บล.บัวหลวง:

IRPC (IRPC TB/IRPC.BK)

IRPC – ขาดทุนไตรมาส 3/65 เป็นไปตามคาด; คาดปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 4/65

เป็นไปตามคาด

IRPC รายงานขาดทุนสุทธิไตรมาส 3/65 ที่ 2,549 ล้านบาท พลิกกลับจากการรายงานกําไรสุทธิในไตรมาส 3/64 และไตรมาส 2/55 หากไม่รวมรายการพิเศษขาดทุนหลักจะอยู่ที่ 1,661 ล้านบาท พลิกกลับจากการรายงานกำไรหลักในไตรมาส 3/64 และ ไตรมาส 2/65 ซึ่งเป็นไปตามที่เราและตลาดคาด

ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ

ปัจจัยที่ส่งผลให้ผลการดำเนินงานหลักอ่อนตัวลง ได้แก่ 1) ปริมาณขายผลิตภัณฑ์นํ้ามันสำเร็จรูปและปิโตรเคมีที่ลดลง, 2) ค่าการกลั่นตลาดรวม (market GIM) ที่ลดลง, และ 3) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น – สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 2.0% จาก 1.9% ในไตรมาส 2/65 ทั้งนี้อัตราการใช้กำลังการกลั่นอยู่ที่ 88% ลดลงจาก 89% ในไตรมาส 3/64 และ 92% ในไตรมาส 2/65 (optimization และการปิดซ่อมบำรุงโรงงานตามแผน) อัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงงานอะโรเมติกส์และสไตรีนิคส์อยู่ที่ 85% ลดลงจาก 105% ในไตรมาส 3/64 และ 96% ในไตรมาส 2/65 (optimization) อัตราการใช้กําลังการผลิตของโรงงานโอเลฟินส์อยู่ที่ 92% ลดลงจาก 98% ในไตรมาส 3/64 แต่เพิ่มขึ้นจาก 87% ในไตรมาส 2/65 (ไม่มีการปิดซ่อมบ้ารุงโรงงาน)

ค่าการกลั่น (market GRM) ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 5.27 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้นจาก 5.00 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ในไตรมาส 3/64 แต่ลดลงจาก 16.31 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ในไตรมาส 2/65 (ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่ลดลง) ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีอยู่ที่ 1.10 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลงจาก 6.26 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ในไตรมาส 3/64 และจาก 2.98 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ในไตรมาส 2/65 (ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง) กําไรจากธุรกิจไฟฟ้าและสาธารณูปโภคอยู่ที่ 0.68 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลงจาก 1.14 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในไตรมาส 3/64 และ 0.86 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ในไตรมาส 2/65 ดังนั้นค่าการกลั่นตลาดรวม (market GIM) ในไตรมาส 3/65 อยู่ ที่ 7.05 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลงจาก 12.40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ใน ไตรมาส 3/64 และ 20.15 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ในไตรมาส 2/65

แนวโน้ม

กําไรหลักไตรมาส 4/65 ของ IRPC มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ หนุนโดยค่าการกลั่นตลาดรวม (market GIM) ที่สูงขึ้น เราคาดค่าการกลั่นจะขยายตัว YoY และ QoQ ในไตรมาส 4/65 หนุนโดยอุปสงค์ผลิตภัณฑ์น้ำมันสําเร็จรูปในวงกว้างที่ปรับตัวดีขึ้น, อุปสงค์น้ำมันดีเซล, น้ำมันเครื่องบิน, และนํ้ามันเตาที่มีส่วนผสมของคํามะถันในระดับสูงที่แข็งแกร่งขึ้นตามฤดูกาล และอุปทานที่ตึงตัว ต้นทุนน้ำมันดิบมีแนวโน้มที่จะลดลง QoQ ในไตรมาส 4/65 ตามทิศทางของราคานํามันดิบ ขณะที่ส่วนต่างราคาปิโตรเคมีบางประเภทมีแนวโน้มที่จะลดลง YoY (ทรงตัว QoQ) ในไตรมาส 4/65 เนื่องจากอุปทานซึ่งมีจํานวนมาก อย่างไรก็ตาม อัตราการใช้กำลังการกลั่นที่ลดลงเนื่องจากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นอาจจํากัดการปรับตัวดีขึ้นของก๋าไรบางส่วน

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

ถึงแม้ว่ากำไรสุทธิ 9 เดือนแรกของปี 2565 คิดเป็น 50% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 ของเราที่ 5,539 ล้านบาท เรายังคงประมาณการไว้ไม่เปลี่ยนแปลง เนื่องจากเราคาดว่ากำไรจะปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 4/65

คำแนะนำ

ความคาดหวังต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานหลักที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องไปในไตรมาส 4/65 น่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นได้ต่อไป นอกจากนี้ยังมีอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรของเราจากการลงทุนใหม่ๆ มูลค่าหุ้น IRPC ยังคงอยู่ในระดับที่น่าสนใจ โดยซื้อขายที่ PBV ณ สิ้นปี 2566 ที่ 0.7 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 1.3 เท่า อยู่ 1.5 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน)

- Advertisement -