ 0.3256 บาท/kWh จากเดิมเพียง 0.0133 บาท/kWh แต่ผลการดำเนินงานรวมลดลง 34% y-y เนื่องจากใน 1Q65 มีการขายโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพออกไป ส่งผลให้กำลังการผลิตหายไปบางส่วน นอกจากนี้ใน 3Q65 Adder 8 บาทของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในไทยกำลังการผลิต 30 MW หมดอายุลง

คาดผลการดำเนินงานปี 2565 โต 24% y-y

ทางฝ่ายคาดการดำเนินงานปี 2565 อยู่ที่ 2,498 ลบ. +24% y-y แม้ผลการดำเนินงานจะถูกกดดันจาก Adder 8 บาท (กำลังการผลิตตามสัญญา 30 MW) ที่หมดอายุใน 3Q65 และกำลังการผลิตที่ลดลง แต่ผลการดำเนินงานยังได้แรงหนุนจาก 1) รับรู้กำไรจากการขายเงินลงทุนโครงการโรงไฟฟ้า=พลังงานความร้อนใต้พิภพ 2,030 ลบ. 2) การปรับขึ้นค่า Ft โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม 156.6 MW 3) โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำในสปป. ลาว มีอัตราค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นอยู่ที่ 0.069 ดอลลาร์/kWh จากเดิมที่ 0.0665 ดอลลาร์/kWh จากการ COD โครงการขยายสายส่งลาว-เวียดนาม

ทางฝ่ายแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 14 บาท

ทางฝ่ายแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 14 บาท (วิธี DCF, WACC 6.7%) แบ่งเป็นโครงการที่ดำเนินงานแล้ว (รวมเงินสด และรายการเทียบเท่า) 5.15 บาท และโครงการใน pipeline 8.85 บาท (กำลังการผลิตตามสัญญา 718 MW) และราคาหุ้นได้สะท้อนผลการดำเนินงานที่จะลดลงจาก Adder ที่กำลังจะหมดอายุไปมากแล้ว

ลักษณะการประกอบธุรกิจ

บริษัทประกอบธุรกิจลงทุน และผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานหมุนเวียน ได้แก่ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังน้ำ โดยปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตตามตามสัญญาที่ดำเนินการแล้วอยู่ที่ 390.6 MW

  1. โครงการโรงไฟฟ้าในประเทศไทย แบ่งออกเป็น 1) โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิตตามสัญญา ณ 2Q65 อยู่ที่ 173.5 MW และสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแบ่งออกเป็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่ได้รับส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder) สัญญาซื้อขายไฟฟ้าแบบอัตราคงที่ (Feed in Tariff: FiT) และสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับภาคเอกชน 2) โรงไฟฟ้าพลังงานลม กำลังการผลิตตามสัญญา ณ 2Q65 อยู่ที่ 9.0 MW และมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในรูปแบบ Adder โดยสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในประเทศไทย จะมีอายุประมาณ 25 ปี และส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้าจะมีอายุ 10 ปี นับจากวันที่เริ่มต้นโครงการ

2) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น มีกำลังการผลิตตามตามสัญญา ณ 2Q65 อยู่ที่ 79.7 MW โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าอายุ 20 ปี อยู่ในรูปแบบ FiT 32-40 เยน/kWh

3) โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว มีกำลังการผลิตตามตามสัญญา ณ 2Q65 อยู่ที่ 114.0 MW ซึ่งมีสัญญาประเภทประกันการรับซื้อเป็นระยะเวลา 27 ปี และอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยตลอดอายุสัญญาอยู่ที่ 0.0665 ดอลลาร์/kWh

4) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศฟิลิปปินส์ มีกำลังการผลิตตามตามสัญญา ณ 2065 อยู่ ที่ 14.4 MW โดยสัญญาซื้อขายไฟฟ้าอายุ 20 ปี อยู่ในรูปแบบ FIT ซึ่งจะปรับตามอัตราเงินเฟ้อของฟิลิปปินส์และอัตราแลกเปลี่ยน ดอลลาร์/เปโซฟิลิปปินส์

โครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา

ปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาทั้งหมด 718.0 MW

1) โครงการโซล่ารูฟท็อปในประเทศไทยมีกำลังการผลิตตามสัญญาอยู่ที่ 3.7 MW ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับภาคเอกชนระยะเวลา 15-20 ปี

2) โครงการโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น (Chiba 2)มีกำลังการผลิตตามสัญญาอยู่ที่ 10 MW ซึ่งกำหนดการ COD อยู่ในช่วงเมษายน 2567 และมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะเวลา 20 ปี

3) โครงการโรงไฟฟ้าพลังลมเฟส 1 ใน สปป.ลาว มีกำลังการผลิตตามสัญญาอยู่ที่ 230.0 MW(ถือหุ้น 38.3%) ซึ่งจะ COD ในปี 2568 และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมเฟส 2 ใน สปป.ลาว มีกำลังการผลิตติดตั้งอีก 1,000 MW ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการทำ MOU กับทางรัฐบาลของ สปป. ลาว นอกจากนี้ยังมีโครงการขยายสายส่งระหว่าง สปป. ลาว และเวียดนามอีกหนึ่งโครงการ โดยจะขยายสายส่งจากเดิมอยู่ที่ 220 kV เพิ่มขึ้นเป็น 800 MW ซึ่งจะทำให้โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ (Nam San 3A และ Nam San 3B) ที่ดำเนินการอยู่สามารถขายไฟฟ้าให้ เวียดนามได้ และมีอัตราค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นอยู่ที่ 0.0695 $/kWh จากเดิมที่ 0.0665 $/kWh โครงการดังกล่าวจะ COD ใน 4Q65

4) โครงการโรงไฟฟ้าพลังลมประเทศฟิลิปปินส์ (Nabas 2) มีกำลังการผลิตตามสัญญาอยู่ที่ 5.3 MW และมีกำหนดการ COD อยู่ในช่วง 1Q68 โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าอายุ 25 ปี

5) โครงการโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ในประเทศไต้หวันมีกำลังการผลิตตามสัญญาอยู่ที่ 469.0 MW และมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าอายุ 20 ปี อัตราค่าไฟฟ้าอยู่ที่ราว 5.2-5.6 บาท/kWh ใน 2H66 จะเริ่มทําการจ่ายไฟฟ้าด้วยกำลังการผลิต 70 MW และในปี 2567 จะเริ่มดำเนินการเต็มกำลังการผลิต

6) ลงทุนในธุรกิจแบตเตอรี่ประเภท Vanadium Redox Flow (ใช้สำหรับโรงไฟฟ้า) ในประเทศจีน ด้วยการถือหุ้นกู้แปลงสภาพของบริษัท VRB Energy ด้วยเงินลงทุน 24 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าจะใช้สิทธิแปลงสภาพในปี 2566

ในช่วง 1Q65 บริษัททำการขายเงินลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ (SEGHPL) ทั้งหมด ทำให้กำลังการผลิตตามสัญญาลดลงอยู่ที่ 369.6 MW ใน 1Q65 และเพิ่มขึ้นเล็กน้อยใน 2Q65 อยู่ที่ 390.6 MW จากการ COD โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น 20 MW และโครงการโซล่ารูฟท็อป ในไทย 1 MW

แนวโน้มอุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน

การใช้พลังงานหมุนเวียนมีแนวโน้มเติบโตตามการลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลลง โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลัก ได้แก่

1) แนวโน้มการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และ Net zero ได้รับความสนใจมากขึ้น ซึ่งพลังงานหมุนเวียนเป็นหนึ่งในทางเลือกที่จะทำให้สามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้ ทำให้หลายประเทศปรับแผนยุทธศาสตร์ทางพลังงานให้มีสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนมากขึ้นในอนาคต

2) เงินลงทุนในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนปรับตัวลดลงด้วยเช่นกัน เนื่องจากอัตราค่าไฟฟ้าจะอ้างอิงจากเงินลงทุนในโครงการ

3) การเติบโตของธุรกิจ EV ทำให้คาดว่าความต้องการใช้ไฟฟ้า จะมีแนวโน้มที่ปรับตัวสูงขึ้น

4) Green Finance ส่งผลให้กิจการที่ประกอบธุรกิจซึ่งส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่มีต้นทุนที่ต่ำกว่าธุรกิจทั่วไป

