ตลาดอยู่ระหว่างรอดูตัวผลเลือกตั้งและเงินเฟ้อสหรัฐฯ
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones ปรับขึ้น 1.02% นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นต่อเนื่อง ลุ้นผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปรับลดลง 2.6% เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการแพร่ระบาด COVID-19 ในจีนจะกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
Market Outlook
ภาพรวมวันนี้ค่อนข้างทรงตัว ตลาดอยู่ระหว่างรอดู (1) ผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างนับคะแนน (2) เงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่จะประกาศในคืนพรุ่งนี้ ตามเวลาประเทศไทย (วันพฤหัสบดีช่วงกลางคืนราว 20.30 ตามเวลาประเทศไทย) Bloomberg คาดการณ์ที่ 7.9%YoY ลดลงจากเดือนก่อนที่ 8.2%YoY ส่วนคืนนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ มีเพียงสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ Bloomberg คาดที่ 0.3 ล้านบาร์เรล หากสูงกว่าคาดจะยิ่งเพิ่มแรงกดดันด้านราคาน้ำมันดิบและเป็นลบกับหุ้นกลุ่มน้ำมัน แต่จะเป็นบวกต่อเงินเฟ้อในทางคลี่คลาย ขณะเดียวกันค่าเงิน Dollar Index อ่อนค่าลงต่อเนื่องพร้อมกับการปรับลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 และ 10 ปี สะท้อนถึงการคลายกังวลเงินเฟ้อและดอกเบี้ย ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นทั่วโลก จึงยังคงมุมมองตลาดหุ้นอยู่ในช่วงฟื้นตัว ก่อนที่ปีหน้าจะกลับมากังวลกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ด้านในประเทศเน้นที่การประกาศผลประกอบการวานนี้ หุ้นที่กำไรดีกว่า Bloomberg คาดไว้ ได้แก่ (AP QH SPALI) ใกล้เคียง Bloomberg คาด (KCE) ต่ำกว่าตลาด คาด (MTC) ขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง เช้านี้ทดสอบ 36.94 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นระดับที่แข็งสุดในรอบ 2 เดือน หนุน Fund Flow ไหลเข้าต่อเนื่อง สอดคล้องกับช่วง MTD ที่ผ่านมาที่ซื้อสุทธิติดต่อกัน รวมแล้ว 1.57 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ ด้วยภาพที่ตลาดอยู่ระหว่างรอปัจจัยที่กล่าวไปข้างต้น จึงประเมินว่า SET วันนี้จะคลื่อนไหวในกรอบ 1625–1640 เชิงกลยุทธ์การลงทุนนาทียังเน้นหุ้นขนาดใหญ่ที่จะเป็นเป้าหมายของ Foreign Fund Flow อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO ILM) สื่อสาร (ADVANC INTUCH) ธนาคาร (BBL KBANK SCB TTB TISCO) ท่องเที่ยว (AOT MINT) อสังหา (AP LH SPALI) โรงไฟฟ้า (BGRIMGPSC) หุ้นได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับลง(SCC SCGP)
Pi Stock Picks
SCGP (ซื้อ / ราคาเปา้ หมาย 61.00 บาท)
คาดกำไรปกติไตรมาส 4/22 จะโต YoY เพราะอุปสงค์ดีขึ้น และคาดภาพรวมดีขึ้นเ QoQ จาก 1) ปัจจัยตามฤดกู าลในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2) ความเหลื่อมด้านเวลาของการปรับราคา พร้อมกับแรงกดดัน ด้านต้นทุนที่ลดลงค่าต้นทุนคาดต้นทุนพลังงานคิดเป็นสัดส่วน 7% ของต้นทุนการขาย (COGS) จากเดิมที่ 8% สืบเนื่องจากปัญหาคอขวดในห่วงโซ่อุปทานที่คลี่คลายลง อิงข้อมูลจากแนวทางผู้บรหิาร
BGRIM (ซื้อ / ราคาเป้า หมาย 40.00 บาท)
คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 4/2 2 จะได้ประโยชน์จากการปรับเพิ่มค่า Ft เป็น 0.93บาท/kWh สำหรับดือน ก.ย.-ธ.ค. 2022 ขณะท่คาดถึงการปรับเพิ่มอีก 0.20-0.30 บาท/kWh ในเดือน ม.ค.-เม.ย. 2023 ขณะที่คาดว่าราคาก๊าซจะชะลอลง โดยสรุปแล้วคาดว่าจะช่วยหนุนอัตรากำไร SPP ในปี 2023 ขึ้นได้
