บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
KCE Electronics (KCE.BK/KCE TB)*
จับตาความไม่แน่นอนในตลาด
Event
ประชุมนักวิเคราะห์
Impact
ยอดขายอาจจะไม่น่าตื่นเต้น แต่อาจจะดีขึ้นในไตรมาสที่สี่
margin ผู้บริหารมองว่ายอดขายอาจจะทรงตัว QoQ ใน 4Q65 เพราะยังมีความไม่แน่นอนในตลาดอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรขั้นต้นอาจจะดีขึ้น QoQ เป็นประมาณ 25% (จาก 24.3% ใน 3Q65) เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบลดลง ทั้งนี้ ราคาทองแดงเฉลี่ยอยู่ที่ US$7,720/ton ใน 2Q65 (-18% YoY, -19% QoQ) และ US$7,581/ton ใน 3Q65 (-21% YoY, -2% QoQ) ดังนั้น ผลประกอบการใน 4Q65 จึงน่าจะดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ
ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม ซึ่งจะกดดันแนวโน้มปี 2566
บริษัทปรับลดเป้าอัตราการเติบโตของยอดขายปี 2566 ลงจากประมาณ 20% YoY เหลือ 5-10% YoY และเลื่อนแผนขยายโรงงานที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ (จาก 2H66 เป็น 2H67) เพื่อสะท้อนถึงความไม่แน่นนอนในตลาด ในขณะเดียวกัน บริษัทตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นปี 2566 เอาไว้ที่ 27% เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบลดลง อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าการเพิ่มยอดขายในปี 2566 ยังเป็นความท้าทายท่ามกลางความกังวลทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในยุโรป (ยอดขายในยุโรปคิดเป็นประมาณ 50% ของยอดขายรวมของ KCE) ทั้งนี้ ในช่วงที่เกิดวิกฤติหนี้ EU ในปี 2565 ยอดขายของ KCE ลดลง 12% YoY
ปรับลดประมาณการกำไรปี 2565-2567 ลง 7%
เนื่องจากยอดขายต่ำเกินคาดในไตรมาสที่สาม และแนวโน้มไม่น่าตื่นเต้นในไตรมาสที่สี่ เราจึงปรับลดสมมติฐานยอดขายลง 4% (ทำให้อัตราการเติบโตของยอดขายปี 2565 อยู่ที่ 13% ปี 2566 อยู่ที่ -4% และปี 2567 อยู่ที่ 6%) แต่ยังคงสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นเอาไว้เท่าเดิมที่ 23.9% ในปี 2565 และ 24.1% ในปี 2566-2567 เพื่อสะท้อนถึงต้นทุนวัตถุดิบที่อาจจะลดลง โดยสรุปแล้ว เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2565-2567 ลงเฉลี่ย 7% ซึ่งจะทำให้กำไรจากธุรกิจหลักของ KCE เพิ่มขึ้น 8% YoY ในปี 2565 ลดลง 3% YoY ในปี 2566 และเพิ่มขึ้น 6% ในปี 2567
Valuation & action
เราปรับลดราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ลงจากเดิม 47.00 บาท เหลือ 43.00 บาท อิงจาก PER ที่ 22.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีต -0.25 S.D.) และยังคงคำแนะนำ “ถือ” KCE
Risks
ภัยธรรมชาติ, มีการปิดโรงงานนอกแผน, ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier รายอื่น, ขาดแคลนวัตถุดิบ, เงินบาทแข็งค่าขึ้น (เราใช้สมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยนปี 2565-66 ที่ 34.50 บาท/ดอลลาร์ฯ)