คาดผลการดำเนินงานปี 2565 โต 24% y-y

ทางฝ่ายคาดผลการดำเนินงานปี 2565 อยู่ที่ 2,498 ลบ. +24% y-y แม้ผลการดำเนินงานจะถูกกดดันจาก Adder 8 บาท (กำลังการผลิตตามสัญญา 30 MW) ที่หมดอายุใน 3Q65 และกำลังการผลิตที่ลดลง แต่ผลการดำเนินงานยังคงได้แรงหนุนจาก 1) รับรู้กำไรจากการขายเงินลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ 2,030 ลบ. 2) การปรับขึ้นค่า Ft โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม 156.6 MW 3) โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำในสปป. ลาว มีอัตราค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นอยู่ที่ 0.069 ดอลลาร์/kWh จากเดิมที่ 0.0665 ดอลลาร์/kWh จากการ COD โครงการขยายสายส่งลาว-เวียดนาม และจาก Adder ที่จะทยอยหมดอายุลงในอนาคตทำให้บริษัทยังหาโอกาสการลงทุนใหม่ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต ขณะที่เงินสดในมือและเงินลงทุนระยะสั้นอยู่ที่ราว 22,000 ลบ. ทำให้ยังมีความสามารถในการลงทุนได้ และยังคงตั้งเป้า CAPEX ปี 2565 อยู่ที่ 20,000 ลบ.

แม้ปี 2566 Adder จะทยอยหมดอายุแต่ผลการดำเนินงานยังโต y-y ทางฝ่ายคาดว่าผลการดำเนินงานปกติ (Normalize profit) ปี 2566 อยู่ที่ 1,196 ลบ. โต 64% y-y เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานปกติปี 2565 ที่ 728 ลบ. แม้ว่า Adder จะเริ่มทยอยหมดอายุ แต่ผลการดำเนินงานยังคงได้แรงหนุนจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิย์ในไต้หวันจะเริ่ม COD กำลังการผลิต 70 MW ใน 3Q66F และจะเริ่มดำเนินการเต็มกำลังการผลิตในปี 2567 ที่ 469 MW ซึ่งคาดว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถผลิตไฟฟ้าได้ราว 659 GWh ต่อปี และคาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 3,427 ลบ. ต่อปี นอกจากนี้ในปี 2568 คาดจะ COD โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ในสปป. ลาว กำลังการผลิตตามสัญญาอยู่ที่ 230 MW ซึ่งคาดจะสามารถผลิตไฟฟ้าได้อยู่ที่ 664 GWh ต่อปี และสร้างรายได้อยู่ที่ราว 1,571 ลบ. ต่อปี ซึ่งทั้งสองโครงการจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักที่ เข้ามาหนุนรายได้จาก Adder ที่หมดอายุ

ทางฝ่ายเร่ิมต้นคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 14 บาท

ทางฝ่ายเร่ิมต้นคำแนะนำ “ซื้อ ” ราคาพื้นฐาน 14 บาท (วิธี DCF) มองราคาปัจจุบันปรับตัวลงมาค่อนข้างมาก และรับรู้ผลการดำเนินงานที่อาจอ่อนตัวลงจากกำลังการผลิตที่ลดลงจากการขายเงินลงทุน และ Adderที่กำลังจะหมดอายุในช่วง 2566-2567 ไปมากแล้ว ซึ่งปัจจุบันมี PE ใกล้เคียงกับระดับ -2SD ที่ 9.86x ส่วน PBV ระดับ -2SD ที่ 0.72x นอกจากนี้ BCPG ยังมีผลการดำเนินงานที่มีความผันผวนต่ำ เนื่องจากมีการกระจายการลงทุนทั้งในด้านภูมิศาสตร์ และประเภทของแหล่งพลังงาน ส่งผลให้บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลได้อย่างสม่ำเสมอ และมี dividend yield เฉลี่ย 5 ปี อยู่ที่ 3.3%

ความเสี่ยง

  1. การเปลี่ยนแปลงของนโยบายภาครัฐ
  2. การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน
  3. ปัจจัยทางฤดูกาลของแต่ละประเทศ
- Advertisement -