บล.บัวหลวง:

Carabao Group (CBG TB/CBG.BK)

CBG – กำไรไตรมาส 3/56 ต่ำกว่าคาดอย่างมาก

กําไรต่ำกว่าที่เราและตลาดคาด

CBG รายงานกำไรหลักที่ 475 ล้านบาทในไตรมาส 3/65 ลดลง 21% YoY 36% และ QoQ ผลประกอบการต่ำกว่าที่เราและตลาดคาด 25% โดยหลักมาจากรายได้ที่ต่ำกว่าคาด และต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารมากกว่าคาด

ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ

รายได้ในไตรมาส 3/65 เพิ่มขึ้น 19% YoY เป็นผลมาจากยอดขายเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศและการส่งออก และหนุนโดยธุรกิจการจัดจำหน่าย อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือ 29.0% ในไตรมาส 3/65 (จาก 34.1% ในไตรมาส 3/64) มาจากสัดส่วนที่มากขึ้นของรายได้จากธุรกิจจัดจําหน่าย (ธุรกิจที่ให้อัตรากำไรน้อยกว่าธรุกิจขายเครื่องดื่มชูกำลัง) และต้นทุนการผลิตเครื่องดื่มชูกำลังที่เพิ่มขึ้นและต้นทุนบรรจุภัณฑ์

ถ้ามองในแง่ของ QoQ รายได้ในไตรมาส 3/65 ลดลง 11% มาจากการส่งออกเครื่องดื่มชูกำลังไปยังประเทศกัมพูชา (ปัจจัยฤดูกาล) เมียนมาร์ (ความขัดแย้งทางการเมือง) และจีน ที่ลดลง และ CBG ยังรายงานรายได้จาก ยอดขายเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศและธุรกิจจัดจำหน่ายที่ลดลง QoQ และอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง QoQ

แนวโน้ม

ในไตรมาส 4/65 เราคาดรายได้ของ CBG จะเพิ่มขึ้น 5% YoY (ฐานที่ต่ำในไตรมาส 4/64) แต่ลดลง 2% QoQ (ยอดขายเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศและการส่งออกที่ลดลง) ธุรกิจจัดจําหน่ายจะรายงานกำไรเติบโตเล็กน้อย YoY และ QoQ เราคาดอัตรากําไรขั้นต้นที่ 29.5% ลดลงจาก 31.4% ในไตรมาส 4/64 เนื่องจากต้นทุนการผลิตเครื่องดื่มชูกำลังและบรรจุภัณฑ์ที่สูงขึ้น แต่หากเปรียบเทียบ QoQ อัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากต้นทุน บรรจุภัณฑ์ที่ลดลง QoQ ดังนั้น ประมาณการกำไรไตรมาส 4/65 ของเราอยู่ที่ 466 ล้านบาท ลดลง 24% YoY และ 2% QoQ

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

เนื่องจากผลประกอบการไตรมาส 3/65 ต่ำกว่าที่เราคาด เราจึงปรับประมาณการกำไรปี 2565 ของเราลดลง 16% และ 14% ในปี 2566 เราปรับเป้าหมายการลงทุนไปเป็น ณ สิ้นปี 2566 ทำให้ราคาเป้าหมายด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลงที่ 115 บาท

คําแนะนํา

ผลประกอบการไตรมาส 3/65 ที่น่าผิดหวังอาจจะส่งผลต่อราคาหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วง 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา (จากราคาต่ำสุดที่ 80.50 บาทในวันที่ 5 ต.ค. ไปเป็น 98.50 บาทในวันที่ 11 พ.ย.) และเราคาดว่าจะมีการปรับประมาณการตลาดในสัปดาห์นี้ ทำให้ CBG ขาดปัจจัยขับเคลื่อนกำไรระยะสั้น อย่างไรก็ตาม เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” เนื่องจากคาดว่ารายได้จากธุรกิจจัดจําหน่ายจะขยายตัวต่อเนื่อง และยอดขายเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศจะยังคงเพิ่มขึ้นในระยะยาว ประมาณการกำไรเติบโต 16% YoY ในปี 2566

- Advertisement -