BCPG แนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 10 บาท

ผลประกอบการ 3Q22

กำไรสุทธิใน 3Q อยู่ที่ 641 ลบ (EPS 0.22 บาท) +94% qoq แต่ -6% yoy

ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น qoq เป็นเพราะโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่ลาว และผลขาดทุนที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว (รวม 219 ลบ) ใน 2Q ที่แย่ลง yoy เพราะ adder ของโรงไฟฟ้า solar หนึ่งในไทย (30MW, adder ที่ 8 บาท/KWh) หมดอายุในเดือนก.ค. CF โรงไฟฟ้า Solar ในไทยลดลงมาอยู่ 15.0% เนื่องจากรังสีความร้อนลดลง  ส่วนปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่ขายได้ของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Nam San 3A และ 3B ในลาวเพิ่มขึ้น 106% โดย เพิ่มขึ้นเป็น 82.8% ปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่สามารถขายได้ของโรงไฟฟ้า solar ในญี่ปุ่นลดลง 7.2% qoq ขณะที่ CF ลดลงเหลือ 14.4% จากรังสีความร้อนลดลง BCPG เริ่ม COD โรงไฟฟ้า solar สองแห่งในปีนี้ หนึ่งแห่ง 1Q (25MW, Komagane) และอีกหนึ่งแห่งใน 2Q (20MW, Yabuki) สำหรับรายการรายได้ Equity income พลิกเป็นขาดทุน 17 ลบ. เพราะรับรู้ผลขาดทุนจากโครงการพลังงานลมในฟิลิปปินส์เนื่องจากเป็นหน้ามรสุม และการขายโครงการพลังความร้อนใต้พิภพในอินโดนีเซียเมื่อเดือนมีนาคม 2022 ทั้งนี้ BCPG บันทึกกำไรที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว 15 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน (167 ล้านบาท) จากที่บันทึกผลขาดทุน 219 ล้านบาทใน 2Q ดังนั้น กำไรสุทธิของ BCPG จึงอยู่ที่ 641 ล้านบาท (EPS 0.22 บาท) เพิ่มขึ้น 94% qoq แต่ลดลง 6% yoy

แนวโน้ม

คาดว่าผลการดำเนินงานจะแผ่วลงใน 4Q

คาด CF ของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Nam San 3A และ 3B ลดลงใน 4Q เนื่องกระแสน้ำลดลง โดย CF ของโรงไฟฟ้าพลังน้ำน่าจะลดลงเหลือ 50% ใน 4Q คาด CF ของโรงไฟฟ้า solar ในประเทศไทยจะดีขึ้นหลังผ่านช่วงที่ต่ำตามฤดูกาลไปแล้วใน 3Q แต่เนื่องจากจะมีโรงไฟฟ้า solar อีก 10MW ที่ adder (8 บาท/KWh) จะหมดอายุในเดือนตุลาคม  ดังนั้นเราจึงคาดว่าผลประกอบการจะยังอ่อนแอใน 4Q

คงคำแนะนำถือ และประเมินราคาเป้าหมายที่ 10 บาท

ราคาเป้าหมาย SoTP ของเราที่ 10 บาท อิงจาก PE ปี FY22/23F ที่ 14.0x/19.6x ทั้งนี้ จะมี adder ของโรงไฟฟ้า solar ในประเทศไทยที่จะหมดอายุอีก 32MW ใน 1Q และ 2Q23 ดังนั้น เราจึงมองว่าเป็นความท้าทายสำหรับ BCPG ในการจะหากำลังการผลิตใหม่มาเติมกำไรในช่วงสุญญากาศระหว่างปี 2022-25 เมื่อ adder 8 บาท/KWh ของโรงไฟฟ้า solar สามโครงการในประเทศไทยหมดอายุลง